ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ที่คุณควรรู้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ในปัจจุบันจะเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายก็ตามแต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน อาจลังเลในการฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกหรือหากคุณฉีดมาแล้วยังจำคำแนะนำในการดูแลผิวหลังจากฉีดฟิลเลอร์ตามที่คุณหมอแนะนำมาไม่ได้ วันนี้หมอโบจะมาพูดถึงข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงแนะนำวิธีดูแลตัวเองที่ถูกต้องกันค่ะ

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ที่คุณควรรู้

1. ห้ามสัมผัสบริเวณที่ฉีด

เมื่อครบ 1 ชั่วโมงหลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้ว ให้คนไข้แกะพลาสเตอร์ปิดแผลออกได้ คนไข้ควรงดสัมผัสผิวบริเวณที่ฉีดโดยไม่จำเป็น หากจำเป็นจริง ๆ ควรสัมผัสให้เบาที่สุด ทั้งนี้หลายคนอาจเคยชินกับการนวดคลึงบริเวณที่ปวดบวม แต่สำหรับการฉีดฟิลเลอร์นั้นไม่จำเป็นต้องนวดคลึงผิวเลยค่ะ เพราะถ้าหากคุณสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป นอกจากจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งหรือมีลักษณะผิดรูปไปจากเดิมแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดอาการระคายเคืองต่อผิวง่ายขึ้นด้วยนะคะ

สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีคำถามว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วแต่งหน้าได้มั้ย หมอโบขอบอกตรงนี้เลยว่าได้แน่นอน เพียงแต่หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณที่ฉีดเพียงจุดเดียวเท่านั้นค่ะ ส่วนใครที่สงสัยว่าจะล้างหน้าได้มั้ย หมอโบก็ขอบอกตรงนี้ไว้เหมือนกันว่าได้อีกเช่นกันค่ะ เพียงแต่ควรล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสูตรอ่อนและไม่ควรให้รอยเข็มโดนน้ำนานเกิน 15 นาที เพื่อป้องกันการติดเชื้อนั่นเองค่ะ

2. ห้ามนอนคว่ำหน้า

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดการนอนคว่ำหน้าหรือนอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลานาน อาจจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนสักนิดนึงนะคะ นอกจากจะทำให้กระดูกสันหลังแอ่นมากกว่าปกติ ส่งผลให้คนไข้หายใจไม่สะดวกและก่อให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อคออักเสบในระยะยาวแล้ว ยังมีผลทำให้ฟิลเลอร์ถูกกดทับเป็นเวลานานจนฟิลเลอร์ผิดรูป ต้องมานั่งแก้ภายหลังด้วยนะคะ โดยเฉพาะฟิลเลอร์จมูกและคางที่เสี่ยงต่อการถูกกดทับง่ายเป็นพิเศษ สำหรับท่านอนที่ดีที่สุดคือท่านอนหงายค่ะ โดยให้หมอน 2 ใบหนุนให้หัวสูงกว่าหน้าอก ทั้งนี้ควรนอนหงายอย่างน้อย 3 วันแรกหลังการรักษา และนอนหงายอย่างน้อย 1-3 เดือน เพื่อให้สเต็มเซลล์ไขมันติดดีก่อนค่อยเปลี่ยนท่านอนได้ค่ะ

3. ห้ามสูบบุหรี่

ถึงเวลาที่สายสูบควรได้พักปอดบ้างนะคะ รู้หรือไม่ว่าสารพิษหลายชนิดในบุหรี่มีผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด ส่งผลให้อาการปวดบวมบริเวณที่ฉีดหายช้าลงและลดประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ให้เหลือน้อยลงด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมีผลต่อผิวซึ่งมีส่วนประกอบของคอลลาเจน หากร่างกายได้รับสารพิษจากบุหรี่เป็นเวลานาน อาจทำให้คอลลาเจนเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น เป็นเหตุให้ผิวเสียง่ายแต่ฟื้นฟูยากอีกด้วยค่ะ

4. ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นอกจากสายสูบแล้ว สายดื่มก็ควรต้องงดไปก่อนด้วยเช่นกันค่ะ เพราะแอลกอฮอล์มีผลต่อการสูบฉีดของเลือดนะคะ เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายจะไปกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้รู้สึกปวดบวมบริเวณที่ฉีดมากขึ้น ทางที่ดีควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ แต่หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อย อาจไม่มีผลต่อระบบไหลเวียนเลือดมากนัก แต่หากเผลอลืมตัว ดื่มหนักเข้าไป แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าตามเข้าไปให้ได้ 3-4 ลิตร (12 แก้ว) เพื่อเติมน้ำที่สูญเสียไปจากฤทธิ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั่นเองค่ะ

