เลเซอร์หน้าใส ลดรอยสิว เป็นนวัตกรรมที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมกันมาอย่างยาวนานสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าต่าง ๆ ค่ะ เราต่างทราบกันดีว่าสิวชนิดต่าง ๆ นั้น เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็จะมีวิธีที่รักษาแตกต่างกันออกไป ซึ่งการรักษาสิวให้หายยังว่ายากแล้ว แต่รอยสิวหลังจากนั้นจะรักษาให้หายนั้นยากกว่า ดังนั้น การทำเลเซอร์ผิวหน้า จึงเป็นตัวเลือกหลัก ๆ ของผู้ที่อยากลดเลือนรอยสิวนั่นเองค่ะ
เลเซอร์หน้าใส ลดรอยสิว คืออะไร ช่วยได้จริงหรือ?
การเลเซอร์ผิวหน้า รักษาหลุมและรอยสิว คือ นวัตกรรมแห่งการดูแลผิว แก้ไขปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รอยดำ รอยแดง ฝ้า กระ หลุมสิว โดยใช้หลักการของคลื่นแสงและพลังงานความร้อน ที่มีคำเฉพาะเจาะจงต่อปัญหานั้น ๆ เพื่อการรักษาอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้จัดเรียงตัวใหม่อย่างเป็นระเบียบ
เลเซอร์รอยสิวและหลุมสิว คืออะไร?
เลเซอร์รอยสิวและหลุมสิว คือ เทคโนโลยีที่ใช้เครื่องเลเซอร์สำหรับแก้ปัญหารอยสิวด้วยพลังงานแสงความเข้มข้นสูง และช่วงความยาวคลื่นที่เหมาะสม โดยจะทำการยิงลำแสงเลเซอร์ลงไปบนผิวหนังที่ต้องการลบรอยสิว เพื่อกำจัดผิวหนังชั้นนอกที่เกิดรอยดำหรือรอยแดงนั้นทิ้งไป และกระตุ้นผิวหนังให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลให้ผิวบริเวณที่ทำแลดูเรียบเนียน และรอยต่าง ๆ ดูจางลง
ปัจจัยสำคัญของการเกิดรอยสิว
รอยสิว คือ รอยแผลเป็นที่เกิดจากการเป็นสิว ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่ใบหน้าของเราเกิดสิวอักเสบ หรือสิวอุดตันผุดขึ้นมา ก็จะส่งผลให้ผิวหนังของเราเกิดกระบวนการซ่อมแซมตัวเองขึ้นมาค่ะ จึงทำให้ภายหลังจากการหายเป็นสิวแล้ว จะปรากฏเป็นรอยแผลเป็นในลักษณะต่าง ๆ บนใบหน้านั่นเอง
สิวอักเสบรุนแรง
หากสิวมีการอักเสบอยู่ในระดับที่รุนแรง โดยการอักเสบมีการขยายวงกว้าง หรือลุกลามไปสู่ผิวชั้นในก็จะส่งผลให้เกิดรอยสิวฝังลึกจนอาจรักษาได้ยาก
การแกะ หรือ บีบสิว
พฤติกรรมการบีบหรือการแกะสิวอาจทำให้เกิดการอักเสบที่ลุกลาม และยังสร้างความเสียหายให้แก่ผิวหนังเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งก็จะส่งผลให้รอยแผลจางหายไปได้ช้า
เครื่องมือที่นิยมนำมารักษาลดรอยดำและรอยแดงจากสิว
สำหรับเครื่องเลเซอร์สิว เลเซอร์หลุมสิว ที่ใช้ในการรักษารอยสิวจะมีอยู่หลากหลายชนิด ซึ่งในแต่ละชนิดก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยชนิดที่นิยมเลือกใช้หลัก ๆ จะมีด้วยกันดังนี้
0 1 เครื่องในกลุ่ม Pico
ข้อดี : คลื่นแสงความถี่สูง, แตกเม็ดสีค่อนข้างละเอียด, ไม่ทิ้งรอยไหม้ หรือรอยแผลเป็น, รักษารอยสิว รวมไปถึงลบรอยสักได้ดี
