- สำหรับหลายคนที่มีปัญหาจมูกบานและกำลังมองหาวิธีลดปีกจมูก โบท็อกปีกจมูกถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดปีกจมูกให้ดูสวยขึ้นได้ด้วยนะคะ ว่าแต่โบท็อกจมูกคืออะไร มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร แล้วเหมาะกับใครบ้าง มาอ่านไปด้วยกันเลยค่ะ
โบท็อกปีกจมูกคืออะไร
เป็นเทคนิคลดขนาดจมูกโดยศัลยแพทย์จะฉีดโบท็อกที่มีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อมัดเล็กบริเวณปีกจมูกทั้ง 2 ข้าง (Nasalis muscle) ทำงานน้อยลงชั่วคราว กล้ามเนื้อปีกจมูกคลายตัว หลังจากฉีดโบท็อกไปได้สักพักแล้วเวลาปีกจมูกจะหดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด รูจมูกดูเล็ก จมูกดูเรียวขึ้นชั่วคราวค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณสันจมูกส่วนบนเวลาคนไข้ยิ้มได้อีกด้วยนะคะ สำหรับปริมาณโบท็อกที่ใช้จะอยู่ที่ 25 ยูนิต ต่อการฉีด 1 ครั้งค่ะ
สาเหตุของปีกจมูกบานเกิดจากอะไร
1. กรรมพันธุ์
หากคนในครอบครัว เช่น ปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ พี่น้อง มีกรรมพันธุ์จมูกบาน ลูกหลานก็มีโอกาสได้รับกรรมพันธุ์นี้เช่นกันค่ะ
2. มีผิวมัน หรือมีน้ำหนักตัวเยอะ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีผิวมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หรือมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีเนื้อกองบริเวณปีกจมูกมากขึ้น กระดูกอ่อนปลายจมูกกว้างและแบออก ทำให้จมูกดูโก่ง ปลายจมูกบานและดูกว้างขึ้นค่ะ
3. กระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูกบาน
หากปีกจมูกบานจากกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูกบาน กรณีนี้คนไข้ไม่สามารถฉีดโบท็อกแก้ไขได้ ต้องผ่าตัดปีกจมูกเท่านั้นค่ะ
จมูกบานแบบไหนที่ควรแก้ไข
- รูจมูกกว้าง เห็นรูจมูกชัดเจน
- จมูกเนื้อหนา ทรงจมูกกลม ดูเป็นจมูกทรงชมพู่
- ปีกจมูกบาน ปีกกว้างเลยแนวหัวตา ไม่สมส่วนกับใบหน้าและดวงตา
ข้อดีข้อเสียของโบท็อกปีกจมูกที่คุณควรรู้ ก่อนตัดสินใจฉีด
- ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีแผลจากการผ่าตัด เหลือเพียงรอยเข็มขนาดเล็ก ซึ่งหายได้เองภายใน 1 – 2 วัน
- ใช้เวลารักษาไม่นานเพียง 10 – 15 นาที แตกต่างจากการผ่าตัดปีกจมูกที่ใช้เวลาประมาณ 30 – 60 นาที
- ไม่ต้องพักฟื้นหลังฉีดโบท็อก คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ผลลัพธ์หลังการรักษาจะอยู่ที่ 3 – 4 เดือน ต้องกลับมาฉีดซ้ำ ๆ หากไม่พอใจในผลลัพธ์ก็ต้องรอให้โบท็อกสลายให้หมดก่อนฉีดอีกรอบ
- จัดแต่งทรงยากกว่าการผ่าตัดปีกจมูก
- ราคาถูกกว่าการผ่าตัดปีกจมูก
โบท็อกปีกจมูกไม่เหมาะกับใคร
- หญิงตั้งครรภ์และหญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคหรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อ
- ผู้ป่วยโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด
- ผู้ที่มีปัญหาโรคผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ
- ผู้ที่มีอาการแพ้สารประกอบในโบท็อก
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์คงทนถาวร เนื่องจากโบท็อกจะสลายเองตามธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการตกแต่งทรงจมูกเพิ่มเติมเพื่อความสวยงามหรือแก้ปัญหาความผิดปกติของจมูก
