ร่องแก้มชัด แก้ยังไง ไม่อยากดูแก่ก่อนไว วิธีไหนช่วยได้บ้าง?

ร่องแก้มชัด ทำให้หน้าดูแก่ก่อนวัย!! อีกหนึ่งปัญหาที่แม้แต่สาว ๆ อายุน้อยหลาย ๆ คนก็กำลังเผชิญกันอยู่ ซึ่งต้องบอกก่อนค่ะว่า ปัญหาร่องแก้ม นั้นถึงจะมีภาพจำว่าเป็นสิ่งที่สาว ๆ ในวัยเลย 3-4 มักพบเจอ แต่แท้จริงแล้วสามารถเกิดขึ้นได้ในสาว ๆ ทุกวัยเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยเฉพาะในกลุ่มที่อายุน้อย ที่ถ้าหากมีร่องแก้มที่เห็นได้ชัดเจนก็จะทำให้หมดความมั่นใจไปได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้ดีขึ้น หมอโบมีวิธีแก้ไขปัญหาร่องแก้มมาฝากทุกคนกันค่ะ

ร่องแก้มชัด

 

ร่องแก้มชัด เกิดจากอะไร ส่งผลต่อเรายังไง แก้ไขด้วยวิธีไหนได้บ้าง?

ปัญหาร่องแก้ม หรือ รอยย่นที่แก้ม โดยส่วยใหญ่มักเกิดจากปัจจัยด้านอายุค่ะ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนและอิลาสติน (Elastin) ใต้ผิวก็จะเริ่มเสื่อมสภาพทำให้เกิดหย่อนคล้อยบนใบหน้า โดยริ้วรอยที่เห็นได้ชัดและเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของผู้หญิงนั่นก็คือ ริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม เพราะทำให้ดูมีอายุกว่าความเป็นจริง นอกจากปัจจัยด้านอายุแล้ว ริ้วรอยร่องแก้มยังเกิดจากพฤติกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การไม่ทาครีมกันแดดทำให้ใบหน้าโดนทำลายด้วยแสง UV การสูบบุหรี่เป็นประจำทำให้ส่งผลต่อโครงสร้างผิว และในบางรายที่มีเนื้อบริเวณใต้ตาเยอะ หรือแก้มเยอะๆ ก็อาจทำให้เนื้อตรงส่วนนั้นหย่อนคล้อยลงมาจนทำให้เกิดร่องลึกที่ไม่สวยงามได้ค่ะ

รอยร่องแก้มเกิดจากอะไร?

ริ้วรอยที่เกิดขึ้นบริเวณร่องแก้ม หรือ รอยย่นที่ร่องแก้ม ปัญหาของผู้หญิง ที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจนั้นมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากปัญหาของผิวที่ขาดคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งสารอาหารทั้งสองสิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวหนังของเรามีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น และกระจ่างใส เมื่อเวลาผ่านไปอายุเพิ่มมากขึ้นคอลลาเจนและอีลาสตินมีปริมาณน้อยลงหรือเสื่อมสภาพ ผิวบริเวณนั้นก็จะเกิดรอยยับย่น ริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะคนที่มีอายุมากเท่านั้นนะคะ แม้แต่ในสาว ๆ ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะบางคนอาจจะขาดการดูแลตัวเอง เช่น ไม่ทาครีมบำรุง ตากแดดบ่อย ๆ รวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเช่น สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็สามารถส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพได้

วิธีแก้ ร่องแก้มลึก มีกี่วิธี?

สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่องแก้มเห็นชัดนั้นสามารถแก้ได้ด้วยหลายวิธีค่ะ เช่น…

1.ปรับเปลี่ยนท่านอน

ใครที่ชอบนอนหันข้างหรือนอนตะแคงบ่อยๆ หากไม่อยากมีริ้วรอยก่อนวัย ควรหลีกเลี่ยงนอนท่านอนหันข้างเพราะการนอนท่านี้ทำให้ใบหน้าถูกกดทับทำให้เกิดรอยย่นลึก วิธีที่ถูกต้องคือ ควรจะนอนหงายจะดีที่สุดค่ะ

ท่านอนต้องห้าม!! ถ้าไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัย ต้องหลีกเลี่ยง

2.เลือกอาหารการกิน

เมื่ออายุมากขึ้น ควรใส่ใจเรื่องอาหารอย่างมากค่ะ เพราะสารอาหารบางชนิดไม่สามารถผลิตได้เมื่ออายุมากขึ้น ควรเลือกทานอาหารที่มีส่วนประกอบของวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงเกลือแร่ เพราะวิตามินเหล่านี้ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นได้ดี และต้องไม่ลืมดื่มน้ำเปล่าให้ครบวันละ 8 แก้วเพื่อป้องกันผิวขาดน้ำค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ทานปลาร้าได้มั้ย ส้มตำ ของหมักดอง อาหารทะเล ต้องงดกี่วัน?

หน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส ทาอะไรก็ไม่ดีขึ้น ต้องแก้ไขอย่างไร

3.ทาครีมกันแดด

เนื่องจากแดดและแสง UV เป็นสัตรูตัวร้ายของผิว ที่ไม่ได้ทำให้ผิวหมองคล้ำเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยอีกด้วย ดังนั้นหากต้องออกไปข้างนอก ต้องไม่ลืมทาครีมกันแดดบริเวณใบหน้าและลำคอเป็นประจำนะคะ

เคล็ดลับดูแลผิวหน้าร้อน ออกแดดได้ไม่หวั่นผิวเสีย

4.ฉีดโบท็อกซ์

การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยเป็นวิธีที่ยอดฮิตที่หลายคนเลือกใช้กันค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยลดเลือนริ้วรอยกวนใจแล้ว ยังมีผลพลอยได้คือช่วยให้ใบหน้าเรียวเล็ก ช่วยกระชับแก้มและยังช่วยลดเลือนริ้วรอยให้จางหาย วิธีนี้สามารถเห็นผลหลังการฉีดประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ

5.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่าง

ใครที่มักจะการนอนดึก และอยู่ในภาวะเครียดบ่อยๆ จำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงให้มาก เพราะว่าปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้า-เช็ดหน้าแรง ๆ สูบบุหรี่ดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้ริ้วรอยลึกกว่าเดิมค่ะ

6.ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

สำหรับผู้ที่มีปัญหารอยลึกตรงร่องแก้ม ริ้วรอยลึกร่องแก้มนั้นด้วยการฉีดฟิลเลอร์นั้น ก็เป็นอีกวิธีที่ฮิตไม่แพ้โบท็อกซ์เลยค่ะ เพราะว่าได้ผลไว ปลอดภัย และแก้ปัญหาได้ตรงจุดกว่า การฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องแก้มจะใช้วิธีการฉีด 2 แบบด้วยกัน คือ ฉีดหนุนที่บริเวณกระดูกร่องแก้ม และฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง วิธีนี้จำเป็นที่จะต้องแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วิเคราะห์และกำหนดบริเวณที่ต้องฉีดเพื่อให้ได้ผลแม่นยำ และแก้ปัญหาร่องลึกได้ตรงจุดที่สุด

ซึ่งแต่ละคนก็สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเองและนำไปปรับใช้เพื่อแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นได้ค่ะ

“ฟิลเลอร์ร่องแก้ม” วิธีแก้แบบได้ผลจริง!

