ฉีดขมับนอนตะแคงได้ไหม นอนท่าไหนปลอดภัยที่สุด มาดูกัน!

ฉีดขมับนอนตะแคงได้ไหม? ถือเป็นข้อควรรู้พื้นฐานที่ทุก ๆ คนควรทราบค่ะ ซึ่งตามที่หมอโบว์เคยกล่าวไว้ในหลาย ๆ ครั้งว่า การเข้ารับบริการและการดูแลจากทีมแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีความเชี่ยวชาญนั้นก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ แต่อีกส่วนที่ก็สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือการดูแลตนเองของคนไข้หลังเข้ารับบริการไปแล้วด้วย โดยการฉีดฟิลเลอร์ขมับนั้นถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการยอดฮิตที่หลายคนสนใจ ดังนั้น ในเรื่องของการดูแลตนเองโดยเฉพาะท่านอนนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรรู้เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นนั่นเองค่ะ

ฉีดขมับนอนตะแคงได้ไหม

ฉีดขมับนอนตะแคงได้ไหม ปรับท่านอนยังไงให้ปลอดภัย ไม่ส่งผลเสียกับผลลัพธ์หลังฉีด?

การฉีด ฟิลเลอร์ขมับ จะช่วยแก้ปัญหารอยลึกบริเวณขมับดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเต็ม ไม่อิดโรย และยังมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ยใบหน้าอีกว่า หากผู้ใดมีขมับลึก โหนกแก้มสูง กระดูกรอบดวงตาเห็นชัด จะอับโชคด้านการเงินและคู่ครอง ทำให้ผู้ที่ต้องการปรับโหวงเฮ้งนิยมมาฉีดกัน เมื่อฉีดแล้วจะทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น ร่องลึกดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูอิ่ม แต่ไม่ดูอ้วนบวม และยังส่งผลทำให้ใบหน้าดูสดใส เด็กลงกว่าวัยอีกด้วยค่ะ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ สิ่งสำคัญคือคนไข้ต้องดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกวิธี โดยเฉพาะในเรื่องของ “ท่านอน” ที่อาจทำให้เกิดปัญหาได้อย่างไม่รู้ตัว ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไร มาติดตามไปพร้อม ๆ กันค่ะ

“ขมับตอบ” ปัญหายอดฮิตที่ทำให้หลาย ๆ คนต้องเลือกมาฉีดฟิลเลอร์

เป็นภาวะที่ใบหน้ามีโหนกแก้มเด่นนูนคล้ายแอ่งลึกอันเนื่องมาจากกระดูกยุบตัวและไขมันบริเวณขมับฝ่อลง สังเกตได้จากโหนกคิ้วและโหนกแก้มที่ดูเด่นชัด โดยสาเหตุของขมับตอบมีทั้งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้แก่ โครงสร้างกะโหลกศีรษะไม่สมดุลกับผิวด้านนอกหรือกล้ามเนื้อด้านในฝ่อกว่าปกติ, อายุมากขึ้น, การลดน้ำหนักแบบกระทันหันที่ทำให้ไขมันบนใบหน้ายุบลงด้วย หรืออาจเกิดจากการรักษาบางประเภทที่ส่งผลต่อใบหน้าอย่างการจัดฟัน ทำให้กล้ามเนื้อกรามและกล้ามเนื้อเทมโพราลิส (Temporalis muscle) แบนลง แม้ว่าจะพบในผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป แต่สามารถพบได้ในผู้ที่มีอายุน้อยกว่านั้นได้เช่นกัน

การฉีดฟิลเลอร์ขมับ คืออะไร

เป็นการฉีดสารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ทำขึ้นมาเลียนแบบสารที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อให้สารดังกล่าวแทรกตัวตามส่วนขมับและดูดซึมน้ำบริเวณนั้นเพื่อให้ผิวขยายตัวและเต่งตึงมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยเติมเส้นใยคอลลาเจน ผิวจึงดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำและลดริ้วรอยให้น้อยลง ส่งผลให้ผิวดูสุขภาพดีและดูอ่อนกว่าวัย ทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น ส่วนร่องลึกก็ดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูอิ่มเอิบ ดูสดใส

แต่เนื่องจากลักษณะโครงสร้างของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นแพทย์จึงต้องวินิจฉัยเพื่อหาปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับโครงหน้าของแต่ละคนมากที่สุด โดยทั่วไปจะฉีดเพียงข้างละ 0.5-2 cc แต่หากแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ไม่มีประสบการณ์มากพอ ไม่มีความรู้เรื่องกายวิภาค, ตำแหน่งของเส้นเลือด, เส้นประสาท และโครงสร้างใบหน้า อาจเลือกฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับใบหน้า อาจก่อให้เกิดอันตรายจนเกิดผลข้างเคียงอย่างฟิลเลอร์เป็นก้อน ดูผิดรูป รวมถึงปัญหาใบหน้าอื่น ๆ ตามมาในระยะยาว

ฉีดฟิลเลอร์ขมับอันตรายไหม?

