หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับการทำอัลเทอร่ากันมาบ้างแล้วว่าสามารถรักษาปัญหาผิวหน้าได้จริง นอกจากจะเป็นวิธีที่ไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดแล้ว ยังฟื้นฟูการดูแลผิวให้ล้ำลึกมากกว่านวัตกรรมแบบเก่าอีกด้วย ว่าแต่การรักษาประเภทนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เจ็บมั้ย เห็นผลเมื่อไหร่ เห็นผลเร็วกว่าวิธีอื่นมั้ย ผลการรักษาอยู่ได้แค่ไหน แล้วปัญหาผิวหน้าแบบไหนควรทำบ้าง ถ้าอย่างนั้นเรามาอ่านไปพร้อมกันเลยค่ะ
อัลเทอร่า (Ulthera) คืออะไร
เป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกกระชับใบหน้าให้ดูเด็กลง แลดูอ่อนกว่าวัย โดยการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเฉพาะเจาะจงจากเทคโนโลยี Advance-Focused Ultrasound เมื่อคลื่นกระทบพื้นผิวแล้วจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพลังงานความร้อนที่มีอุณหภูมิ 65 – 70°C ลงลึกไปยังผิวชั้น SMAS (Superficial musculoaponeurotic system) ซึ่งเป็นผิวชั้นในสุดที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า โดยที่คลื่นดังกล่าวจะส่งเป็นเส้นไลน์เล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ ก่อให้เกิดการหดตัวขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนบนผิวชั้นบนให้มีความกระชับมากขึ้น เกิดการปรับสภาพผิวที่อ่อนแอให้ดูแข็งแรง มีชีวิตชีวามากขึ้น ผิวหน้าหย่อนคล้อยจึงดูกระชับและตึงขึ้นทันทีหลังการรักษา
ความพิเศษของการรักษาประเภทนี้จะแสดงผลผ่านหน้าจอแสดงผลชั้นผิวแบบ Real – Time ด้วยเทคโนโลยี See & Treat ทำให้คุณหมอเห็นสภาพผิวหนังขณะรักษาผ่านหน้าจอเครื่องตลอดเวลา ช่วยให้การรักษาแม่นยำยิ่งขึ้น และรักษาได้ตรงจุดอีกด้วยค่ะ แถมหมอก็ไม่จำเป็นต้องใช้เข็มหรือทำลายชั้นผิวแม้แต่น้อยอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้อัลเทอร่าจะไม่ส่งผลรบกวนกับหัตถการอื่น ๆ เพียงแต่ต้องรักษาในช่วงเวลาและลำดับขั้นตอนอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยและประหยัดงบของคนไข้เองด้วยค่ะ
เนื่องจากอัลเทอร่าเป็นวิธีการยกกระชับใบหน้าที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องผ่าตัด แถมมีขั้นตอนไม่ซับซ้อนเหมือนการรักษาประเภทอื่นด้วย จึงกลายมาเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันที แถมยังเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงอีกด้วยนะคะ โดยในเคสที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่มาก จะเห็นผลลัพธ์เกือบเทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้า อีกทั้งไม่มีอาการบาดเจ็บผิวหนังด้านบน จึงไม่เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้า แต่หากหลายคนกังวลว่ารักษาไปแล้วถ้าโดนแดดจะเป็นอย่างไร หมอโบขอบอกตรงนี้เลยนะคะว่าไม่มีผลกับการโดนแดดหลังการรักษาแน่นอนค่ะ
ข้อดีของอัลเทอร่า
- ปลอดภัยสูง ไม่เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บเหมือนการผ่าตัด
- ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น หลังเข้ารับการรักษาสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ
- ผู้ที่มีฝ้า กระ สามารถรักษาให้หายได้
- หมดปัญหาผิวหน้าไหม้หลังการรักษา เนื่องจากแพทย์มองเห็นชั้นผิวผ่านหน้าจอ จึงรักษาได้อย่างแม่นยำ
- เห็นผลลัพธ์ในทันที
- ทำครั้งเดียว เห็นผลนานกว่า 1 ปี
ข้อเสียของอัลเทอร่า
