รู้หรือเปล่าคะว่า ในมือถือมีตัวการอันตรายที่ทำให้ผิวของเราเหี่ยวแก่ไวด้วย นั่นก็คือ แสงสีฟ้า หรือ high-energy visible light (HEV Light) วันนี้หมอโบจะพามารู้จักกับเจ้าแสงสีฟ้าตัวนี้ให้ละเอียดไปพร้อม ๆ กันค่ะ
แสงสีฟ้า ตัวการทำลายผิวสวย
แสงสีฟ้าคือ แสงชนิดหนึ่งที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เป็น 1 ใน 3 ของแสงขาวที่มีรังสี UV มีพลังงานสูง มีช่วงความยาวคลื่นประมาณ 380 – 480 nm ซึ่งแสงสีฟ้านี้จะแฝงอยู่กับทุก ๆ ที่รอบตัวเราไม่ว่าจะเป็นจอมือถือ จอทีวี หลอดไฟบางชนิด ซึ่งอันตรายจากแสงสีฟ้าก็คือ มันสามารถเข้าไปทำปฏิกิริยาสร้างสารอนุมูลอิสระทำให้เซลล์ผิวเราเสื่อมสภาพเร็วและยังทะลุเข้าไปได้ถึงชั้นผิวหนังชั้นแท้ (Dermis) หรือชั้นที่มีคอลลาเจนหรืออีลาสตินอยู่ ทำให้คอลลาเจนใต้ผิวเสื่อม หดตัว สลายตัวเร็ว ส่งผลทำให้ผิวแก่ก่อนวัย ริ้วรอยขึ้น ผิวเหี่ยวย่น ผิวหมองคล้ำ กระตุ้นให้ผิวเกิดจุดด่างดำ ฝ้ากระ มีผลจากงานวิจัยในปี 2013 และ 2014 โดย Lipo Chemicals สรุปไว้ว่า ผลกระทบจากแสงสีฟ้านั้นมีความรุนแรงที่ทำร้ายผิวได้มากพอ ๆ กับแสง UVA กับ UVB เลยค่ะ และหากยิ่งเราเล่นมือถือกลางแดดนี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เลย เพราะจอจะสะท้อนแสงโดนหน้าเราแบบเต็ม ๆ ทั้งแสงสีฟ้า + แสง UV ทำให้อันตราย x 2
นอกจากนี้แสงสีฟ้านั้นยังส่งผลรบกวนต่อระบบประสาทและสมอง ทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ได้น้อยลง ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้มีผลต่อการนอนหลับ เมื่อถูกแสงสีฟ้ารบกวนบวกกับหลั่งฮอร์โมนได้ไม่เต็มที่ ทำให้นอนหลับไม่สนิท หลับ ๆ ตื่น ๆ นอนหลับไม่เพียงพอค่ะ
อ่านบทความ : ยิ้มแล้วหน้าย่นทำยังไง วิธีแก้หน้าเหี่ยว หน้าแก่ก่อนวัย
เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรค Text Neck Syndrome
นอกจากอันตรายจากแสงสีฟ้าที่เราจะได้รับจากมือถือเต็ม ๆ แล้ว ยังมีภัยเงียบแฝงตัวมาพร้อมกับการเล่นมือถืออีกด้วยค่ะ โรคนั้นมีชื่อว่า Text Neck Syndrome คือกลุ่มของโรคที่มีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อที่บริเวณคอ บ่า และไหล่ ซึ่งสามารถพัฒนาต่อไปเป็นอาการข้อกระดูกเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกบริเวณคอได้ ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดจากการที่คนไข้เล่นโทรศัพท์มือถือหรือใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน ๆ ในท่าที่ไม่ถูกต้อง คือ การนั่งแบบศีรษะโน้มมาทางด้านหน้า ไหล่สองข้างห่อและก้มหลังก้มหน้าเป็นเวลานาน ๆ
วิธีป้องกัน
- ควรติดฟิล์มที่มีคุณสมบัติกันแสงสีฟ้า
- ควรปรับแสงหน้าจอให้สว่างพอดี ๆ ไม่ควรให้สว่างจ้าจนเกินไป
- เล่นมือถือให้น้อยลง ไม่ควรเล่นก่อนเข้านอนเป็นเวลา 30 นาที
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
- เลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมวิตามินซีที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวและลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ทำทรีตเมนต์รักษาผิวหน้าลดความหมองคล้ำ รอยด่างดำ และริ้วรอยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- วิธีการป้องกัน โรค Text Neck Syndrome คือควรปรับท่านั่งให้เหมาะสมเช่น นั่งหลังตรง ไม่ก้มหน้า ก้มหลัง และไม่ห่อไหล่ ในขณะที่ใช้งานโทรศัพท์มือถือ และมีการพักเปลี่ยนท่าเป็นระยะ ๆ ไม่ควรนั่งท่าเดิม ๆ เป็นเวลานานค่ะ
เคล็ดลับกู้ผิว คืนอายุให้ผิวอ่อนเยาว์ หน้าเด็กตลอดกาล
สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยถามหา มีใบหน้าที่ดูมีอายุกว่าวัย หรือ ใต้ตาคล้ำเสีย ทาครีมก็ไม่หายสักที บางทีคุณอาจจะต้องทำการรักษาที่ล้ำลึกกว่านั้นนะคะ เพราะการทาครีมนั้นสามารถช่วยฟื้นบำรุงผิวได้เพียงชั้นผิวภายนอกเท่านั้น แต่ถ้าหากต้องการรักษาพร้อมฟื้นบำรุงถึงภายในแล้วล่ะก็.. หมอโบแนะนำให้ลองฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบของสารไฮยาลูโรนิคแอซิด (hyaluronic acid) ดูค่ะ เพราะว่าสาร HA นั้นมีโมเลกุลที่คล้ายกับคอลลาเจนใต้ผิวของเรา ซึ่งมีความชุ่มชื้น ช่วยเติมเต็มริ้วรอยส่วนต่าง ๆ ได้ทั้งริ้วรอยลึกและตื้นให้ดูดี ผิวเรียบเนียน มีความเด้งดึ่ง เต่งตึง หน้าเด็กทันทีภายใน 30 นาที แถมไม่ต้องพักฟื้นด้วยค่ะ
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ผลข้างเคียงจากฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง? ใครอยากฉีดก็ต้องรู้
4 จุดฉีดฟิลเลอร์ อันตราย ก่อนฉีดต้องคิดให้หนัก!
แนะ 6 วิธีลดริ้วรอยใต้ตา ทั้งรอยเหี่ยว รอยคล้ำ แบบได้ผล 100%
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”