5. งดอาหารบางประเภท

ไม่ว่าจะเป็นอาหารรสจัดหรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบก็ตาม หมอโบขอห้ามไม่ให้คุณรับประทานก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาหารรสจัดส่วนใหญ่อย่างส้มตำและต้มยำมีส่วนผสมของโซเดียม เป็นเหตุทำให้เกิดภาวะบวมน้ำ (Edema) กระตุ้นให้เกิดอาการปวดบวมบริเวณที่ฉีดหนักกว่าเดิม ส่วนอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบอย่างปลาร้า หรืออาหารทะเลนั้น หมอโบก็แนะนำให้งดไปก่อนด้วยเช่นกันค่ะ เพราะอาหารเหล่านี้ไม่ได้ผ่านการปรุงสุกมาก่อน อีกทั้งช่วงเวลาหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนแอง่ายกว่าคนทั่วไป จึงเสี่ยงต่อจะติดเชื้อและป่วยง่ายมากขึ้นค่ะ

6. ห้ามเครียดมากเกินไป

ในปัจจุบันมีพฤติกรรมเสี่ยงหลายอย่างที่ทำให้ใครหลายคนมีภาวะเครียดง่าย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานภายใต้ความกดดัน, การนอนพักผ่อนน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ, การบริหารจัดการกับความเครียดได้ไม่ดีเท่าที่ควร เป็นเหตุทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) น้อยหรือมากเกินไป เป็นเหตุทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานไม่เต็มที่ เกิดภาวะผิวช้ำง่ายหรือเป็นแผลง่าย นอกจากนี้ยังมีผลทำให้อายุการใช้งานของฟิลเลอร์น้อยลงด้วยค่ะ

7. ห้ามออกกำลังกายหักโหม

หากคุณเสพติดการออกกำลังกายหนัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นสายออกกำลังกายที่บ้าน หรือเล่นกีฬาระดับมืออาชีพก็ตาม หมอโบแนะนำให้คุณพักไปก่อนในช่วง 2 วันแรก เนื่องจากการออกแรงที่มากเกินไป มีผลทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหลุดไปจากแผนการรักษาของแพทย์ อีกทั้งกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของเลือดที่มากขึ้น เป็นเหตุทำให้อาการปวดบวมรุนแรงขึ้นด้วยนั่นเองค่ะ

8. ห้ามโดนความร้อน

รู้ไหมคะว่าความร้อนมีผลต่อฟิลเลอร์โดยตรง โดยเฉพาะ 2 สัปดาห์แรก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าห้องซาวน่า, การเลเซอร์ร้อน การทำทรีตเมนท์ก็ตาม หรือแม้กระทั่งการอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดเป็นเวลานาน เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ การสัมผัสความร้อนเป็นเวลานานอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง อีกทั้งไปลดอายุการใช้งานของฟิลเลอร์ให้น้อยลงอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายผลิตเม็ดผิวหนัง

ดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างไรบ้าง

  • รับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นประจำทุก 4 ชั่วโมง หลังจากฉีดฟิลเลอร์ ทั้งนี้สามารถทานยาแก้ปวดกลุ่มอื่นร่วมด้วยได้หากได้รับคำแนะนำจากคุณหมอที่ทำการรักษา ไม่ว่าจะเป็นไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), อาร์โคเซีย (Arcoxia) ฯลฯ
  • เลือกรับประทานอาหาร สำหรับอาหารที่เหมาะกับคนไข้จะเป็นอาหารปรุงสุกที่ผ่านการฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยความร้อน ปลอดภัยจากเชื้อโรค รวมถึงเลือกรับประทานอารที่มีส่วนประกอบของวิตามิน A และ C อย่างเช่น สตรอว์เบอร์รี กีวี่ สัปปะรด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูบาดแผลบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้เป็นอย่างดีค่ะ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับช่วงเวลาเข้านอนที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ คือเวลา 20:30-22:00 น. ส่วนเวลาตื่นนอนที่เหมาะที่สุดคือเวลา 05:30-7:00 น. เป็นเวลาที่ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ช่วยให้แผลฉีดหายไว ฟิลเลอร์เข้าที่ง่ายขึ้น
  • ดื่มน้ำเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร เนื่องจากน้ำจะช่วยเติมโมเลกุลของฟิลเลอร์ที่หายไปในแต่ละวัน อีกทั้งช่วยสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิวด้วยค่ะ

อ่านเพิ่มเติม: 10 ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและยาวนาน

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี

ฉีดฟิลเลอร์ หมอโบ เดอโบคลินิก (De Beau Clinic) ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์แท้

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”

สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ

นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

Line : @debeauclinic
☎️ : 097 426-6956 หรือ 097 429-5645

บทความที่น่าสนใจ