วิธีลดถุงใต้ตาด้วยวิธีธรรมชาติ ทำแล้วหายแน่นอน

วิธีลดถุงใต้ตาด้วยตัวเองอย่างธรรมชาติ ลดปัญหาใต้ตาบวม ถุงใต้ตาเด่นเห็นชัด คล้ายคนอดนอน หมอโบมีเคล็ดลับมาบอกค่ะ

ถุงใต้ตาบวม (Eye bags) คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ปัญหาถุงใต้ตา (Eye bags) เป็นภาวะที่มักจะเกิดจากกล้ามเนื้อใต้ตา สามารถเกิดจากทั้งพันธุ์กรรม อายุ และอาการป่วย โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้

  • ถุงใต้ตาแท้ หรือ ปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดจากกรรมพันธุ์
  • ถุงใต้ตาเทียม คือ ภาวะถุงใต้ตาบวมจากอาการบวมน้ำแถวๆ ใต้ตาล่าง ซึ่งสาเหตุอาจมาจากระบบการไหลเวียนในร่างกายไม่ดี ผ่านการร้องไห้ ขยี้ตา อดหลับอดนอน นอนดึกมาก และพฤติกรรมชอบดื่มแอลกอฮอล์ หรืออาการป่วยจากภูมิแพ้

ซึ่งหากคนไข้กำลังประสบปัญหานี้อยู่ จำเป็นจะต้องทราบก่อนว่าอาการถุงใต้ตาบวมที่ประสบอยู่นั้นเป็นแบบถุงใต้ตาแท้หรือถุงใต้ตาเทียม เพราะวิธีรักษาจะไม่เหมือนกันค่ะ เพราะหากเป็นถุงใต้ตาแบบแท้ที่เกิดจากพันธุ์กรรมจะต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ในการรักษาเท่านั้นค่ะ

วิธีลดถุงใต้ตาแบบเทียม ด้วยวิธีธรรมชาติ

ประคบเย็นลดตาบวม

เป็นวิธีง่ายๆ แต่ใช้ได้ดีเสมอเลยค่ะ ถ้าใครมีปัญหาตาบวมสามารถประคบเย็นได้ค่ะ สามารถทำได้หลายวิธีค่ะ เช่นใช้ผ้าชุบน้ำแช่เย็น หรือเจลเย็นก็ได้ค่ะ หรือถ้าวิธีที่หมอใช้บ่อยๆ และยังสะดวกมากคือนำช้อนไปแช่เย็นนำมาประคบบริเวณถุงใต้ตาประมาณ 15 นาที อาการบวมจะค่อยๆ ลดลง

แต่สำหรับใครอยากลดบวมใต้ตาและบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นไปด้วย สามารถใช้แตงกวาหั่นแว่น มันฝรั่ง (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ) หรือถุงชาที่เฉพาะกากชาใช้แล้วก็ได้นะคะ

ลดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

ใครเป็นสายปาร์ตี้และสิงห์อมควัน หากต้องการลดความบวมของถุงใต้ตาแนะนำให้ลดหรืองดการสูบบุหรี่ดื่มแอลกอฮอล์ไปเลย เพราะควันและแอลกอฮอล์เป็นตัวเร่งให้ริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ถุงใต้ตาบวม

รักษาผิวหน้าให้ดี

เนื่องจากผิวบริเวณใบหน้ามีความบอบบางมากโดยเฉพาะบริเวณรอบๆ ดวงตาที่จะมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ ดังนั้นควรงดการขยี้ตา ถูตา เพราะจะยิ่งทำให้ผิวบริเวณนั้นบวมมากขึ้นและยังกระตุ้นให้ใต้ตาคล้ำเร็วอีกด้วย  นอกจากนี้ควรล้างหน้าให้สะอาด ห้ามเข้านอนโดยที่ไม่ล้างหน้าให้สะอาด งดการนอนตะแคงเพื่อยืดอายุผิวให้ไม่เหี่ยวเร็วด้วยค่ะ

