อยากรู้ว่า ฟิลเลอร์ปลอม กับ ฟิลเลอร์แท้ ต่างกันยังอย่างไร? เเละวิธีไหนคือ วิธีสังเกตฟิลเลอร์ปลอมที่ถูกต้อง วันนี้หมอจะมาให้ความรู้เรื่องฟิลเลอร์กันก่อน เพื่อให้สามารถสังเกตลักษณะและป้องกันไม่ให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อเสี่ยงหน้าพังกันค่ะ
ฟิลเลอร์ คืออะไร?
หมอขออนุญาตอธิบายให้ฟังกันก่อนดีกว่าว่า ฟิลเลอร์คืออะไร? ฟิลเลอร์ ก็คือสารเติมเต็มชนิดหนึ่ง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเติมเต็มส่วนที่หายหรือสึกหรอลงไป นิยมนำมาใช้แก้ไขปัญหาบนใบหน้าเช่น ร่องใต้ตาลึก ขอบตาดำคล้ำ แก้มตอบ ขมับตอบ คางสั้น ร่องแก้มลึก ซึ่งวิธีการแก้ไขใบหน้าด้วยฟิลเลอร์นั้นก็เป็นที่นิยมกันมากเพราะว่า ไม่ต้องพักฟื้นและยังสวยได้ทันทีด้วยค่ะ โดยฟิลเลอร์แท้ที่ใช้กันในคลินิกมาตรฐานจะสามารถสลายตัวไปเองได้ และไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย
ชนิดของฟิลเลอร์ที่นิยมฉีด
หากแบ่งชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับฉีดเติมเต็มร่องริ้วรอยต่างๆ แบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ
- แบบชั่วคราว คือ สาร Hyaluronic Acid ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าบริเวณที่ต้องการ จะสามารถคงสภาพได้ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี (ขึ้นอยู่กับบุคคล) มีความปลอดภัยสูงและสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
- แบบกึ่งถาวร คือ เช่น สาร PMMA (Polymethyl-methacrylate) สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyakylimide) เป็นสารที่สังเคราะห์ที่สามารถเข้ากับได้กับเนื้อเราได้ ข้อดีคือ สามารถอยู่คงทนกว่าแบบแรก ซึ่งในบางรายอาจจะอยู่ได้นานถึง 2 ปี สามารถสลายเองได้ แต่ก็จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยระดับกลางในบางรายอาจจะมีอาการแพ้ได้
แบบถาวร หรือที่รู้จักก็คือ ซิลิโคนเหลว เป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ไม่สามารถสลายออกเองได้ หลังฉีดทำให้เกิดเป็นก้อนเป็นลำ และหากจะเอาออกต้องขูดออกสถานเดียว ผลข้างเคียงเยอะเสี่ยงต่อการอักเสบ ในบางรายขั้นทำให้ผิวหนังที่ฉีดผิดรูป ดังนั้นหมอจึงไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ชนิดนี้
อันตรายจาก ฟิลเลอร์ปลอม เสี่ยงหน้าพัง ติดเชื้อ เนื้อตาย และตาบอด
(Update 2024) ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? เหมาะกับใช้ฉีดตรงไหน
การฉีดฟิลเลอร์มีข้อดีอย่างไร?