สำหรับใครที่ไม่อยากให้ริ้วรอยบริเวณแก้มเกิดขึ้นมาเร็ว สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ การทาครีมบำรุงเป็นประจำ (ถึงแม้ว่า สาว ๆ หลายคนจะรู้สึกขี้เกียจที่ต้องลุกขึ้นมาทาครีมบำรุง แต่เชื่อหมอโบเถอะค่ะ ว่ามันดีกับผิวเราจริง ๆ ) อย่าลืมทากันแดดด้วยนะคะ อันนี้สำคัญมากลืมไม่ได้เด็ดขาด การทาครีมกันแดดนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องทาเฉพาะตอนที่ต้องออกไปเจอแดดนอกบ้านเท่านั้นนะคะ เพราะรังสี UV นั้นไม่ได้มีเฉพาะที่แดดค่ะ แต่มีแฝงอยู่ในทุก ๆ ที่ เช่น ในที่ร่ม ในอาคาร แสงจอคอม แสงจากโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากค่ะ

นอกจากนี้ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ทานอาหารหวาน และอาหารสำเร็จรูปมากเกินไป อย่าลืมดื่มน้ำสะอาดไม่น้อยกว่าวันละ 2 ลิตรด้วย เพราะน้ำจะช่วยเติมให้ผิวมีความชุ่มชื้น ช่วยให้คอลลาเจนในผิวหนังมีความยืดหยุ่น ไม่แก่ก่อนวัยค่ะ ซึ่งวิธีที่กล่าวมานี้จะเห็นผลมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ในวัย 20 – 25 ปี แต่สำหรับสาวใหญ่ที่มีอายุ 30 – 35 ปี วิธีนี้อาจจะได้ผลไม่มาก เนื่องจากช่วงอายุที่มากกว่า และปริมาณการผลิตคอลลาเจนในร่างกายมีการผลิตน้อยลงสู้สาว ๆ ไม่ได้ ดังนั้นหากต้องการให้ใบหน้าสวยเนียน เด้งเป๊ะ อาจจะต้องใช้ตัวช่วยดี ๆ อย่าง “ฟิลเลอร์” เข้าช่วยเหลือค่ะ

  

ฟิลเลอร์คืออะไร?

ฟิลเลอร์นั้นเป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบที่สำคัญจากสารไฮยาลูโรนิคแอซิด (hyaluronic acid) มีหน้าที่ช่วยเติมเต็มริ้วรอยส่วนต่าง ๆ ได้ทั้งริ้วรอยลึกและตื้นให้ดูดี ผิวเรียบเนียน มีความเด้งดึ่ง เต่งตึง ฉ่ำน้ำ ทำให้ในปัจจุบันนิยมใช้ฟิลเลอร์ในการแก้ปัญหาให้หลากหลายพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็น รอยย่น ริ้วรอยรอบดวงตา รอยหมองคล้ำใต้ตา เพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก ปรับโครงหน้า เสริมคาง เติมขมับ แถมยังปลอดภัย 100% เพราะสารไฮยาลูโรนิคแอซิดสามารถสลายตัวได้ภายใน 6 เดือน – 2 ปี (แล้วแต่ปริมาณที่ฉีดและการดูแลตัวเองของคนไข้) ทำให้มั่นใจว่าไม่มีสารตกค้างหลงเหลืออยู่ในร่างกายแน่นอนค่ะ

อยากฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องฉีดอย่างไร?

สำหรับผู้ที่มีปัญหารอยลึกตรงร่องแก้ม จะต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ และวิเคราะห์โครงหน้าก่อนว่าต้องใช้การฉีดแบบใด เพราะใบหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่โดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องแก้มจะใช้วิธีการฉีด 2 แบบ ด้วยกัน คือ

  1. ฉีดหนุนที่บริเวณกระดูกร่องแก้ม : วิธีนี้แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเพื่อเสริมให้ร่องแก้มที่ลึกดูตื้นขึ้น หรือในบางรายที่มีเนื้อใต้ตาเยอะ กระดูกร่องแก้มเสื่อมสภาพลง ตัวฟิลเลอร์ก็จะเข้าไปหนุนร่องลึกตรงจุดนี้ แล้วดึงผิวหนังให้ตึงขึ้น ร่องแก้มที่ลึกก็จะตื้นขึ้นมาทันทีอย่างเห็นได้ชัด
  2. ฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง : สำหรับวิธีนี้จะเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะจุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มเกิดริ้วรอย รอยย่น หรือรอยพับของผิวหนังบนใบหน้า ซึ่งการฉีดด้วยวิธีนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วิเคราะห์ และกำหนดบริเวณที่ต้องฉีด เพื่อให้ได้ผลแม่นยำ และแก้ปัญหาร่องลึกได้ตรงจุดที่สุด

