แม้ว่าเมโสแฟตจะช่วยปรับผิวหน้าให้ดูกระจ่างใส แถมยังช่วยสลายไขมัน ลดเหนียงใต้คอได้ดีก็ตาม แต่บางคนอาจเกิดอาการแพ้เมโสแฟตได้ด้วยเช่นกัน ว่าแต่ภาวะดังกล่าวเกิดจากอะไร มีวิธีดูแลรักษาและป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวคุณ วันนี้หมอโบจะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ
อาการแพ้เมโสแฟตคืออะไร
เป็นอาการแพ้ที่เกิดขึ้นหลังการฉีดเมโสแฟตไปแล้วประมาณ 3 – 5 วัน สำหรับอาการที่พบบ่อย ได้แก่ ผิวหนังบวมเป่ง ผิวหนังบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนสีไปจากเดิม มีรอยฟกซ้ำ บางรายอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณผิวหนังหรือเกิดโรคชั้นไขมันอักเสบ (Panniculitis) โดยทั่วไปแล้วคนไข้ที่ฉีดเมโสแฟตมักไม่มีอาการแพ้ใด ๆ เนื่องจากเมโสแฟตเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ แต่หากมีอาการเหล่านี้ปวดบวมบริเวณที่ฉีดนานกว่า 1 – 2 สัปดาห์ อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะแพ้เมโสแฟต ควรเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุดค่ะ
สาเหตุของอาการแพ้
- แพทย์มีประสบการณ์ฉีดเมโสแฟตน้อยเกินไป จึงฉีดไม่ตรงจุดหรือกะสัดส่วนของการฉีดไม่พอดีกับผิวของคนไข้
- ฉีดเมโสปลอมจากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือจากหมอกระเป๋า (หมอเถื่อน)
- คนไข้แพ้สารที่เป็นส่วนผสมในเมโสแฟต
ไม่อยากแพ้เมโสแฟตปลอม ต้องดูยังไง
- ดูจากราคาของเมโสแฟตว่าคลินิกชั้นนำจะคิดค่าบริการครั้งละเท่าไหร่ แล้วดูว่าราคาเฉลี่ยประมาณเท่าไหร่ หากต่ำกว่านั้นแนะนำให้ตัดออกจากช้อยส์เลยค่ะ
- ดูจากคลินิกที่ให้บริการ หากเป็นคลินิกไม่ค่อยมีชื่อ ไม่มีแหล่งที่มา หมอโบไม่แนะนำให้ฉีดกับคลินิกเหล่านั้นเด็ดขาดค่ะ เพราะหากเกิดปัญหาหลังการฉีดขึ้นมาอาจเสี่ยงต่อการตามตัวไม่ได้ค่ะ
ลดอาการปวดบวมหลังฉีดเมโสแฟตอย่างไรดี
โดยทั่วไปแล้วอาการปวดบวมจะเริ่มดีขึ้นหลังการฉีดประมาณ 3 วัน แต่หากคุณต้องการหาวิธีบรรเทาอาการปวดบวม หมอโบขอแนะนำให้ประคบเย็นประมาณ 2 วันหลังการฉีด เพราะการประคบเย็นจะช่วยบรรเทาอาการปวดบวม อาการฟกช้ำ และลดรอยเข็มได้ในเวลาเดียวกัน หากต้องการให้หายไวควรทานยาบรรเทาอาการบวมตามคำแนะนำของแพทย์ที่ทำการรักษาควบคู่กันไปด้วยนะคะ นอกจากนี้ขอแนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ เนื่องจากตัวยาจะออกฤทธิ์เข้าไปกระตุ้นให้ไขมันสลายตัวและถูกขับออกจากร่างกาย หากได้ตัวทำละลายอย่างน้ำเข้าสู่ร่างกายมากขึ้นก็จะช่วยให้ร่างกายขับไขมันออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะง่ายขึ้น และช่วยลดอาการปวดบวมได้เป็นอย่างดีค่ะ
ป้องกันอาการแพ้เมโสแฟตได้อย่างไรบ้าง
- เลือกฉีดเมโสแฟตกับคลินิกที่เชื่อถือได้ เพราะผู้ที่มีอาการแพ้หลายคนมักใช้บริการฉีดเมโสแฟตปลอมกับคลินิกเถื่อนหรือหมอกระเป๋าที่ใช้เมโสแฟตปลอมที่มีราคาถูกกว่าเมโสแฟตที่ผ่านการรับรองจาก อย. ซึ่งใช้กันตามคลินิกชั้นนำ
- ไม่ซื้อเมโสมาฉีดด้วยตัวเอง เพราะการฉีดเมโสที่ดีผู้ฉีดจะต้องเข้าใจในโครงสร้างของผิวหน้าและมีความรู้เกี่ยวกับการศัลยกรรมเป็นอย่างมาก หากฉีดผิดจุดอาจเสี่ยงต่อผลการรักษาไม่ดีและเกิดปัญหาสุขภาพตามมาอีกมาก
- หากพบความผิดปกติบริเวณที่ฉีดเมโสแฟตนานเกิน 1 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์ทันที
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกจากมือเข้าสู่กับแผลที่ฉีดและก่อให้เกิดการติดเชื้อ
- งดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลเวียนมากเกินไปและทำให้แผลหายช้า
- งดทำทรีทเม้นท์บริเวณที่ฉีด งดอบซาวน่าและทำเลเซอร์ร้อนเป็นเวลา 14 วันหลังการฉีด เพื่อป้องกันอาการบวมบริเวณที่ฉีด
ฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

บทความที่น่าสนใจ
- เมโสหน้าใสคืออะไร ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงถูกใจวิธีนี้
- อยากหน้าใสต้องฉีดอะไร ฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือ ทำเมโสดีกว่ากัน
- อันตรายจากการซื้อฉีดเมโสเอง ร้ายแรงกว่าที่คุณคิด