ฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาริ้วรอยบนใบหน้า เพื่อคืนสภาพให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และดูเด็กขึ้นกว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด เพราะรอยลึกตรงร่องแก้มเป็นสาเหตุสำคัญที่อาจทำให้หลายๆ คนสูญเสียความมั่นใจเวลายิ้ม หรือแสดงสีหน้า ด้วยความกลัวว่าร่องลึกตรงนี้จะทำให้เราดูแก่กว่าวัยและเสียบุคลิกภาพ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม จึงกลายมาเป็นวิธียอดฮิตสำหรับการรักษารอยลึกจุดนี้ เพราะสามารถแก้ไขได้ทันทีและแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากที่สุด
ร่องแก้มลึก แก้ริ้วรอยร่องแก้ม แก้มหย่อนคล้อยด้วยฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยปัญหาร่องแก้มที่หลายคนกังวล
ปัญหาร่องลึกบริเวณร่องแก้ม เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าของเราดูมีอายุ เพราะบริเวณร่องแก้มเป็นริ้วรอยที่เห็นได้ชัดที่สุด และยังกินพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ส่งผลให้เวลายิ้มออกมาจะดูไม่สวยงาม และอาจทำให้สูญเสียความมั่นใจในการแสดงออกทางสีหน้าได้
สาเหตุหลักก็มาจากการเสื่อมสลายของสารในชั้นใต้ผิวหนัง ที่ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นไม่เต่งตึง รวมถึงใครที่มีเนื้อเยอะบริเวณใต้ตา หรือโหนกแก้ม ก็อาจทำให้เนื้อตรงส่วนนั้นหย่อนคล้อยลงมาจนทำให้เกิดร่องลึกที่ไม่สวยงาม
**ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
อยากฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องฉีดอย่างไร?
สำหรับผู้ที่มีปัญหารอยลึกตรงร่องแก้ม จะต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ และวิเคราะห์โครงหน้าก่อนว่าต้องใช้การฉีดแบบใด เพราะใบหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่โดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องแก้มจะใช้วิธีการฉีด 2 แบบ ด้วยกัน คือ
- ฉีดหนุนที่บริเวณกระดูกร่องแก้ม : วิธีนี้แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเพื่อเสริมให้ร่องแก้มที่ลึกดูตื้นขึ้น หรือในบางรายที่มีเนื้อใต้ตาเยอะ กระดูกร่องแก้มเสื่อมสภาพลง ตัวฟิลเลอร์ก็จะเข้าไปหนุนร่องลึกตรงจุดนี้ แล้วดึงผิวหนังให้ตึงขึ้น ร่องแก้มที่ลึกก็จะตื้นขึ้นมาทันทีอย่างเห็นได้ชัด
- ฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง : สำหรับวิธีนี้จะเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะจุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มเกิดริ้วรอย รอยย่น หรือรอยพับของผิวหนังบนใบหน้า ซึ่งการฉีดด้วยวิธีนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วิเคราะห์ และกำหนดบริเวณที่ต้องฉีด เพื่อให้ได้ผลแม่นยำ และแก้ปัญหาร่องลึกได้ตรงจุดที่สุด
ต้องฉีดเยอะหรือไม่?
เนื่องจากใบหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้แพทย์ต้องวินิจฉัยอย่างละเอียดก่อนว่าควรใช้ฟิลเลอร์ประมาณกี่ cc ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ถ้าเป็นร่องลึก หรือริ้วรอยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 0.5 cc แต่ในบางรายที่มีร่องลึกมาก อาจฉีดประมาณ 1-2 cc ก็ได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ปริมาณ cc ที่ฉีดจะขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินว่าหลังจากฉีดแล้วจะทำให้ใบหน้าดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติด้วยหรือไม่
จริงหรือไม่? ว่าฉีดแล้วหน้าจะบวม
อาการบวมหลังฉีดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ในบางรายอาจมีอาการบวมประมาณ 1-4 วัน แต่เมื่อผ่านไปแล้วอาการบวมจะค่อยๆ ยุบลงเอง และทำให้ใบหน้าเข้าที่ ร่องลึกก็จะกลับมาตื้นขึ้นตามต้องการ
วิธีลดบวมช้ำ หลังฉีดฟิลเลอร์ ให้สวย เข้าที่เร็ว
ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วันหาย และต้องทำอย่างไร ให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานๆ
**ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
มีผลข้างเคียงหรือไม่?
ในการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละครั้งจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ต่อร่างกาย หากใช้ผลิตภัณฑ์ของฟิลเลอร์แท้ที่มีคุณภาพและตามมาตรฐาน อย. ที่มีส่วนประกอบหลักเป็น สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบสารที่ร่างกายผลิตออกมาอยู่แล้ว ทำให้ไม่เป็นผลเสียต่อร่างกายและยังสามารถสลายตัวไปเองได้ภายใน 1-2 ปี (แล้วแต่บุคคล) แต่สำหรับผู้ที่ฉีดแล้วพบว่าเกิดอาการบวม หรือคลำเจอก้อนหลังฉีดก็ไม่ต้องเป็นกังวลค่ะ เพราะอาการบวมนั้นสามารถยุบได้เอง และจะกลับมาเนียนเรียบแบบเดิมในที่สุด
วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ VS ฟิลเลอร์ปลอม วิธีสังเกตแบบเคลียร์ชัดว่าต่างกันอย่างไร
FILLER ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย ได้แก่ ยี่ห้อ JUVEDERM , RESTYLANE, BELOTERO, PERFECTHA, NEURAMIS
ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ข้อแตกต่างของฟิลเลอร์แต่ละชนิด มีอะไรบ้าง
**ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี?
การฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นการเสริมความงามเฉพาะทาง ดังนั้น ผู้ที่ต้องการฉีดควรเลือกสถานพยาบาล หรือคลีนิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญ และชำนาญการด้านผิวหนังโดยเฉพาะ สิ่งที่ต้องตรวจอย่างละเอียดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดว่าได้มาตรฐานและเป็นของแท้หรือไม่ ควรสอบถามหรือตรวจสอบด้วยตนเองทุกครั้ง เพราะการใช้ฟิลเลอร์แท้ รวมถึงแพทย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจะไม่เกิดความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงตัวผู้ฉีดเองก็จะมั่นใจได้ว่าใบหน้าของเราจะสวยงาม ดูอ่อนเยาว์กว่าวัยตามที่ต้องการด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ ทำไมต้องเลือก หมอโบ เดอโบคลินิก
วิธีดูแลตัวเอง “ก่อน”ทำการฉีดฟิลเลอร์
- ควรงดทานยา แอสไพริน, NSAIDs เช่น ibruprofen diclofenac ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำ และหากมีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาจำพวกนี้ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนหยุดทานนะคะ
- งดการทานวิตามินบางชนิด เช่น St. Johns Wort, ginko biloba,Vitamin E เวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำ
- หยุดการแว็กซ์ผิว ผลัดผิว หรือการดึงขนหรือโกนขนในบริเวณนั้นๆ เป็นเวลา 3 วันก่อนมาทำ
- ห้ามนวดหน้าหรือเลเซอร์ต่างๆ อย่างน้อย 3 วัน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนทำ
- ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนทำ เช่น ซาวน่า การออกกำลังกายแบบ Cardio
ดูแลตัวเอง “หลัง” ทำการฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น การจับ การแตะ การเกา การกด โดยเฉพาะจุดที่มีรอยช้ำ เพราะอาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 7 วัน หากไม่ดีขึ้นต้องกลับมาพบแพทย์ค่ะ
- อยู่ให้ห่างกับความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ 7 วัน
- งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารแสลงหรืออาหารดิบ เช่น ปูเค็ม ปลาร้า แหนม ปลาดิบ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดนวดหน้า ทรีทเมนท์ และเลเซอร์ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
วิธีดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์ ใน 24 ชั่วโมง ต้องทำตัวยังไง
ฟิลเลอร์ละลาย จริงหรือไม่? ถ้าฉีดฟิลเลอร์ห้ามตากแดด
……………………………………
อ่านรีวิวคนไข้คนอื่นๆ ของหมอโบ เดอโบคลินิกได้ที่นี่
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ทำไมต้อง หมอโบ เดอโบคลินิก?
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่ากว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” ( de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!” ซึ่งหากใครมีปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
อ่านบทความอื่นๆ ที่นา่สนใจได้ที่นี่
4 สิ่งที่ควรรู้ก่อน ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก ช่วยอะไรได้ ต้องรู้อะไรบ้าง?
ฉีดฟิลเลอร์ ให้ปลอดภัย filler ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์คืออะไร ดูแลตัวเองก่อน-หลังฉีดต้องทำอย่างไร