เลเซอร์ผิวหน้า ถือเป็นวิธีการฟื้นฟูผิวหน้ายอดนิยมของสาว ๆ หนุ่ม ๆ ในยุคนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่อันตรายเพราะไม่ต้องทำการผ่าตัด มีหลายวิธีให้เลือก อีกทั้งยังแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหมองคล้ำ หย่อนคล้อย รอยสิว ฝ้า-กระ เป็นต้น อย่างไรก็ดี จากที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า การทำเลเซอร์ นั้นมีหลายวิธี ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาดูกันค่ะว่าวิธีต่าง ๆ ดังกล่าวมีวิธีใดบ้าง แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียอย่างไร และเหมาะกับใคร?
เลเซอร์ผิวหน้า คืออะไร มีกี่วิธี และข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร?
ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสาว ๆ หรือผู้ที่ชื่นชอบในการทำ Treatment ให้ผิวหน้านั้น มีความนิยมทำเลเซอร์หน้ากันอย่างมากเพราะการทำเลเซอร์หน้าช่วยให้หน้าขาวเนียนกระจ่างใส ไร้สิว ไร้ริ้วรอย กระ ฝ้า ลดเลือนจุดด่างดำ หรือแม้กระทั่งกำจัดขน เป็นต้น แต่การทำเลเซอร์หน้านั้น ก็มีหลากหลายแบบให้เลือกอยู่มากทีเดียวค่ะ เพื่อให้ทุกคนเลือกประเภทของเลเซอร์หน้าได้อย่างถูกต้อง วันนี้เราจึงจะมาอธิบาย 5 เลเซอร์หน้ายอดฮิตว่ามันคืออะไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง พร้อมกับวิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำเลเซอร์ค่ะ
เลเซอร์ใบหน้า คือ…
เลเซอร์หน้า เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทางความงามที่ช่วยฟื้นฟูผิวหนังที่แห้งกร้าน ใบหน้าหมองคล้ำให้กลับมาสดใสดูมีชีวิตชีวา เปล่งปลั่งภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ถือเป็นทางลัดความงามที่กำลังได้รับความนิยมสูง ช่วยปรนนิบัติผิวให้ขาวกระจ่างใส จากการลดเลือนริ้วรอยจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัญหาผิวหน้าที่เราต้องเจอ
ปัญหาผิวหน้าเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และเป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากเจอเนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำให้เราขาดความมั่นใจได้เลยทีเดียว ซึ่งหากเราไม่ทำอะไรสักอย่าง ปัญหาผิวหน้าที่กำลังจะกล่าวดังต่อไปนี้ก็จะกลายเป็นปัญหาสะสมและกลายเป็นปัญหาใหญ่ รวมถึงรักษายากขึ้นไปในที่สุด ดังนั้น ทุกคนจึงควรทราบว่าปัญหาผิวหน้านั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง และต้องรักษาด้วยเลเซอร์วิธีใดจึงจะรักษาได้ตรงจุดมากที่สุดค่ะ
ปัญหาผิวหน้าที่เกิดจากสิว
สิวเกิดจากการผลิตฮอร์โมนเพศชาย (ระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน) ที่มากเกินไปในช่วงวัยรุ่น ,ความเครียด ที่มีระดับซีบัมในร่างกายสูงขึ้น ทำให้เกิดการผลิตน้ำมันที่ผิวหน้า อุดตันก่อให้เกิดสิว, อาการแพ้เครื่องสำอางบางชนิด, สภาพแวดล้อม แสงแดด อุณหภูมิ และ อาหาร, ล้างเมคอัพไม่เกลี้ยง สิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน
ปัญหาผิวหน้าที่เกิดจากความมัน
หน้ามันเกิดจากระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ ทำให้ไขมันในผิวหนังบนใบหน้าผลิตออกมามากเกินไป ,ทานอาหารทอด ,สภาพอากาศ ,เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมันมากไป ,การซับหน้าบ่อยเกินไปทำให้หน้าผลิตน้ำมันมากเกินไป
ปัญหาผิวหน้าที่เกิดจากริ้วรอย
