เหนียงยาน คางสองชั้น อยากยกกระชับเหนียงต้องทำไง

เหนียงยานเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้สาว ๆ หลายคนขาดความมั่นใจขึ้นมา วันนี้หมอโบมีวิธีแก้ปัญหาเหนียงยาน คางสองชั้น ด้วยการยกกระชับเหนียงอย่างถูกวิธีมาฝากทุกคนกันค่ะ ว่าแต่มีวิธีไหนบ้างที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองบ้าง มาดูกันเลย

กระชับเหนียง

เหนียงเกิดจากอะไร

เหนียงเกิดจากไขมันสะสมบริเวณใต้คาง มีลักษณะคล้ายก้อนเนื้อห้อยเป็นชั้น จับแล้วจะรู้สึกนิ่ม โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น จนมีไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แต่บางคนที่รูปร่างสมส่วนก็อาจมีเหนียงได้เช่นกัน

สาเหตุของการเกิดเหนียง

1. อาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดเหนียง

  • อาหารทอด ได้แก่ เฟรนช์ฟรายส์, ไก่ทอด, ไอศกรีม เมื่อร่างกายนำไขมันจากอาหารเหล่านี้มาใช้ไม่หมด จึงเกิดไขมันสะสมตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงใต้คางด้วย
  • อาหารที่มีโซเดียมสูง ได้แก่ มาม่า, ซาลาเปา, เค้ก เมื่อเราทานโซเดียมมากเกินไป จะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำเพื่อขับโซเดียมออกทางไต จนเกิดอาการบวมน้ำที่ทำให้หน้าบวมขึ้น
  • อาหารหรือขนมหวาน ได้แก่ คัพเค้ก, โดนัท, ชานมไข่มุก, น้ำอัดลม อาหารเหล่านี้จะสะสมในร่างกายจนกลายเป็นไขมัน อีกทั้งทำลายเส้นใยในคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณแห้งง่าย ดูแก่ลง
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เบียร์, ไวน์, เหล้าแดง, เหล้าขาว จะลดประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญและทำให้ร่างกายขาดน้ำจนเกิดอาการบวมน้ำ

2. อายุเพิ่มขึ้น

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยลง เนื่องจากคอลลาเจน (Collagen) และอิลาสติน (Elastin) ที่ร่างกายผลิตเสื่อมสภาพลง กล้ามเนื้อบริเวณคอจนถึงใบหน้าส่วนล่างจึงหย่อนตามด้วย

3. พันธุกรรม

หากพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายมีพันธุกรรมผิวหนังยืดหยุ่นน้อย หรือมีปัญหาคางสั้น ร่นถอยไปด้านหลังอันเกิดจากโครงสร้างกระดูกขากรรไกรสั้น อาจส่งผลให้คุณได้คางสองชั้นมาด้วยเช่นกัน

4. พฤติกรรมประจำวัน

นอกจากการทานอาหารที่เกินพอดีแล้ว การทานมื้อดึกและไม่ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้ไม่เต็มที่ ส่วนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะลดประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญ เกิดเป็นไขมันสะสมและกลายเป็นเหนียงในที่สุด นอกจากนี้การนอนเล่นโทรศัพท์ก็มีผลทำให้ต้องกดใบหน้าลงจนเกิดเป็นรอยพับได้เช่นกัน

รักษาเหนียงอย่างไรให้หายเป็นปกติ

1. ควบคุมปริมาณอาหารที่ทานให้พอดี

ไม่เพียงแค่หลีกเลี่ยงอาหารทอด, อาหารหวาน, อาหารที่มีโซเดียมสูง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ควรทานผักและผลไม้เป็นประจำ เนื่องจากมีเส้นใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ไม่มีไขมันสะสมจนเป็นส่วนเกินไป รวมถึงธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีและโปรตีนที่มีประโยชน์ เลี่ยงเนื้อสัตว์ติดมัน ก็จะช่วยให้เหนียงหายเร็วขึ้นด้วย

2. ออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายนำไขมันที่สะสมอยู่มาใช้ นอกจากนี้ยังมีการออกกำลังกายเพื่อกระชับเหนียงโดยเฉพาะที่ควรทำอย่างน้อยวันละ 10-20 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น ดังนี้

