หลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับแฟตเหนียงว่าสามารถลดเหนียงรอบคอได้จริง แต่หลายคนอาจไม่รู้จักมาก่อนว่าเทคนิคการรักษาประเภทนี้คืออะไร เป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ เหมาะกับสภาพร่างกายของตัวเองมากน้อยแค่ไหน วิธีการรักษายุ่งยากมั้ย พักฟื้นหรือไม่ นานแค่ไหน วันนี้หมอโบจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
แฟตเหนียงคืออะไร
แฟตเหนียง หรือเมโสแฟต เป็นวิธีการรักษาปัญหาเหนียงรอบคอโดยการฉีดยาสลายไขมันเข้าไปยังเหนียงโดยตรง สำหรับตัวยาที่ใช้เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนช่วยสลายไขมันส่วนเกินซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเหนียงย้อย ตัวยามีส่วนประกอบถึง 4 ชนิด ได้แก่ Artichoke extract สำหรับลดการสร้างกรดไขมันและลดไขมันเฉพาะจุด, L-carnitine สำหรับสลายไขมันเพื่อเปลี่ยนมาเป็นพลังงาน, Mesostabyl สำหรับยับยั้งการเกิดคลอเรสตอรอลในชั้นเนื้อเยื่อ และ Tyrosine สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญ ช่วยให้ร่างกายกำจัดไขมันส่วนเกินได้ไวขึ้น อีกทั้งช่วยขับไขมันส่วนเกินออกมาร่วมกับของเสียในร่างกาย จริงอยู่ที่เมโสแฟตสามารถสลายไขมันส่วนเกินได้ แต่หากคนไข้มีเหนียงจากผิวหย่อนคล้อยตามอายุที่เพิ่มขึ้นหรือผิวขาดคอลลาเจน อาจต้องทำการรักษาด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย
แฟตเหนียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
- เมโสแฟตที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ เห็นผลดีมากแต่อาจดื้อยาเมื่อใช้เป็นเวลานาน
- เมโสแฟตที่มีส่วนผสมของถั่วและไข่แดง อาจเกิดอาการแพ้ มีผื่นขึ้น นานเป็นสัปดาห์
- เมโสแฟตที่มีส่วนผสมของเอนไซม์ไฮยาลูโรนิคเดส (Hyaluronidases) เป็นเมโสแฟตที่อันตรายต่อคนไข้ เนื่องจากมีส่วนผสมของ Hyaluronidases ออกฤทธิ์สลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง โดยทั่วไปแล้วเมโสแฟตชนิดนี้ไม่นิยมใช้ในคลินิกชั้นนำ แต่พบบ่อยจากหมอกระเป๋าหรือหมอเถื่อน และจากเว็บไซต์ออนไลน์ที่ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้
แฟตเหนียงเหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด
- ผู้ที่มีไขมันสะสมในจุดที่ไม่สามารถกำจัดออกได้
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันแบบเร่งด่วน
- ผู้ที่ไม่ต้องการรักษาปัญหาไขมันด้วยการผ่าตัดหรือดูดไขมัน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บและการพักฟื้นที่นาน
แฟตเหนียง ข้อดี ข้อเสีย
ข้อดี
- ช่วยลดไขมันได้อย่างตรงจุด
- ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน
- เห็นผลลัพธ์ไวภายใน 1 – 3 สัปดาห์
- ผลลัพธ์คงอยู่ได้ถึง 3 เดือน
- ไม่เจ็บตัวหลังการรักษา จึงไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใด
- ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเนื่องจากใช้สารสกัดจากธรรมชาติที่ร่างกายสามารถขับออกได้
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะสำหรับสตรีตั้งครรภ์และอยู่ในช่วงให้นมบุตร
- อาจมีอาการบวมช้ำบริเวณที่ฉีดในช่วง 1 – 2 วันหลังการรักษา
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร คนไข้จึงต้องมาฉีดซ้ำเพื่อคงผลการรักษาเอาไว้
ผลข้างเคียงจากการฉีดแฟตเหนียง
- มีรอยบวมจากตัวยาหลังการฉีดประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง
- มีรอยฟกช้ำจากเข็มในช่วง 1 – 2 วัน
- แพ้สารสกัดจากธรรมชาติที่อยู่ในตัวยา
- แผลอักเสบจากการติดเชื้อ
ขั้นตอนการฉีดแฟตเหนียง
- คุณหมอจะประเมินรูปหน้าคนไข้ก่อนการรักษาเพื่อให้ผลลัพธ์ของการรักษาตรงตามเป้าที่วางไว้
- คุณหมอจะทำความสะอาดใบหน้าของคนไข้ จากนั้นจึงแปะยาชาเพื่อลดความรู้สึกระหว่างการรักษา
- เมื่อเตรียมความพร้อมให้บริเวณที่จะฉีดแล้ว คุณหมอจะผสมตัวยาตามปริมาณที่เหมาะกับตำแหน่ง จากนั้นจึงฉีดเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการสลายไขมัน
วิธีดูแลหลังฉีดแฟตเหนียง
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อเติมน้ำสำหรับขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย
- งดทานอาหารรสจัดและอาหารที่ผ่านการแปรรูป เช่น อาหารหมักดอง อาหารทะเลดิบ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกง่าย หรือออกแรงเยอะ เช่น เล่นกีฬา ออกกำลังกาย อย่างน้อย 2 วัน
- งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 วัน เพื่อป้องการการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดจึงมำให้
- งดการอบซาวน่า นวดหน้า หรือทำทรีตเม้นท์ต่าง ๆ อย่างน้อย 2 – 3 วัน
Q&A คำถามที่พบบ่อย
แฟตเหนียงกี่วันเห็นผล
ผู้เข้ารับการรักษาจะเริ่มเห็นผลหลังฉีดประมาณ 5 – 7 วัน และเห็นผลเต็มที่ภายใน 2 – 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสมของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ
ฉีดแฟตเหนียง อยู่ได้กี่เดือน
สำหรับการฉีด 1 ครั้ง จะเห็นผลนานประมาณ 2 – 3 เดือน กรณีที่ผู้เข้ารับการรักษาต้องการผลลัพธ์การรักษาที่สม่ำเสมอ จะต้องฉีดแฟตเหนียงต่อเนื่องกันถึง 4 – 5 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะต้องเว้นระยะห่างประมาณ 2 – 3 สัปดาห์
ฉีดแฟตเหนียง ผลข้างเคียงนานแค่ไหน จะหายได้เองมั้ย
โดยทั่วไปแล้วร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาและเกิดอาการบวมหลังจากฉีดแฟตไปแล้วประมาณ 2 – 4 ชั่วโมง แต่อาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 4 – 5 ชั่วโมง กรณีที่อาการบวมไม่ให้ไปเองแม้จะประคบเย็นไปแล้ว 48 ชั่วโมงแล้วก็ตาม ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุดค่ะ
แฟตเหนียง ที่ไหนดี
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

บทความที่น่าสนใจ
- เมโสหน้าใสคืออะไร ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงถูกใจวิธีนี้
- อยากหน้าใสต้องฉีดอะไร ฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือ ทำเมโสดีกว่ากัน
- อันตรายจากการซื้อฉีดเมโสเอง ร้ายแรงกว่าที่คุณคิด