ริ้วรอยเกิดจากการแสดงสีหน้าทางอารมณ์ เช่นการยิ้ม ขมวดคิ้ว หยีตา, แสงแดดที่มีรังสี UVA มาทำร้ายผิวหน้า, สูบบุหรี่ทำให้กล้ามเนื้อหดรั้งตัวเกิดริ้วรอยได้ง่าย, การขาดคอลลาเจนในผิวหนัง
ปัญหาผิวหน้าที่เกิดจากฝ้า
ฝ้าเกิดจาก รังสี UVB ในแสงแดด ทำร้ายชั้นผิวหนังทำให้เกิดรอยไหม้ดำ, ความผิดปกติของฮอร์โมนทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติ, การทำงานผิดปกติของตับเพราะขาด Vitamin B12
ปัญหาผิวหน้าที่เกิดจากรูขุมขนกว้าง
รูขุมขนกว้างเกิดจากลักษณะผิวที่มีผิวหน้ามันมาก โอกาสจะมีรูขุมขนกว้างมากขึ้น จะเกิดขึ้นเร็วกว่าคนผิวธรรมดา หรือผิวแห้ง, อายุที่มากขึ้นผิวจึงเสื่อมตามกาลเวลา, แสงแดดทำลายอีลาสตินและคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งคอลลาเจนที่เป็นตัวรักษาความกระชับก็ถูกทำลายไป ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น
จุดเด่นและประโยชน์ของเลเซอร์ที่ใช้ในการดูแลผิวพรรณ
เลเซอร์ที่นำมาใช้ในการรักษาผิวมีหลายรูปแบบ โดยชนิดของเลเซอร์ที่พบมักมีจุดเด่นและประโยชน์ในการรักษาผิวหน้า ดังนี้
จุดเด่น
ช่วยรักษาความผิดปกติของเส้นเลือดในรูปแบบต่าง ๆ โดยไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง ในขณะเดียวกันแสงเลเซอร์ยังผ่านไปยังผิวชั้นในเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ริ้วรอยลดลงได้อีกด้วย
แก้ปัญหาผิว
ปานแดงจากเส้นเลือด แก้ปัญหาเส้นเลือดฝอยขยาย ฝ้าเส้นเลือด แผลเป็นนูน หรือคีลอยด์ (Keloid) สิว สิวอักเสบ รอยแดงจากสิว และรอยสักสีแดง
5 วิธีเลเซอร์ผิวหน้ายอดฮิต มีอะไรบ้าง แต่ละแบบเหมาะกับใคร?
เลเซอร์ที่นำมาใช้รักษาผิวนั้นมีหลายรูปแบบ แต่ละแบบเหมาะกับการแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าคนไข้จะมีปัญหาผิวแบบใดก็ควรได้รับคำปรึกษาและคำแนะนำจากแพทย์ด้วย เพื่อการรักษาที่ถูกต้องและตรงจุดมากที่สุดนั่นเองค่ะ โดยวิธีการทำเลเซอร์ใบหน้ายอดนิยม มีทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน ประกอบด้วย
0 1 Ulthera
เป็นคลื่นเสียงที่มีความถี่สูง โดยเจาะจงไปยังบริเวณเนื้อเยื่อชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นที่แพทย์ทำการผ่าตัดสำหรับดึงใบหน้า โดยคลื่นเสียงนี้จะลงไปเป็นจุดเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ และทิ้งระยะห่างระหว่างจุดประมาณ 1 – 1.5 มิลลิเมตร ซึ่งแพทย์จะสามารถมองเห็นชั้นผิวหนังผ่านหน้าจอขณะทำการรักษาได้ทันที ทำให้เกิดความแม่นยำในการยกกระชับหน้าไปพร้อมกับการปรับคลื่นเสียงที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของแต่ละคน
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง?
Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่กระชับ, ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ และผู้ที่ต้องการลดคางสองชั้น เหนียง และแก้ปัญหาคอที่เหี่ยวย่น
ข้อดี
- การ Ulthera เป็นการใช้คลื่นพลังงานความร้อนที่ส่งตรงไปยังเนื้อเยื่อ จึงสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
- มีความปลอดภัยสูง
ข้อเสีย
- รู้สึกเจ็บผิวหน้าระหว่างทำ
- อาจมีรอยแดง รอยเขียว หรือเกิดอาการบวมขึ้นได้ในบางราย
- มีค่ารักษาที่ค่อนข้างแพง
วิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำ Ulthera
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดนาน ๆ
- ไม่สัมผัสผิวหน้าแรง ๆ เพราะในระยะแรกผิวอาจจะยังระบมอยู่
- หากมีอาการบวมแดงให้ใช้วิธีประคบเย็นหรือการนอนหมอนสูงจะช่วยบรรเทาได้
0 2 Thermage CPT
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง?
