หากคุณกำลังตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะมีผลข้างเคียงของฟิลเลอร์หลังการฉีดหรือไม่ อาการรุนแรงมากน้อยแค่ไหน กี่วันหาย แล้วเราควรรับมือหรือป้องกันอย่างไรได้บ้าง วันนี้หมอโบจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ผลข้างเคียงของฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง
โดยทั่วไปแล้วหลังการฉีดฟิลเลอร์มักเกิดผลข้างเคียงตามมาเสมอ เป็นสิ่งที่ผู้เข้ารับการรักษาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากเนื้อเยื่อผิวหนังบริเวณที่ฉีดได้รับความเสียหายเป็นบางส่วน สำหรับผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์มี 2 แบบ ได้แก่ ผลข้างเคียงเล็กน้อย สามารถหายเองได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพ ดังนี้
1. ผลข้างเคียงเล็กน้อย
หรืออาการแพ้ฟิลเลอร์ เป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ได้ไม่นานแต่สามารถหายได้เอง ได้แก่
- รอยช้ำ หรือรอยแดงบริเวณที่ฉีด โดยจะหายไปเองภายใน 1 – 2 สัปดาห์
- รอยนูน บวมหลังฉีด รู้สึกตึง ๆ บริเวณที่ฉีด โดยจะหายไปเองภายใน 4 – 5 วัน
- มีอาการแสบคันบริเวณที่ฉีด โดยจะหายไปเองภายใน 1 – 2 วัน
2. ผลข้างเคียงรุนแรง
เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากร่างกายต่อต้านสารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป โดยสาเหตุของอาการแพ้ส่วนใหญ่มาจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอมหรือแพทย์ผู้ทำการรักษาไม่มีประสบการณ์และความชำนาญมากพอ ทำให้เลือกปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด หรือฉีดไม่ถูกจุด นอกจากจะมีผลต่อรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ยังเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้อีกด้วยนะคะ ทั้งนี้หากเกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ก็สามารถเช็กได้จากอาการดังต่อไปนี้
- บริเวณที่ฉีดบวมแดงบริเวณที่ฉีด รู้สึกปวดมากกว่าอาการปวดทั่วไป ปวดจนทนไม่ไหว
- ฟิลเลอร์เป็นรอยนูน ดูเป็นก้อน อาจเกิดจากการคำนวณปริมาณของฟิลเลอร์ผิดพลาด หากปล่อยไว้นานอาจเสี่ยงต่อการกดทับเส้นประสาทและถึงขั้นตาบอดได้
- รู้สึกปวดแสบร้อนบริเวณที่ฉีดเนื่องจากมีหนองอยู่ภายใน โดยเกิดจากการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด มักเกิดขึ้นหลังการฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์
- เส้นเลือดอุดตันจากฟิลเลอร์อักเสบและอุดตันหลอดเลือดดำ สังเกตได้จากผิวหนังบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนสีจากสีชมพูกลายเป็นสีแดง
ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับใคร
- ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ เช่น ผื่น ลมพิษ หากมีภาวะดังกล่าวควรรักษาให้หายก่อน
- ผู้ป่วยโรคเลือดออกง่ายหยุดยาก หรือโรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia)
- ผู้ที่แพ้สารประกอบในฟิลเลอร์ เช่น คอลลาเจน ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สารลิโดเคน (Lidocaine) แบคทีเรีย ฯลฯ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง
- ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
ดูแลตัวเองอย่างไรหลังฉีดฟิลเลอร์
- ช่วง 6 ชั่วโมงแรกอาจมีอาการปวดบวมหลังหมดฤทธิ์ยาชา หมอโบแนะนำให้ประคบเย็นโดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นหรือใช้ผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณที่ฉีดเบา ๆ เพื่อบรรเทาอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์
- งดรับประทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เนื่องจากอาจมีเชื้อโรคที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อมาก่อนเข้าสู่ร่างกายและเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายขึ้น
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดสูบฉีดมากเกินความจำเป็นจนทำให้กระบวนการซ่อมแซมตัวเองของร่างกายทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ แผลหายช้า
- ดื่มน้ำวันละ 8 – 10 แก้ว (ประมาณ 1.5 – 2 ลิตร) เพราะน้ำจะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์ผิวหนังและสมานแผลไวขึ้น
- หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกับความร้อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เช่น การเลเซอร์ร้อน อบซาวน่า ออกกำลังกายหักโหม
- รับประทานยาตามที่แพทย์จ่ายให้อย่างเคร่งครัด แต่หากทานยาครบแล้วยังไม่ดีขึ้น ให้รีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
บทความที่น่าสนใจ
- รวมทุกคำตอบที่คุณควรรู้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- อาการหลังฉีดฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง รักษาอย่างไรให้หายไวที่สุด
- ฟิลเลอร์สลายไม่หมดเกิดจากอะไร ป้องกันได้ด้วยวิธีไหนบ้าง