ซึ่งนี่เป็นเพียงขั้นตอนของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเบื้องต้นเท่านั้นค่ะ ซึ่งแต่ละสถานที่ให้บริการอาจมีมากหรือน้อยกว่านี้ตามมาตรฐานของแต่ละที่ค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีผลข้างเคียงหรือไม่?

ในการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละครั้งจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ต่อร่างกาย หากใช้ผลิตภัณฑ์ของฟิลเลอร์แท้ที่มีคุณภาพและตามมาตรฐาน อย. ที่มีส่วนประกอบหลักเป็น สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบสารที่ร่างกายผลิตออกมาอยู่แล้ว ทำให้ไม่เป็นผลเสียต่อร่างกายและยังสามารถสลายตัวไปเองได้ภายใน 1-2 ปี (แล้วแต่บุคคล) แต่สำหรับผู้ที่ฉีดแล้วพบว่าเกิดอาการบวม หรือคลำเจอก้อนหลังฉีดก็ไม่ต้องเป็นกังวลค่ะ เพราะอาการบวมนั้นสามารถยุบได้เอง และจะกลับมาเนียนเรียบแบบเดิมในที่สุด 

วิธีดูแลตัวเอง “ก่อน”ทำการฉีดฟิลเลอร์

  • ควรงดทานยา แอสไพริน, NSAIDs เช่น ibruprofen diclofenac ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำ และหากมีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาจำพวกนี้ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนหยุดทานนะคะ
  • งดการทานวิตามินบางชนิด เช่น  St. Johns Wort, ginko biloba,Vitamin E เวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำ
  • หยุดการแว็กซ์ผิว ผลัดผิว หรือการดึงขนหรือโกนขนในบริเวณนั้นๆ เป็นเวลา 3 วันก่อนมาทำ
  • ห้ามนวดหน้าหรือเลเซอร์ต่างๆ อย่างน้อย 3 วัน
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนทำ
  • ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนทำ เช่น ซาวน่า การออกกำลังกายแบบ Cardio

ดูแลตัวเอง “หลัง” ทำการฉีดฟิลเลอร์

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น การจับ การแตะ การเกา การกด โดยเฉพาะจุดที่มีรอยช้ำ เพราะอาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 7 วัน หากไม่ดีขึ้นต้องกลับมาพบแพทย์ค่ะ
  • อยู่ให้ห่างกับความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ 7 วัน
  • งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารแสลงหรืออาหารดิบ เช่น ปูเค็ม ปลาร้า แหนม ปลาดิบ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • งดนวดหน้า ทรีทเมนท์ และเลเซอร์ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นการเสริมความงามเฉพาะทาง ดังนั้น ผู้ที่ต้องการฉีดควรเลือกสถานพยาบาล หรือคลีนิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญ และชำนาญการด้านผิวหนังโดยเฉพาะ สิ่งที่ต้องตรวจอย่างละเอียดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดว่าได้มาตรฐานและเป็นของแท้หรือไม่ ควรสอบถามหรือตรวจสอบด้วยตนเองทุกครั้ง เพราะการใช้ฟิลเลอร์แท้ รวมถึงแพทย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจะไม่เกิดความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงตัวผู้ฉีดเองก็จะมั่นใจได้ว่าใบหน้าของเราจะสวยงาม ดูอ่อนเยาว์กว่าวัยตามที่ต้องการด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ทำไมต้อง De Beau Clinic

ฉีดฟิลเลอร์ หมอโบ เดอโบคลินิก (De Beau Clinic) ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์แท้

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”

สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ

นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

Line : @debeauclinic
☎️ : 097 426-6956 หรือ 097 429-5645

บทความที่น่าสนใจ