Thermage CPT เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว ยกกระชับผิว และลดเลือนริ้วรอย
ข้อดี
- เป็นวิธีการฟื้นฟูที่ปลอดภัย
- เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
ข้อเสีย
- อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองบ้างเนื่องจากใช้ความร้อนในการทำเลเซอร์
วิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำ Thermage
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดนาน ๆ
0 3 YAG Laser
เลเซอร์ผิวหน้าชนิดนี้ เป็น Q-switched ประเภทหนึ่งที่ปล่อยแสงอยู่ในความถี่ ขณะยิงเลเซอร์จะปล่อยพลังออกมาในช่วงสั้น ๆ แต่ให้กำลังแสงสูง แสงเลเซอร์ที่ปล่อยออกมาจะทำหน้าที่ดูดซับเมลานินในจุดที่เป็นปัญหา แล้วเซลล์เม็ดสีจะถูกทำลาย ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ส่งผลร้ายหรือทำลายเซลล์ผิวที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง?
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลบรอยไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เช่น รอยสิว ฝ้า กระ รวมถึงรอยสัก เป็นต้น
ข้อดี
- สามารถลบรอยยาก ๆ เช่น รอยสัก ได้
- เป็นวิธีที่รักษาได้ดีและปลอดภัย
ข้อเสีย
- ผู้ที่เข้ารับการเลเซอร์ชนิดนี้บ่อย ๆ อาจทำให้หน้าคล้ำขึ้น
- หากผู้ที่ให้บริการ YAG Laser ไม่มีความชำนาญมากพอ อาจทำให้ผู้เข้ารับบริการเกิดอันตรายได้
วิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำ Thermage
- ทาครีมบำรุงผิวทุกวันหรือเป็นประจำเท่าที่ทำได้
- หากต้องออกข้างนอก ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป
0 4 eMatrix
eMatrix เป็นพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ นิยมใช้ในการรักษาหลุมสิว รอยดำ/รอยแดงจากสิว รอยแผลเป็น นอกจากนี้ยังรักษารูขุมขนกว้าง แก้ปัญหาริ้วรอย และความหย่อนคล้อยอีกด้วย เลเซอร์ตัวนี้จะช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมผิว และสร้างเซลล์ผิวใหม่ ให้หลุมสิวตื้นขึ้น ให้ผิวเรียบเนียนกระชับ ไร้รูขุมขนอีกด้วยค่ะ
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง?
eMatrix เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยตื้น ริ้วรอยปานกลาง และมีปัญหาหลุมสิวลึก
ข้อดี
- เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- ใช้เวลาในการเลเซอร์ไม่นาน
ข้อเสีย
- ขณะยิงจะรู้สึกเจ็บ และหลังจากรักษาอาจมีอาการแดงและรู้สึกร้อนหน้านิด ๆ แต่หลังจากนั้น 2 – 3 ชั่วโมงอาการก็จะดีขึ้น
วิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำ eMatrix
- หลังจากที่ทำวันแรก ควรใช้เพียงน้ำเปล่าล้างหน้าไปก่อน เนื่องจากผิวหน้าจะยังมีความบอบบางมาก ๆ
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด ๆ
0 5 Hifu
Hifu เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงโดยส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ทำให้ผิวหนังในชั้น SMAS หดตัวคล้ายกับการเย็บที่เนื้อ เพื่อทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนหรือสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งเป็นการดึงหน้าที่ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง?
Hifu เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย หนังตาตก, ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยโดยไม่ต้องการผ่าตัด, ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย, ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ, ลดเหนียงใต้คาง และกระชับรูขุมขน โดยผู้ที่ทำต้องมีอายุระหว่าง 25 – 35 ปี
ข้อดี
- ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำ และไม่มีบาดแผลหลังทำเสร็จ
- มีราคาค่ารักษาที่ไม่แพงมาก
ข้อเสีย
- ขณะยิงจะรู้สึกเจ็บ และหลังจากรักษาอาจมีอาการแดงและรู้สึกร้อนหน้านิด ๆ แต่หลังจากนั้น 2 – 3 ชั่วโมงอาการก็จะดีขึ้น
วิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำ Hifu
- พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ๆ
- เมื่อต้องออกแดดให้ทาครีมกันแดดที่มี SPF สูง ๆ
- ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ
- ไม่สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง
- หากรู้สึกเมื่อยหน้าหรือตึงผิวสามารถทานยาแก้ปวดได้
อย่างไรก็ดี วิธี เลเซอร์ผิวหน้า ทั้ง 5 วิธีที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเลเซอร์ผิวพรรณเท่านั้น ยังมีอีกหลายวิธีที่ทุกคนควรสนใจ ควรศึกษาและเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการหาแนวทางการรักษาที่เหมาะกับสภาพผิวของคนไข้และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดนั่นเองค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ผลข้างเคียงจากฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง? ใครอยากฉีดก็ต้องรู้
อยากฉีดฟิลเลอร์ ต้องทำยังไง การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์
ยกกระชับหน้าด้วยฟิลเลอร์ สวยทันที ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
: 097 426-6956 หรือ 097 429-5645
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