รวมทุกคำตอบที่คุณควรรู้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์

แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเสริมสวยให้สาว ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่มั่นใจในผลลัพธ์หลังการฉีดว่าจะเป็นไปตามที่คนอื่นพูดกันมั้ย แล้วถ้าเราไม่เคยฉีดมาก่อนและกำลังจะไปฉีดฟิลเลอร์เป็นครั้งแรกจะต้องเตรียมตัวอย่างไร แล้วมีวิธีป้องกันการฉีดฟิลเลอร์ปลอมจากมิจฉาชีพได้อย่างไรบ้าง วันนี้หมอโบจะมาตอบคำถามเหล่านี้ให้ฟังค่ะ

ก่อนฉีดฟิลเลอร์

ตอบทุกคำถามที่คุณควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์

1. เตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีดฟิลเลอร์

หากคุณไม่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน หมอโบแนะนำให้ศึกษาข้อมูลของฟิลเลอร์และคลินิกฉีดฟิลเลอร์ก่อนว่าได้มาตรฐานหรือไม่ น่าเชื่อถือแค่ไหน มีรีวิวจากผู้ใช้บริการไปไหนทิศทางไหน คลินิกใช้ฟิลเลอร์มียี่ห้อหรือไม่ นอกจากนี้ควรงดพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงระหว่างการรักษาด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการงดรับประทานยาหรือวิตามินเสริม เช่น แอสไพริน (Aspirin), วิตามิน E, น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil), งดนวดหน้าหรือเลเซอร์ผิวหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนเข้ารับการรักษา, งดการโกนขนหรือผลัดเซลล์ผิว และที่สำคัญหากมีประวัติแพ้ยาหรือมีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยนะคะ

นอกจากนี้ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชม. คุณควรงดพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การออกกำลังกายแบบ Cardio การซาวน่า เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา แต่ทั้งนี้สามารถแต่งหน้ามาได้ตามปกติ หรือหากต้องการแปะยาชาก็สามารถแจ้งแพทย์ที่ทำการรักษาได้เลยนะคะ แต่สำหรับผู้เข้ารับการรักษาบางราย แพทย์จะให้ทานยาห้ามเลือด, ยาปฏิชีวนะ หรือฉีดยาลดบวม เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังการรักษา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ท่านนั้นค่ะ

2. ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง

  • ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะประเมินปัญหาเพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับการรักษาท่านนั้น
  • แพทย์จะแจ้งรายละเอียดของฟิลเลอร์แต่ละชนิดที่เหมาะสมกับปัญหาของผู้เข้ารับการรักษา ทั้งชนิด, แบรนด์ และ CC ที่ใช้ฉีด
  • แพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้า หากผู้เข้ารับการรักษาแต่งหน้ามา แพทย์จะทำความสะอาดเพียงแค่จุดที่ต้องการฉีดด้วย
  • แพทย์จะประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาอาการเจ็บจากการฉีด ทั้งนี้ในตัวฟิลเลอร์จะมีส่วนผสมของยาชาอยู่ระดับหนึ่ง โดยแพทย์จะฉีดยาชาให้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ดังนั้นอาการเจ็บอาจมีไม่มาก อยู่ในขั้นทนได้ค่ะ
  • หลังจากฉีดฟิลเลอร์เสร็จ แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังการรักษาเพื่อคงผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานที่สุด

3. ฉีดฟิลเลอร์ ใช้เวลานานไหม

โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 15 – 30 นาที ระหว่างการรักษาผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกตึงบริเวณใบหน้าเนื่องจากฤทธิ์ของยาชา แต่บางรายอาจรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อยแต่อยู่ในระดับที่ทนได้

4. ฉีดฟิลเลอร์ เจ็บไหม

เนื่องจากแพทย์จะฉีดยาชาให้ผู้เข้ารับการรักษาก่อนลงมือฉีดฟิลเลอร์ ระหว่างการรักษาจึงอาจไม่รู้สึกเจ็บใด ๆ หรืออาจเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่อยู่ในระดับที่ทนได้ และเมื่อหมดฤทธิ์ยาชาแล้วอาจรู้สึกเจ็บแสบหรือคัน ๆ บริเวณฉีดที่ฉีดบ้าง แต่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์

5. ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล

โดยทั่วไปแล้วฟิลเลอร์จะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากการฉีดประมาณ 3 วันจนถึง 1 สัปดาห์ และออกฤทธิ์เต็มที่ประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 3 – 4 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วยนะคะ

6. นอนท่าไหนดีหลังฉีดฟิลเลอร์

ท่านอนที่ดีต่อคนไข้มากที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ค่ะ หากคุณฉีดฟิลเลอร์ขมับก็ควรนอนหงาย แต่หากฉีดฟิลเลอร์คางก็ควรนอนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอก ส่วนท่านอนที่ไม่แนะนำได้แก่ ท่านอนคว่ำหน้า และท่านอนตะแคง เนื่องจากจะทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ถูกกดทับและผิดรูปไปจากเดิมได้