ฉีดโบท็อกปีกจมูกเหมาะกับใครบ้าง
สำหรับการฉีดโบท็อกปีกจมูกจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปีกจมูกกว้างจากกล้ามเนื้อและผู้ที่ต้องการลดปีกจมูกเวลาแสดงสีหน้าเท่านั้น หากคุณมีปัญหารูจมูกกว้าง ปีกจมูกไม่เท่ากัน แนะนำให้ผ่าตัดปีกจมูกหรือเสริมจมูกเพื่อแก้จมูกบานจะดีกว่าค่ะ
เตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีดโบท็อกปีกจมูก
- เลือกคลินิกชั้นนำที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
- ใช้โบท็อกแท้ โดยทั่วไปแล้วหากคุณเข้ารับการรักษากับศัลยแพทย์ชั้นนำแล้ว ไม่มีทางเจอโบท็อกปลอมอย่างแน่นอน สังเกตได้จากราคาที่สูงตามมาตรฐาน หากคุณหวังประหยัดราคาโดยการใช้บริการกับหมอกระเป๋า ก็อาจเสี่ยงต่อการมานั่งแก้ปัญหาจมูกที่เกิดจากโบท็อกปลอม แถมยังเสี่ยงต่อโบท็อกอยู่ในจมูกถาวรและมีผลต่อรูปทรงจมูกที่เปลี่ยนไปอีกด้วยค่ะ
- งดยาหรืออาหารเสริมที่มีส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดเป็นเวลา 7 วันก่อนเข้ารับการรักษา เช่น ไอบูโพรเฟน แอสไพริน วิตามิน E น้ำมันปลา แปะก๊วย
- งดทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ผลัดเซลล์ผิวชั่วคราว เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามิน A, สารเรตินอล (Retinol), สารเรตินอยด์ (Retinoid) ก่อนเข้ารับการรักษา
- งดกิจกรรมที่กระตุ้นการไหลเวียนเลือดภายใน 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการรักษา เช่น ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการรักษา
- งดขัดผิว แว็กซ์ขน หรือหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนเข้ารับการรักษา
- พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7 – 8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการรักษา
- แจ้งประวัติการรักษา โรคประจำตัว อาการแพ้ยา รวมถึงยาหรือวิตามินที่ทานให้ศัลยแพทย์ทราบเสมอ
โบท็อกปีกจมูกเจ็บไหม
บอกตามตรงเลยนะคะว่า การฉีดโบท็อกลดปีกจมูกค่อนข้างเจ็บเนื่องจากจมูกเป็นจุดรวมเส้นประสาทจำนวนมาก แต่ความเจ็บนั้นอยู่ในระดับที่ทนได้ ทั้งนี้ศัลยแพทย์จะฉีดยาชาและประคบเย็นระหว่างฉีดให้อยู่แล้วเพื่อบรรเทาอาการ แต่อาการเจ็บอาจเกิดขึ้นหลังจากหมดฤทธิ์ยาชา แต่อาการเจ็บนี้จะหายเองภายใน 2 – 3 วัน
ฉีดโบท็อกปีกจมูก กี่วันเห็นผล?
โดยทั่วไปแล้วจะเห็นผลภายใน 1 – 2 สัปดาห์หลังฉีด ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้แต่ละคนค่ะ
ทำจมูกกัลฉีดโบท็อกทำพร้อมกันได้ไหม
ไม่แนะนำให้ทำศัลยกรรมและหัตการพร้อมกันค่ะ ในกรณีที่คนไข้อยากทำสวยพร้อมๆ กันหมอโบแนะนำว่าให้ค่อยๆ อย่าใจร้อนค่ะ เพราะอาจจะทำให้ผลที่ตามมาไม่เป็นไปตามที่หวังได้ ควรเลือกทำอยากใดอย่างหนึ่งก่อนแล้วค่อยทำอีกอย่างทีหลัง เช่น
- หากเลือกฉีดโบท็อกก่อน ควรเว้นการทำหัตการเกี่ยวกับหน้าทุกชนิด ทั้ง บีบสิว เลเซอร์ นวดหน้าอย่างน้อย 14 วัน แล้วค่อยปรึกษาศัลยแพทย์เรื่องการเสริมจมูก
- หากเลือกทำจมูกก่อน อนะนำให้ควรการทำหัตการก่อนเพื่อให้แผลหายสนิท 1-2 เดือน
ฉีดโบท็อกปีกจมูกที่ไหนดี
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
inbox : m.me/debeauclinicLine : @debeauclinic: 097 426-6956 หรือ 097 429-5645website : www.debeauclinic.comบทความที่น่าสนใจ