สินค้าและบริการ
เติมเต็มใต้ตา ขมับตอบ แก้มตอบ ร่องแก้ม คาง ริมฝีปาก และปรับรูปหน้า
ลดริ้วรอยหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา, ลดกรามปรับรูปหน้าเรียว, ยกกระชับหน้า
ยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
ผลัดเซลล์ผิวเก่า ฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว
รีวิวจากลูกค้าจริง

คุณจ๊ะจ๋า


คุณกิ๊ฟ G20


คุณแนนนี่ Girly Berry


คุณอั๋น ชยพล บุนนาค


คุณแน๊ตตี้ นาตาชา

เสียงจากผู้ใช้จริง
“ฟิลเลอร์ใต้คาง”
เป็นอีกหนึงเคสที่น่าสนใจ ที่ช่วยสร้างรูปหน้าเรียวสวยเป็นธรรมชาติ เดิมทีคนไข้ใบหน้าทู่ทำให้ดูหน้าดูไม่สมดุล หมอโบจึงใช้ฟิลเลอร์เติมเต็มบริเวณปลายคาง ทำให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น ดูสวยและสมดุลมากขึ้น

พญ. ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ (หมอโบ)
ความเชี่ยวชาญ :
อายุรกรรมผิวหนัง
ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง/ความสนใจ :
ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า การฉีดฟิลเลอร์,โบท็อกซ์, เลเซอร์ทุกชนิด
การศึกษา :
– 2543: แพทยศาสตร์บัณฑิตโรงพยาบาลรามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล
– 2549: วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาโรคผิวหนัง Boston University, USA
– 2551: ประกาศนียบัตรแพทย์ผู้เชียวชาญด้านเวชศาสตร์ความงามและชะลอวัยหลักสูตรอเมริกาและยุโรป
ประสบการณ์ :
– 2549 – ปัจจุบัน แพทย์ผู้เชียวชาญประจำศูนย์ผิวพรรณและศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา
– 2553 – ปัจจุบัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและปรับรูปหน้าที่ เดอโบคลินิก
–ประสบการณ์การดูแลรักษาด้านผิวหนังและความงามมากกว่า 10ปี
– ประสบการณ์การดูแลรักษาปัญหาริ้วรอยด้วย Botox และ Filler มากกว่า 5,000 ราย / ปี
– ประสบการณ์การดูแลรักษาปัญหาต่าง ๆ ด้วยเลเซอร์ผิวหนัง ไม่น้อยกว่า 2,000 ราย / ปี
อบรมเพิ่มเติม :
– Certificate in Botox Cosmetic Training (Basic & Advance Techniques)
– Certificate in Filler Injection Training (Basic & Advance Techniques)
– Certificate in Fraxel Training
– Certificate in Thermage Training
– Certificate in Mesotherapy Training
– Certificate in Laser Intensive Course Training
–Certificate in Cosmetic Surgery from Korea (KCCS)
— Certificate of attendance Aesthetic Anatomy Masterclass
Awards:
– คลินิกที่มียอดฉีดฟิลเลอร์สูงสุดติดอันดับ ท็อป 5 ของประเทศไทย ปี 2018
– คลินิกที่มียอดฉีดฟิลเลอร์สูงสุดเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย 3ปีซ้อน, 2016-2018 จากบริษัท Allergan และ Galderma
– Filler Leading Clinic Year 2016 From Allergan
– Filler Leading Clinic Year 2017 From Allergan
– Filler Leading Clinic Year 2018 From Allergan
– Premium Leading Clinic Year 2017 From Galderma
– Top 5 Premium Leading Clinic Year 2018 From Galderma
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์
ก่อนจะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ สาว ๆ ควรรู้สิ่งเหล่านี้ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ใช่แค่ราคาถูกใจอย่างเดียว แต่หากต้องพิจารณาจากปัจจัยและข้อมูลหลาย ๆ อย่างประกอบกันไป ดังนี้
1.ต้องฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ มีประสบการณ์เป็นที่ยอมรับเท่านั้น
2.ฉีดฟิลเลอร์แบบไหนถึงจะปลอดภัย
3.ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผลและอยู่ได้นานแค่ไหน
ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดสรุปให้ที่นี้ คลายข้อสงสัยกันไปเลย



หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว สามารถเกิดผลข้างเคียงอะไรได้บ้าง เป็นคำถามที่คนไข้ถามบ่อย ๆ อาการทั่วไปที่สามารถเกิดได้คือ อาการบวมของเนื้อเยื่อในช่วง 3-4 วันแรกหลังจากฉีดเสร็จ และจะเริ่มยุบบวมหลังจาก 1 สัปดาห์และเริ่มเข้าที่ ที่ 2-4 สัปดาห์ เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับเนื้อเยื่อของแต่ละบุคคล ปริมาณและชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด
อาการอีกอย่างที่สามารถพบได้แต่น้อยคือ การช้ำ การใช้เข็มปลายทู่ในการฉีดจะทำให้เกิดอาการช้ำได้น้อยกว่าใช้เข็มคม หรือถ้าคนไข้รับประทานยาละลายลิ่มเลือดหรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น fish oil, แปะก๊วย, วิตามินอี แนะนำให้งดอย่างน้อย 3-7 วัน เพื่อลดอาการช้ำที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
สำหรับอาการแสดงที่ผิดปกติ ที่เกิดขึ้นหลังจากฉีดฟิลเลอร์ แล้วต้องรีบปรึกษาแพทย์ หรืออาการแสดงที่บ่งชี้ว่าอาจเกิดการฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด คืออาการดังต่อไปนี้
1. ปวดมากและชา บริเวณที่ฉีดนานกว่าปกติ หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไป 1-2 วัน กินยาแก้ปวดแล้วไม่ดีขึ้น
2. อาการเปลี่ยนของสีผิวบริเวณที่ฉีด เช่น มีอาการซีดของผิวบริเวณที่ฉีดหลังฉีดทันทีและต่อมาเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดง หรือสีม่วงคล้ำ จนกลายเป็น สีดำ หรือเป็นแผลเนื้อตายในที่สุด (บางครั้งอาจมีตุ่มหนองเล็กๆคล้ายสิวหรือเริมบริเวณนั้นร่วมด้วย) เหล่านี้เป็นอาการของเนื้อเยื่อบริเวณนั้นขาดเลือดไปเลี้ยง จากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันหลอดเลือดซึ่งอาจเกิดขึ้นภายใน 3-5 วันหลังฉีดฟิลเลอร์
3. มีอาการตาพร่ามัว หรือมองไม่เห็น ซึ่งมักเกิดขึ้นภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ เกิดจากความผิดพลาดที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงปลายประสาทตา
ดังนั้นจะเห็นว่า การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ของแท้ทีผ่านการรับรองจาก อย. และย่อยสลายได้ มีความสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เรายังสามารถแก้ไขได้โดยการฉีดเอ็นไซม์ย่อยสลาย Hyaluronic acid ที่ไปอุดตันเส้นเลือดให้กลายเป็นน้ำ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้ตาบอดได้ อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้คนไข้รอดพ้นจากความเสี่ยงนี้ก็คือ แพทย์ผู้ฉีดต้องมีความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ เวลาเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินขึ้นแพทย์ต้องสามารถ วินิจฉัยได้ และแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที อย่าลืมนะคะ ที่หมอพูดอยู่เสมอ สวยให้มาก แต่เสี่ยงให้น้อยค่ะ