  • เงยและก้มหน้า เริ่มจากตั้งศีรษะตรง เงยหน้าขึ้นสุดตึงที่คอค้างไว้ 5 วินาที แล้วก้มหน้าให้คางชิดอกค้างไว้ 5 วินาทีเช่นกัน
  • เงยหน้ายื่นฟัน เริ่มจากเงยหน้าขึ้นจนสุด นำฟันล่างขึ้นมาครอบฟันบนจนรู้สึกตึงที่คอ ค้างไว้ 10 วินาที
  • เงยหน้าแลบลิ้น เริ่มจากเงยหน้าขึ้นจนสุด แลบลิ้นเข้า-ออก 10 ครั้ง
  • ลูบคอ เริ่มจากเงยคอขึ้นจนสุด ใช้ฝ่ามือประสานกัน จากนั้นลูบคอจากล่างขึ้นไปถึงปลายคาง อาจใช้น้ำมันมวยหรือยานวดร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน

3. เคี้ยวหมากฝรั่งลดเหนียง

การเคี้ยวหมากฝรั่งอย่างน้อย 30 ครั้ง จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อใต้คางและกราม ทำให้เหนียงกระชับยิ่งขึ้น ทั้งนี้ควรใช้หมากฝรั่งที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล (Xylitol) เพื่อสุขภาพฟันที่ดี

4. ดูดไขมัน (Liposculpture)

แพทย์จะใช้ความร้อนสลายไขมันส่วนเกินออกมา จากนั้นจึงฉีดยาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดก่อนที่จะใช้อุปกรณ์ดูดไขมัน ทั้งนี้การดูดไขมันไม่สามารถจัดการกับผิวหนังที่หย่อนคล้อยและอาจมีผลข้างเคียงที่ก่อให้เกิดรอยฟกช้ำและความเจ็บปวดหลังการทำด้วยเช่นกัน

5. ร้อยไหมยกเหนียง

แพทย์จะใช้ไหมละลายร้อยเพื่อยกกระชับผิว เนื่องจากการร้อยไหมใต้ผิวหนัง จะช่วยให้เงี่ยงเกี่ยวและล็อกบริเวณผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้นภายใน 1-2 เดือน โดยไหมจะละลายไปเองภายใน 6 เดือน

6. ฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยเติมเต็มชั้นผิวหนังที่หย่อนคล้อยด้วยสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบของ HA เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ หรือมีเหนียง สามารถฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าได้โดยการฉีดเพื่อเก็บรายละเอียดกรอบหน้าบริเวณกราม, แนวขากรรไกร และคางเพื่อให้ใบหน้ากระชับ, สวยคมชัด ใบหน้าสมส่วนและสมดุลมากขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์เสริมคาง หน้าเรียวอย่างปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด-พักฟื้น

7. อัลเทอร่า (Ulthera)

ฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ซิลิโคนเหลว ซิลิโคน ฟิลเลอร์ใต้ตา รอยตาคล้ำ รอยหมองดำ ฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ซิลิโคนเหลว ซิลิโคน ฟิลเลอร์ใต้ตา รอยตาคล้ำ รอยหมองดำ

แพทย์จะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ MFU-V (Microfocus Ultherasound with Visualization) เข้าไปถึงชั้นผิวหนังเพื่อบำรุงผิว ใบหน้ายกกระชับ เต่งตึง อ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่มีมิติ, มีเหนียงหย่อนคล้อย, กรอบหน้ามองไม่ชัด และมีรอยย่นรอบคอชัดเจน การทำอัลเทอร่าเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30-60 ปีขึ้นไป ข้อดีของการทำ Ulthera คือจะมีความปลอดภัยสูง และไม่ต้องพักฟื้น แถมยังไร้รอยไร้แผล นอกจากนี้ยังทำครั้งเดียว เห็นผลได้นานกว่า 1 ปี และเห็นผลลัพธ์ทันทีอีกด้วย

Ulthera นวัตกรรมยกกระชับ เพิ่มความหน้าเรียวรูปแบบใหม่

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ฉีดแฟตเหนียง ผลข้างเคียง มีไหม ร้ายแรงหรือเปล่า?

เทคนิคสร้างหน้าเรียวด้วยตัวเอง และการฉีดโบท็อกหน้าเรียว

5 วิธี ยกกระชับหน้าด้วยวิธีธรรมชาติ ให้สวยใส ดูอ่อนเยาว์

นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

Line : @debeauclinic
☎️ : 097 426-6956 หรือ 097 429-5645

ฉีดฟิลเลอร์ หมอโบ เดอโบคลินิก (De Beau Clinic) ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์แท้

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”

สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