ข้อเสีย : ราคาสูงกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น ๆ
0 2 เครื่องที่ใช้คลื่นแสง IPL (Intense Pulse Light)
ข้อดี : คลื่นแสงไม่เข้มข้นจนเกินไป จึงเหมาะกับรอยสิวที่ไม่รุนแรงหรือรอยสิวที่เพิ่งเกิดใหม่ และยังสามารถรักษารอยดำได้ดีอีกด้วย
ข้อเสีย : คลื่นแสงมีความกว้างอาจทำให้รักษาได้ไม่ตรงจุด
0 3 เครื่องที่ใช้คลื่นแสง VPL (V-Intense Pulsed Light)
ข้อดี : ตัวเครื่องให้ผลลัพธ์ของคลื่นแสงที่กว้าง จึงเหมาะกับรอยสิวที่ไม่รุนแรงหรือรอยสิวที่เพิ่งเกิดใหม่
ข้อเสีย : คลื่นแสงมีความกว้างอาจทำให้รักษาได้ไม่ตรงจุด
0 4 Dual Yellow
ข้อดี : ตัวเครื่องตอบสนองได้ดีต่อการรักษารอยแดงและเส้นเลือด
ข้อเสีย : รอยสิวที่ชัดเจนหรือเป็นมานาน อาจต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง
0 5 V-Beam
ข้อดี : ตัวเครื่องมีระบบพ่นความเย็น (DCD) ช่วยปกป้องผิวจากความร้อนขณะทำเลเซอร์สิว และยังสามารถรักษารอยแดงได้ดี
ข้อเสีย : อาจเกิดรอยคล้ำภายหลังการรักษา ซึ่งรอยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะค่อย ๆ จางลงเป็นปกติ
0 6 เครื่องในกลุ่ม Q-Switched
ข้อดี : ตัวเครื่องนี้สามารถตอบสนองได้ดีกับรอยดำ
ข้อเสีย : อาจเกิดรอยดำตามมาได้ในภายหลัง
การใช้เลเซอร์แก้ปัญหารอยสิวดีอย่างไร
การทำเลเซอร์รอยสิว คือ การใช้พลังงานคลื่นแสงเข้าไปทำลายเม็ดสีให้แตกละเอียด เพื่อให้ร่างกายของเราสามารถกำจัดเม็ดสีออกไปได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ โดยการรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์นั้นมีข้อดีต่าง ๆ ดังนี้
- ช่วยให้รอยแดงหรือรอยดำจากสิวแลดูจางลง
- ช่วยให้ริ้วรอยแลดูลดเลือนและจางลง
- ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวของเราให้เกิดการสร้างคอลลาเจน
- ช่วยให้ผิวพรรณบนใบหน้าแลดูเรียบเนียนกระจ่างใส
- หลังทำเห็นผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก
- ไม่เกิดอาการแพ้ เพราะเลเซอร์สิวไม่ใช้สารเคมี
อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่ต้องเข้ารับการทำเลเซอร์หน้าใส ลดรอยสิว ก็ควรเข้ารับคำแนะนำจากคุณหมอ โดยคุณหมอจะทำการประเมินปัญหาตามจริงก่อน และยิงเลเซอร์เน้นตามปัญหาของคนไข้ ซึ่งยิงโดยไม่จำกัด Shots ตามปัญหาจริง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หลังการยิงเลเซอร์จะไม่ทำให้หน้าบาง สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกตินั่นเองค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ผลข้างเคียงจากฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง? ใครอยากฉีดก็ต้องรู้
อยากฉีดฟิลเลอร์ ต้องทำยังไง การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์
ยกกระชับหน้าด้วยฟิลเลอร์ สวยทันที ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