ติดตามเคล็ดลับและข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
คำถามสำหรับฟิลเลอร์
1. ใช้ฟิลเลอร์แบรนด์อะไร
ตอบ : ทางคลินิกใช้ 2 ผลิตภัณฑ์ของแท้จากแบรนด์ Juvederm ประเทศสหรัฐอเมริกา และ Restylane ประเทศสวีเดน
2. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องทำกี่ครั้ง อยู่ได้นานเท่าไหร่
ตอบ : ทำครั้งเดียว เห็นผลชัดเจนทันทีหลังฉีดเสร็จ อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับผิวและการดูแลหลังการรักษาของคนไข้
3. ฉีดฟิลเลอร์มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง บวมหรือช้ำไหม นานเท่าไหร่
ตอบ : ปกติจะไม่มีอาการช้ำ เนื่องจากคุณหมอใช้เข็มปลายทู่ในการฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการช้ำได้เฉพาะจุดในกรณีที่เข็มฉีดยาชา จิ้มโดนเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง แต่จะจางหายไปภายใน 2-3 วัน ส่วนอาการบวมสามารถพบได้ในช่วง 1-3 วันแรกหลังการรักษา เป็นการบวมเนื้อเยื่อ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนไม่มีอาการบวมเลย บางคนบวมมาก(ซึ่งพบได้น้อย) บางคนบวมน้อย
4. หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถแต่งหน้าได้ไหม
ตอบ : งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง และให้ปิดพลาสเตอร์ป้องกันการติดเชื้อบริเวณทางเปิดของรูเข็มไว้อย่างน้อย 24 ชม.หรือจนกว่า รูเข็มจะปิดสนิท
5. หลังฉีดฟิลเลอร์มีข้อห้ามอะไรบ้าง
ตอบ : งดอาหารแสลง อาหารหมักดอง เช่น ปูเค็ม ปลาร้า หน่อไม้ดอง ปลาดิบ แหนม และ งดดื่มแอลกอฮอลล์ ประมาณ 2 สัปดาห์
6. ฉีดฟิลเลอร์แล้วสามารถ ทำทรีทเม้นท์หน้าหรือทำเลเซอร์ได้หรือไม่
ตอบ : แนะนำงดนวดหน้าและทำเลเซอร์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ สำหรับเลเซอร์จำพวกคลื่นวิทยุ RF เช่นพวก Thermage ไม่แนะนำให้ทำเลย เนื่องจากทำให้ฟิลเลอร์สลายอย่างรวดเร็ว
7. ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้หรือไม่
ตอบ : แนะนำให้รอคลอดบุตรเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยทำการรักษาด้านความงาม เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือ เลเซอร์ต่างๆ สำหรับผู้ที่ให้นมบุตร สามารถทำเลเซอร์หรือทรีทเม้นท์หน้าได้ปกติ แต่ไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์ หรือ ฟิลเลอร์ค่ะ
8. ต้องงดอาหารเสริมหรือวิตามิน ก่อนฉีดฟิลเลอร์หรือไม่ นานเท่าไหร่
ตอบ : ควรงดอาหารเสริมจำพวก วิตามินอี , Fish Oil, แปะก๊วย ก่อนมาฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 3-5 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการช้ำ ที่อาจเกิดขึ้นได้
9. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาจากที่อื่น แล้วเป็นก้อนเป็นลำ ต้องฉีดสลายก่อนหรือไม่ สามารถเติมได้เลยไหมคะ
ตอบ : ตามปกติคุณหมอจะแนะนำให้สลายฟิลเลอร์ส่วนเกินที่เป็นก้อนเป็นลำออกก่อน แล้วนัดมาเติมฟิลเลอร์ใหม่อีกครั้งหลังจากสลาย 5-7 วัน หากคนไข้ไม่สะดวกเช่น อยู่ต่างจังหวัดหรืออยู่ต่างประเทศ อาจจะต้องประเมินตามปัญหาของแต่ละบุคคลว่าสามารถแก้ไขโดยการฉีดจัดเรียงฟิลเลอร์ให้เรียบเนียนโดยไม่ต้องสลายก่อน ได้หรือไม่
10. ฉีดไขมันบริเวณใบหน้ามา แล้วเกิดความไม่เรียบเนียน ไม่สม่ำเสมอ สามารถแก้ไขได้หรือไม่
ตอบ : สามารถแก้ไขได้โดยการฉีดจัดเรียงฟิลเลอร์ให้เรียบเนียนค่ะ ทั้งนี้แพทย์จะทำการประเมินตามปัญหาของแต่ละบุคคลก่อนทำการรักษา
11. ถ้ามีโรคประจำตัว สามารถฉีดได้มั๊ย
ตอบ : ในคนไข้ที่เป็นโรคภูมคุ้มกันต่อต้านตนเอง เช่น SLE ไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์
12. หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องพักฟื้นกี่วัน