- เห็นผลทันทีหลังฉีด ไม่ต้องรอนาน
- เติมส่วนที่ดูสูงวัย ให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้น เช่น ริ้วรอย ร่องลึกใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ฯลฯ ให้ผิวกลับมาเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติ
- ปรับสัดส่วนโครงหน้าให้เล็กลง ได้รูป หรือทำตามโหงวเฮ้งมงคลได้ ฉีดฟิลเลอร์ 7 ส่วนใบหน้าเสริมดวง รับทรัพย์ แก้ชง เสริมดวงชะตา
- ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ไม่เกิดผลข้างเคียง*
*เมื่อทำการฉีดกับคลินิกมาตรฐานที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาเท่านั้น และ FILLER ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย ได้แก่ ยี่ห้อ JUVEDERM , RESTYLANE, BELOTERO, PERFECTHA, NEURAMIS
ฟิลเลอร์ juvederm ดีอย่างไร เหมาะกับฉีดตรงไหน
ฟิลเลอร์ restylane เหมาะกับฉีดส่วนไหน
สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังประสบปัญหาริ้วรอย ร่องลึกในบริเวณต่างๆ หรือปัญหาใบหน้าไม่มีน้ำมีนวล แก้มตอบ อยากจัดโครงสร้างให้สมส่วน ดูอ่อนเยาว์ และเป็นธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งเป็นทางเลือกที่จะช่วยแก้ไขได้ได้ แต่ย้ำเสมอนะคะว่า ต้องทำกับหมอที่เชี่ยวชาญและได้มาตรฐานเท่านั้น ถึงจะไม่มีอันตรายค่ะ
แนะนำวิธีดูแลตัวเอง “ก่อน”ทำการฉีดฟิลเลอร์
- ควรงดทานยา แอสไพริน, NSAIDs เช่น ibruprofen diclofenac ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำ และหากมีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาจำพวกนี้ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนหยุดทานนะคะ
- งดการทานวิตามินบางชนิด เช่น St. Johns Wort, ginko biloba,Vitamin E เวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำ
- หยุดการแว็กซ์ผิว ผลัดผิว หรือการดึงขนหรือโกนขนในบริเวณนั้นๆ เป็นเวลา 3 วันก่อนมาทำ
- ห้ามนวดหน้าหรือเลเซอร์ต่างๆ อย่างน้อย 3 วัน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนทำ
- ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนทำ เช่น ซาวน่า การออกกำลังกายแบบ Cardio
ดูแลตัวเอง “หลัง” ทำการฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น การจับ การแตะ การเกา การกด โดยเฉพาะจุดที่มีรอยช้ำ เพราะอาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 7 วัน หากไม่ดีขึ้นต้องกลับมาพบแพทย์ค่ะ รอยช้ำใต้ตา ฉีดฟิลเลอร์แล้วมีรอยช้ำ แก้ไขอย่างไร?
- อยู่ให้ห่างกับความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ 7 วัน
- งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารแสลงหรืออาหารดิบ เช่น ปูเค็ม ปลาร้า แหนม ปลาดิบ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดนวดหน้า ทรีทเมนท์ และเลเซอร์ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
วิธีดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์ ใน 24 ชั่วโมง ต้องทำตัวยังไง
ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วันหาย และต้องทำอย่างไร ให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานๆ
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดห้ามทำอะไร เทคนิคการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
วิธีสังเกต ฟิลเลอร์ปลอม
ดังนั้น ฟิลเลอร์ปลอมที่หลายคนพลาดไปฉีดกันก็คือ ซิลิโคนเหลวนี่แหละค่ะ ซึ่งต้องบอกว่าหลายคนยังเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชนิดเดียวกันกับฟิลเลอร์อยู่ทำให้พลาดไปฉีดกัน ในบางรายก็เกิดจากความไม่ทราบจริงๆ เพราะถูกหลอกให้หลงเชื่อว่าเป็นของแท้ เพราะฟิลเลอร์ปลอมเหล่านี้จะมีการเลียนแบบทำแพกเกจกล่องเหมือนของแท้แบบเป๊ะๆ ขนาดแกะกล่องออกมาขวดบรรจุฟิลเลอร์ยังทำเหมือนกันเลยค่ะ แต่ข้างในสารกึ่งซิลิโคนไม่ใช่สาร HA (Hyaluronic Acid) ซึ่งผลก็คือหากฉีดเข้าไปไม่ย่อยสลาย หากไม่ใช่แพทย์ที่เชี่ยวชาญจริงๆ ก็อาจจะหลงเชื่อได้ ดังนั้นหมอจะมาสอนวิธีให้สังเกตกันง่ายๆ ว่า จับผิดฟิลเลอร์ปลอมทำยังไง??