7. ห้ามสัมผัสผิวหน้าหลังฉีดฟิลเลอร์กี่วัน

แม้ว่าคนไข้จะแกะพลาสเตอร์ปิดแผลออกได้เมื่อครบ 1 ชั่วโมงหลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วก็ตาม แต่ทางที่ดีห้ามสัมผัสบริเวณที่ฉีดโดยไม่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการแกะ เกาะ หรือนวดก็ตาม โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะอนุญาตให้สัมผัสผิวหน้าได้หลังจากฉีดฟิลเลอร์ได้ภายใน 3 วัน แต่หากมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำนานกว่า 3 วัน แนะนำให้รีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุดค่ะ

8. ห้ามทานอะไรหลังฉีดฟิลเลอร์

สำหรับอาหารที่หมอโบแนะนำให้งดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาหารบางประเภทมีกรรมวิธีการผลิตที่ไม่สะอาดเท่าที่ควร จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายเนื่องจากหลังการฉีดฟิลเลอร์เป็นช่วงที่ร่างกายกำลังอ่อนแอ ได้แก่ อาหารรสจัด เช่น ต้มยำ ส้มตำ ที่กระตุ้นให้เกิดการสะสมน้ำในร่างกายจนเกิดภาวะบวมน้ำ อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น ส้มตำปูปลาร้า ก้อย ลาบดิบ, อาหารหมักดอง เช่น กะปิ กิมจิ ปลาส้ม, อาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารสำเร็จรูปอย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, อาหารแปรรูป เช่น อาหารกระป๋อง ไส้กรอก แหนม รวมถึงงด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่าง เหล้า เบียร์ ไวน์ ที่ทำให้ร่างกายสูบฉีดเลือดมากเกินไปและเกิดการอักเสบง่ายขึ้น แต่ในกรณีที่คุณลืมตัว เผลอดื่มเข้าไปแล้ว หมอโบแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าตามเข้าไปประมาณ 3 – 4 ลิตร (12 แก้ว) เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ค่ะ

9. อยากให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน ทำอย่างไรได้บ้าง

สำหรับวิธีคงสภาพฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานนั้น หมอโบแนะนำวิธีง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ นั่นคือการดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 12 แก้ว (ประมาณ 2 – 3 ลิตร) เนื่องจากร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำมากถึง 2 ใน 3 แต่ด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิติประจำวันจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำไปทีละนิด ดังนั้นการดื่มน้ำจะช่วยให้เติมความสดชื่นให้แก่ร่างกาย อีกทั้งกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรง

และที่สำคัญน้ำยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟิลเลอร์คงอยู่ในร่างกายได้นานขึ้นอีกด้วยนะคะ เนื่องจากโมเลกุลของฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปทีละน้อยตามอายุการใช้งาน ซึ่งโมเลกุลของน้ำสะอาดที่เราดื่มเข้าไปจะช่วยเติมหรือแทนที่โมเลกุลของฟิลเลอร์ที่หายไปค่ะ นอกจากนี้การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม ตรงตามความต้องการของร่างกาย ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบำรุงผิวให้เรามากยิ่งขึ้น ผิวจึงชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วยค่ะ

10. หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่ได้ดูแลตัวเอง จะเป็นอะไรไหม

เป็นแน่นอนค่ะ นอกจากจะทำให้แผลหลังฉีดฟิลเลอร์หายช้าแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยแดง ผิวหนังบวม ระคายเคือง ฟิลเลอร์ผิดรูปหรือเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง เสี่ยงต่อภาวะอักเสบง่ายและกลายเป็นปัญหาต้องมานั่งตามแก้ในระยะยาว นอกจากนี้ยังเร่งให้อายุของฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปสั้นลง ผลลัพธ์การรักษาอาจไม่ดีเท่าที่ควร อาจต้องเสียเวลามาฉีดฟิลเลอร์ใหม่ไวกว่าคนอื่นที่ฉีดอีกด้วยค่ะ

11. หลังฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อนไหม

โดยทั่วไปแล้วฟิลเลอร์แท้จะสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ เมื่อฉีดด้วยแพทย์ที่ชำนาญด้านนี้โดยเฉพาะ มักไม่เกิดปัญหาดังกล่าว แต่หากจับบริเวณที่ฉีดแล้วรู้สึกมีไตแข็งโผล่ขึ้นมา เมื่อสัมผัสแล้วรู้สึกเจ็บ นั่นเป็นสัญญาณเตือนของภาวะฟิลเลอร์เป็นก้อนซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ราคาถูก ไม่ผ่านมาตรฐาน อย, ใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมากเกินไป ไม่เหมาะดับตำแหน่งที่ฉีด, แพทย์ไม่มีประสบการณ์และความชำนาญ อาจเป็นหมอกระเป๋าที่เคยทำงานในคลินิกเสริมความงามหรือเป็นแพทย์สาขาวิชาอื่นแล้วมาฉีดให้ เป็นต้น

12. ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี

ฉีดฟิลเลอร์ หมอโบ เดอโบคลินิก (De Beau Clinic) ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์แท้

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”

สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ

นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

Line : @debeauclinic
☎️ : 097 426-6956 หรือ 097 429-5645

บทความที่น่าสนใจ