ตอบ : หลังรับการรักษาสามารถกลับไปทำงานได้ทันที โดยงดแต่งหน้า 1 วัน อาจมีอาการบวมหรือช้ำได้เล็กน้อย และจะดีขึ้นภายใน 3-5 วัน หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะค่อยๆเข้าที่ ใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับผิวของคนไข้แต่ละคนและปริมาณฟิลเลอร์ที่เติมเข้าไป
13. การฉีดฟิลเลอร์จะเป็นอันตรายไหมคะ หรือ มีความเสี่ยงทำให้ตาบอดไหมคะ
ตอบ : ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการรักษา ถ้าหากเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. สามารถสลายได้ และเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญ ก็จะทำให้มีความเสี่ยงกับการตาบอดหรือโอกาสเกิดอันตรายลดลง
14. หลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วเดินทางกลับต่างจังหวัดหรือต่างประเทศได้เลยไหมคะ
ตอบ : สามารถเดินทางกลับได้เลยค่ะ แต่ในกรณีที่อยู่ กทม. แพทย์จะนัดติดตามผลการรักษาในช่วง 2-4 สัปดาห์
15. เริ่มฉีดฟิลเลอร์ได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่
ตอบ : หากมีปัญหาที่โครงสร้างใบหน้า สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุน้อย ๆ เช่น 18 ปีขึ้นไป
คำถามทั่วไป
1. หากสนใจเข้ามาปรึกษาที่คลินิก ต้องจองคิวไหมคะ หรือต้องทำอย่างไรคะ
ตอบ : แนะนำให้ลูกค้านัดหมายแพทย์ก่อนเข้ามาปรึกษาค่ะ เนื่องจาก คุณหมอโบดูแลคนไข้ทุกคนด้วยตนเอง และ ใช้เวลาในการรักษากับคนไข้อย่างน้อย 60-90 นาที ทำให้ในแต่ละวันสามารถรับคนไข้ได้วันละไม่เกิน 6 ท่าน ไม่แนะนำให้ walk in เข้ามาที่คลินิก โดยไม่ได้นัดหมายเพราะอาจต้องรอนาน หากคุณหมอติดเคสการรักษาคนไข้ท่านอื่นอยู่ก่อนแล้ว
แนะนำให้ลูกค้านัดหมายแพทย์ก่อนเข้ามาปรึกษาค่ะ เนื่องจาก คุณหมอโบดูแลคนไข้ทุกคนด้วยตนเอง และ ใช้เวลาในการรักษากับคนไข้อย่างน้อย 60-90 นาที ทำให้ในแต่ละวันสามารถรับคนไข้ได้วันละไม่เกิน 6 ท่าน ไม่แนะนำให้ walk in เข้ามาที่คลินิก โดยไม่ได้นัดหมายเพราะอาจต้องรอนาน หากคุณหมอติดเคสการรักษาคนไข้ท่านอื่นอยู่ก่อนแล้ว
ในการจองคิวแพทย์ สามารถทำโดยการติดต่อผ่านทางไลน์ ไอดี : @debeauclinic โอนมัดจำจำนวน 2,000 บาท และส่งสลิป พร้อมกับคอนเฟิร์มวันนัด เงินมัดจำนี้ สามารถเอาไปหักค่าใช้จ่ายในวันที่มาทำการรักษาได้ค่ะ
2. หลังจากโอนมัดจำจองคิวแพทย์ 2,000 บาท หากมีการเลื่อนนัด จะถูกริบมัดจำหรือไม่
ตอบ : สามารถเลื่อนวัน เวลาที่นัดหมายแพทย์ได้ โดยขอให้เลื่อนก่อนถึงวันนัด อย่างน้อย 24 ชั่วโมง โดยทางคลินิกขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินมัดจำในกรณีที่ไม่มารับการรักษา
3. หากเปลี่ยนใจไม่ทำการรักษาแล้ว จะได้รับเงินมัดจำคืนหรือไม่
ตอบ : เงินมัดจำสามารถเก็บไว้ได้นาน 3 เดือนตามเงื่อนไข และจะได้รับคืนกรณีเดียว คือ แพทย์ลงความเห็นว่าไม่สามารถรักษาได้
4. ทำไมราคาสูงเมื่อเปรียบเทียบกับบางคลินิก
ตอบ : ราคาการให้บริการแต่ละคลินิกมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับกรณีและปัญหาผิวแต่ละคน ซึ่งทางคลินิกพิจารณาตามความต้องการของคนไข้เป็นสำคัญ โดยทางเดอโบคลินิกดำเนินการรักษาโดยคุณหมอโบ แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังโดยตรงซึ่งมีความชำนาญสูงในการฉีดฟิลเลอร์และปรับรูปหน้า ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 15 ปี หากสนใจสามารถสอบถามหรือส่งรูปเข้ามาเพื่อประเมินก่อนการรักษาได้ค่ะ
5. มีสาขาต่างจังหวัดไหม
ตอบ : ตอนนี้มีที่เดียวคือ ที่กรุงเทพมหานคร ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ข้างห้าง CHIC Republic ฝั่งตรงข้าง Central East Ville ค่ะ สามารถแอดไลน์ไอดี : @debeauclinic เพื่อรับแชร์โลเคชั่นได้ค่ะ