เนื่องจากขมับเป็นจุดรวมเส้นประสาทสำคัญ จึงทำให้ไวต่อความรู้สึก ดังนั้นอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้เล็กน้อย แต่ไม่เป็นอันตรายต่อคนไข้แต่อย่างใด อาการที่พบส่วนมากจะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีด ซึ่งเกิดจากอาการบวมเข็มและเนื้อฟิลเลอร์ อาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ หรืออาจปวดหัวเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน ทั้งนี้สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามปกติ

ไขข้อสงสัย หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับนอนตะแคงได้ไหม นอนท่าไหนให้ปลอดภัยที่สุด?

โดยปกติแล้ว หลังฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณขมับแพทย์จะแนะนำไม่ให้คนไข้นอนตะแคงค่ะ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 คืนแรก เพื่อป้องกันการกดทับหน้านั่นเอง ซึ่งหากนอนตะแคงบ่อย ๆ อาจส่งผลต่อรูปหน้าหรือรูปทรงที่แพทย์ทำการวางการฉีดไว้ได้ ดังนั้น คนไข้ควรระมัดระวังในการนอนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ ทั้งนี้ ท่านอนที่ปลอดภัยที่สุดก็คงไม่พ้นการ นอนหงาย เพื่อป้องการไม่ให้ขมับทั้งสองด้านโดนกดหรือโดนทับนั่นเอง ซึ่งทางที่ดีอาจหาหมอนรองคอมานอนก่อนในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อป้องกันการนอนตะแคงแบบไม่รู้ตัวค่ะ

6 วิธีดูแลตัวเอง “หลัง” ทำการฉีดฟิลเลอร์ นอกจากเรื่องท่านอน ต้องดูแลให้ถูกวิธียังไงบ้าง?

หลังจ่ากการฉีดฟิลเลอร์นั้น ไม่ว่าจะฉีดส่วนไหนก็ตาม ควรดูแลอย่างถูกวิธี ดังนี้ค่ะ…

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น การจับ การแตะ การเกา การกด โดยเฉพาะจุดที่มีรอยช้ำ เพราะอาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 7 วัน หากไม่ดีขึ้นต้องกลับมาพบแพทย์ค่ะ
  2. อยู่ให้ห่างกับความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
  3. งดการดื่มแอลกอฮอล์ 7 วัน
  4. งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  5. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารแสลงหรืออาหารดิบ เช่น ปูเค็ม ปลาร้า แหนม ปลาดิบ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  6. งดนวดหน้า ทรีทเมนท์ และเลเซอร์ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน

ท้ายที่สุด นอกจากเรื่องการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นท่านอน อาหารการกิน หรือการใช้ชีวิตประจำวันที่ทุก ๆ คนควรให้ความสำคัญแล้ว ก็ยังมีการพิจารณาเลือกคลินิกที่เข้ารับบริการด้วยค่ะ เนื่องจากการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานนั้น จะทำให้คนไข้ได้เข้ารับการดูแลจากแพทย์และทีมที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ซึ่งจะได้รับการดูแลและคำแนะนำที่ครบครันโดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ขมับ เนื่องจากฟิลเลอร์ขมับนั้นมีหลากหลายยี่ห้อ หลายรุ่นให้เลือก ดังนั้น คนไข้จึงควรเลือกสถานพยาบาล หรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญการฉีดฟิลเลอร์ประจำคลินิก รวมถึงควรเลือกใช้แต่ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย และผิวหน้านั่นเองค่ะ

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดห้ามทำอะไร เทคนิคการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ ทำไมต้องเลือก หมอโบ เดอโบคลินิก

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ขมับตอบ โหนกแก้มสูง แก้ไขอย่างไร

ฉีดขมับ ปวดหัว อาการนี้คืออะไร อันตรายหรือไม่?

ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ขมับตอบ เติมขมับ ลดโหนกแก้ม คืนความอ่อนวัย

ฉีดฟิลเลอร์ หมอโบ เดอโบคลินิก (De Beau Clinic) ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์แท้

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”

สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ

นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

Line : @debeauclinic
☎️ : 097 426-6956 หรือ 097 429-5645