- ราคาค่าบริการค่อนข้างสูง แต่หมอโบแนะนำให้ทำจนครบคอร์สนะคะ เพราะว่าผลลัพธ์หลังทำคือดีมาก บอกเลยว่าผิวหน้าจะเนียนเด้ง กระชับมาก คนไข้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าประทับใจสุด ๆ ค่ะ
- อาจจะมีอาการเจ็บแปลบ ๆ บริเวณผิวหน้าขึ้นมาบ้าง เนื่องจากใช้คลื่นความถี่สูงในการยิงไปยังผิวหน้า แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะเพราะคุณหมอจะทายาชาก่อนการรักษาอยู่แล้ว
- หลังการรักษาอาจมีอาการบวมแดงคล้ายผิวอักเสบอยู่บ้าง แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 อาทิตย์ เป็นไปได้ว่าคนไข้อาจโดนหลอกให้ไปทำอัลเทอร่าปลอมเข้าแล้วล่ะค่ะ
ปัญหาผิวหน้าแบบไหนควรทำอัลเทอร่า
- ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีกรอบหน้ากลม ไม่มีมิติ กรอบหน้าไม่ชัด
- ผู้ที่มีเนื้อแก้มหย่อนคล้อย
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า
- ผู้ที่มีฝ้า กระ
- ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก หนังตาตก หรือหางตาตก
- ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง มีหลุมบนใบหน้าไม่สม่ำเสมอ
- ผู้ที่มีรอยย่นบริเวณรอบคอ
ผลลัพธ์หลังการรักษาด้วยอัลเทอร่า
อย่างแรกเลยที่หมอโบชอบนั่นก็คือทำเสร็จแล้วเห็นผลการรักษาทันทีค่ะ ใบหน้าดูกระชับ มีกรอบหน้าชัดเจน หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ผิวหน้าจะเริ่มตึงและดีขึ้นตามลำดับ โดยผลลัพธ์จะเริ่มเห็นชัดตั้งแต่ช่วง 2 – 3 เดือนแรก และผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1 – 2 ปีเลยค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยนะคะว่ามีอายุ, วิถีชีวิตประจำวัน, สภาพผิว และการดูแลตัวเองหลังการรักษาอย่างไรบ้าง
อัลเทอร่าเห็นผลเร็วกว่าวิธีอื่นมั้ย
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการหน้ากระชับทันทีหลังการรักษา อัลเทอร่าถือว่าตอบโจทย์ตรงนี้มากกว่าการรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ เมโสแฟต แต่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เหนียงใต้คางห้อย นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่เติมโบท็อกซ์หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วแต่อยากยกกระชับใบหน้าให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เปรียบตรงที่เสียเวลามารักษาเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้นเองค่ะ
ดูแลตัวเองหลังจากทำอัลเทอร่าอย่างไรบ้าง
- ช่วง 3 – 5 วันแรก หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความร้อนและแสงแดด เพราะอาจทำให้ใบหน้าสะสมความร้อนมากจนผิวหน้าไหม้
- งดการสัมผัสหน้าแรง ๆ
- หากใบหน้าบวมแดงหลังทำ ให้ประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวม โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2 – 3 วัน
- หากผิวแห้งแนะนำให้บำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ และหลีกเลี่ยงการใช้ครีมบำรุงกลุ่มไวท์เทนนิ่ง หรือผลัดเซลล์ผิว อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หากพบความผิดปกติเกี่ยวกับใบหน้า ให้รีบมาพบคุณหมอโดยเร็วที่สุด
ทำไมต้องทำอัลเทอร่ากับหมอโบที่ De Beau Clinic
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
: 097 426-6956 หรือ 097 429-5645บทความที่น่าสนใจ
ทำอัลเทอร่า Ulthera หน้าบวม ถือเป็นอาการผิดปกติหรือไม่?
Ulthera นวัตกรรมแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อน ช่วยผ่อนเหนียง
Ulthera กับ Thermage ต่างกันยังไง แบบไหนเหมาะกับเรา?