1.ราคา
หากจะดูว่าฟิลเลอร์ตัวนั้นปลอมหรือแท้ให้สังเกตที่ “ราคา” ก่อนเป็นอับดับแรกเลย หากพบว่าราคาถูกมากเกินไปให้สงสัยไว้ก่อนเลยค่ะว่า ฟิลเลอร์นั้นอาจจะเป็นของปลอม ดังนั้นสาวๆ จึงไม่ควรเห็นแก่ของที่มีราคาถูกมากเกินไป เพราะนอกจากจะไม่ปลอดภัยเเล้วยังเสี่ยงอันตรายจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมด้วย
2. ฉลากภาษาไทย
ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อที่จะที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย จะมีฉลากภาษาไทยระบุรายละเอียดของสินค้าติดไว้ทั้งราคา วันหมดอายุอย่างชัดเจนที่ข้างกล่อง รวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับสารฟิลเลอร์นั้นๆ หากฟิลเลอร์ชนิดไหน ไม่มีฉลากภาษาไทยในส่วนนี้ระบุอยู่ ก็อาจจะเสี่ยงเป็นของปลอมได้
3. มาตรฐานความปลอดภัย
ฉลากของฟิลเลอร์ของแท้นั้นจะมีการระบุถึงมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยจาก อย. ไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นหากคุณต้องการฉีดฟิลเลอร์ให้ปลอดภัยและเกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มี อย. รับรองจะดีที่สุด โดยฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย ทั้งหมดจะมียี่ห้อดังนี้ คือ JUVEDERM , RESTYLANE, BELOTERO, PERFECTHA, NEURAMIS
ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ข้อแตกต่างของฟิลเลอร์แต่ละชนิด มีอะไรบ้าง
4.ฟิลเลอร์ตามอินเตอร์เน็ต
เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นยาควบคุม ซึ่งตามปกติจะไม่มีขายตามร้านขายยาหรือร้านค้าทั่วไปโดยเฉพาะในอินเตอร์เน็ต ในการสั่งซื้อยา ต้องเป็นแพทย์เท่านั้น และต้องยื่นหลักฐานหลายอย่างประกอบกัน เช่น ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ใบอนุญาตเปิดสถานพยาบาล ดังนั้นฟิลเลอร์ที่ขายในอินเทอร์เน็ตจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรซื้อมาเลย เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเจอฟิลเลอร์ปลอมสูงมาก ซึ่งแม้หลายคนจะมีการแชร์วิธีการจับโป๊ะกันในโซเชียลกับวิธีในการสังเกตว่า “แท้ไม่แท้” กันมากมายหลายวิธี แต่หมอบอกเลยค่ะว่า เป็นส่วนนึงเท่านั้นเองเพราะ ของปลอมนั้นมีการดัดแปลงเหมือนมาก ต้องอาศัยแพทย์ที่มีการเชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์เท่านั้นค่ะ ถึงจะสามารถแยกแยะได้ ดังนั้นไม่ควรซื้อฉีดเองนะคะ
5.ผู้แอบอ้างเป็นแพทย์
ที่น่ากลัวกว่ายิ่งกว่าฟิลเลอร์ปลอมก็คือ การฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มโดยผู้ที่แอบอ้างเป็นแพทย์หรือภาษาที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง “หมอกระเป๋า” ต้องบอกเลยนะคะว่า เป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ เลย เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการใช้ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ย่อยสลายแล้ว ยังมีเรื่องของเทคนิคเฉพาะทางที่จำเป็นต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ฉีดให้เท่านั้น เพราะการฉีดฟิลเลอร์นั้นจำเป็นต้องฉีดในจุดที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนมากๆ เช่น บริเวณรอบดวงตา ดันนั้นหากฉีดผิดจุดไปอาจจะทำให้ผิวไม่เรียบเนียน ไปจนถึงอาจเสี่ยงต่อการอักเสบอีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี? เทคนิคเลือกคลินิกฟิลเลอร์แบบปลอดภัย #สวยไม่เสี่ยง
6 อันตรายจาก หมอกระเป๋า เตือนภัยสวยไวราคาถูก หมอปลอมทำหน้าพัง
………………………………………..
อ่านรีวิวคนไข้คนอื่นๆ ของหมอโบ เดอโบคลินิกได้ที่นี่
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่ากว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรบแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
อ่านบทความที่น่าสนใจได้ที่นี่
ฟิลเลอร์คาง ปรับรูปหน้า คางสวย หน้ามีมิติ ไม่ต้องผ่าตัด ฉีดคางอย่างปลอดภัย
ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ตาคล้ำ ดวงตาลึกโหล่ ดูไม่สดใส ร่องใต้ตาลึก
เทคนิค ลดริ้วรอย ไม่ต้องผ่าตัด มีหน้าเรียวสวยปรับรูปหน้า ลดกรามไม่ต้องพักฟื้น