รู้หรือไม่? การล้างหน้าไม่สะอาด ล้างไม่ถูกวิธี ทำหน้าเหี่ยว ผิวแก่ไว

ท่านอนต้องห้าม!! ถ้าไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัย ต้องหลีกเลี่ยง

  

งดทานอาหารรสจัด

อาหารรสจัดหวานจัด เค็มจัด ส่งผลให้ร่างกายเกิดบวมน้ำ วิธีแก้คือ ควรลดการทานอาหารรสจัด และดื่มน้ำสะอาดอย่างต่ำๆ วันละ 8-10 แก้ว เพื่อขับโซเดียมลดอาการบวมน้ำ

ดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยให้ผิวสดใส ไม่แก่เร็ว

นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนดึกบ่อยๆ จะส่งผลให้ถุงใต้ตาบวมฉึ่ง เพราะร่างกายมีเวลาในการเผาผลาญไขมันในร่างกายน้อย ให้เต็มอิ่มอย่างน้อยประมาณ 6-10 ชั่วโมง เพราะร่างกายของเราจะมีระบบเผาผลาญและฟื้นฟูร่างกายในเวลานอนหลับ หากนอนหลับไม่เพียงพอก็จะทำให้ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ทัน ส่งผลให้ใต้ตาบวมและดำคล้ำ ดังนั้นหากต้องการมีใต้ตาที่สวยไม่บวมฉึ่งควรนอนหลับอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อวัน

บำรุงผิวรอบตาด้วยอายครีม

การบำรุงผิวบริเวรใต้ตานั้นจำเป็นที่จะต้องใช้อายครีมบำรุงเป็นพิเศษ ไม่ควรใช้ครีมบำรุงผิวปกติมาทาเด็ดขาดนะคะ เพราะว่าผิวบริเวณใต้ตาเป็นผิวที่มีความบอบบาง เสี่ยงต่ออาการแพ้ โดยอายครีมที่มีวางขายในปัจจุบันก้มีหลากหลายแบบ แต่ถ้าคนไข้อยากใช้อายครีมเพื่อวัตถุประสงค์ลดอาการบวมใต้ตาโดยตรง หมอโบแนะนำให้ใช้แบบชนิดเจล หรือใช้แผ่นแปะใต้ตาก็ได้ค่ะ

ลำดับทาครีมบำรุงผิว ควรทาอะไรก่อนทั้งเช้า-เย็น-ก่อนนอน

ทาครีมไม่ถูกวิธี ก็ทำให้หน้าเหี่ยวเร็วได้!! วิธีทาครีมให้ถูกต้องควรทำอย่างไร?

วิธีลดถุงใต้ตาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์

1.ผ่าตัดถุงใต้ตา

สำหรับใครที่มีปัญหาถุงใต้ตาบวมด้วยสาเหตุของกรรมพันธุ์ สามารถเลือกวิธีรักษาด้วยการผ่าตัดได้ โดยการผ่าตัดจะเป็นการเก็บผิวหนังส่วนเกินออก วิธีนี้เป็นวิธีการรักษาแบบใช้การวางยาสลบ

2.การฉีดฟิลเลอร์

การฉีดสารเติมเต็ม หรือ “ฟิลเลอร์” เป็นวิธีการรักษารูปแบบหนึ่งที่ค่อนข้างสะดวกและรวดเร็ว ถุงใต้ตาลดบวมและสวยได้ภายใน 30 นาที แต่วิธีนี้จำเป็นต้องเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพราะต้องวางแผนการรักษาอย่างดีค่ะ ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ถุงใต้ตาเดิมที่มีอยู่แล้วบวมมากกว่าเดิมก็ได้

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เช็คหน้า!! ผิวของคุณกำลังแก่ก่อนวัยหรือไม่?

สูตรมาร์คหน้า DIY ทำได้เองที่บ้าน ทำทุกวันสวยทุกวัน

เนื้อฟิลเลอร์แต่ละชนิด เหมาะกับปัญหาผิวแบบไหน?

นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

Line : @debeauclinic
☎️ : 097 426-6956 หรือ 097 429-5645

ฉีดฟิลเลอร์ หมอโบ เดอโบคลินิก (De Beau Clinic) ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์แท้

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่ากว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”

สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