หนึ่งในเทรนด์ทรงปากที่มาแรงคงจะหนีไม่พ้นปากทรงกระจับแน่นอน นอกจากจะช่วยเสริมริมฝีปากให้ดูสวยเอิบอิ่มแล้ว ยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้สาว ๆ สายมูเตลูทวีความปังยิ่งขึ้นด้วยค่ะ ว่าแต่ปากทรงนี้ดีอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง เสริมปากอย่างไรถึงจะดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงควรดูแลตัวเองอย่างไรหลังทำปากบ้าง มาอ่านไปพร้อมกันเลยค่ะ
ปากทรงกระจับคืออะไร
ปากกระจับ (Cherry Kysse) เป็นรูปทรงปากที่มีเนื้อริมฝีปากบนที่โค้งลงคล้ายตัวอักษรเอ็ม ส่วนริมฝีปากล่างจะเน้นรูปทรงดูเอิบอิ่มและรับเข้ากับริมฝีปากบนได้เป็นอย่างดี มุมปากยกขึ้นเข้ารูป รูปทรงโดยรวมของปากคล้ายกับผลกระจับ ปากทรงนี้ถือว่าเหมาะสำหรับสาวเอเชียอย่างเรามาก ๆ เลยค่ะ เพราะทำออกมาแล้วจะช่วยให้ใบหน้าดูหวานขึ้น เนื่องจากริมฝีปากของคนเอเชียส่วนใหญ่จะหนาหรือห้อยมากเกินไป
วิธีทำปากกระจับ
1.ฉีดฟิลเลอร์
โดยหมอจะฉีดสารเติมเต็มประเภท HA (Hyaluronic acid) ไปยังบริเวณริมฝีปากเพื่อตกแต่งริมฝีปากให้ดูเป็นกระจับ การฉีดฟิลเลอร์ปากส่วนใหญ่จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์เพียง 1 – 2 cc ตามการประเมินโดยคุณหมอที่ฉีดฟิลเลอร์โดยตรง เนื่องจากปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นคุณหมอจึงต้องประเมินให้ดี เพราะหากฉีดเยอะเกินไปหรือฉีดไม่เหมาะกับตำแหน่งก็อาจเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ การฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยแก้ไขรูปปากเดิมที่บาง ทรงไม่สวย ปากดำคล้ำ หรือแห้งเป็นร่อง ให้ดูอวบอิ่ม กลายเป็นปากสีชมพูใส ลิปไม่ตกร่อง ไม่ดูแห้งเป็นขุยด้วยนะคะ ในส่วนของความปลอดภัยนั้น คนไข้ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เนื่องจากสาร HA เป็นสารเติมเต็มที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติภายใน 1 – 2 ปี แถมยังไม่ทิ้งรอยแผลเหมือนกับการผ่าตัดอีกด้วยค่ะ
2.ผ่าตัด
ก่อนผ่าตัดคุณหมอจะประเมินจากรูปปากเดิม เพื่อวางแผนการรักษาโดยการผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อปากด้านในออกมา ขั้นตอนแรกคุณหมอจะฉีดยาชาในช่องปาก (คล้าย ๆ กับการทำฟัน) รอจนกว่ายาชาจะออกฤทธิ์เต็มที่ และเพิ่มยาชาบริเวณริมฝีปากโดยตรง จากนั้นจึงตัดแต่งรูปทรงตามแผนการรักษา จากนั้นจึงเย็บปิดแผลและซ่อนแผล โดยทั่วไปใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที วิธีผ่าตัดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากหนามาก ปากเหี่ยวย่น ปากมีร่อง หรือปากล่างห้อยมากเกินไป และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทรงปากกระจับถาวร ทั้งนี้หากคุณหมอไม่ชำนาญมากพอ อาจตัดพลาดจนแก้ไขยากในภายหลังได้
ปากทรงกระจับช่วยเสริมโหงวเฮ้งด้านไหนบ้าง
สำหรับปากทรงนี้ถือเป็นปากที่มีโหงวเฮ้งดี เชื่อกันว่าเป็นเป็นริมฝีปากเสริมเสน่ห์ต่อผู้พบเห็น ส่งผลให้การเจรจารสื่อสารเป็นไปในทางที่ดี ผู้คนชื่นชอบในน้ำคำ ดึงดูดทรัพย์ เสริมสร้างสติปัญญา มีบุตรบริวารดี กตัญญูรู้คุณ นอกจากนี้ยิ่งถ้าคุณมีริมฝีปากอมชมพูระเรื่อ ชุ่มชื้นตลอดเวลาด้วยแล้วล่ะก็ จะยิ่งเสริมโหงวเฮ้งของคุณมากยิ่งขึ้นด้วยนะคะ
ริมฝีปากแบบไหนบ้างที่เหมาะกับการทำปากทรงกระจับ
- ริมฝีปากบาง แม้ว่าผู้ที่มีริมฝีปากบางจะสามารถทำปากกระจับได้ แต่ไม่ควรตัดเนื้อริมฝีปากออกมากไป เพราะอาจทำให้ริมฝีปากปิดไม่สนิท
- ริมฝีปากหนา การผ่าตัดจะช่วยให้เนื้อปากและริมฝีปากเล็กลง เป็นทรงกระจับมากขึ้น ส่วนผู้ที่มีริมฝีปากล่างหนาก็สามารถทำเพื่อให้ริมฝีปากล่างเล็กลง ดูรับกับปากบน และแก้ปัญหาริมฝีปากห้อยได้อีกด้วย
- ริมฝีปากคว่ำ เหมาะสำหรับทำปากกระจับควบคู่กับการยกมุมปาก ช่วยให้ใบหน้าดูหวานขึ้น แก้ปัญหาหน้าบึ้งตึงได้ดี
- ริมฝีปากไม่เท่ากัน อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุหรือผ่านการผ่าตัดมาก่อน ก็ทำศัลยกรรมเพื่อแก้ไขได้ ทั้งนี้ต้องให้คุณหมอประเมินเบื้องต้นก่อนนะคะ
ข้อดี ข้อเสียของปากกระจับ
- ช่วยแก้ไขรูปทรงของปากให้ดีขึ้น เพิ่มความมั่นใจเวลาแสดงออกทางสีหน้า
- ไม่มีแผลผ่าตัดเนื่องจากเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก จึงไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตต่อได้ตามปกติ
- กรณีที่คุณอยู่ในช่วงจัดฟัน แนะนำให้ระมัดระวังการทำปากเป็นพิเศษ เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันอาจเกี่ยวริมฝีปากจนเกิดแผล
- ปากบวมหลังการรักษา โดยทั่วไปอาการบวมจะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ หากไม่ดีขึ้นควรปรึกษาหมอโดยด่วนค่ะ
- ปากคลายตัวหลังการรักษา ทางที่ดีในช่วง 3 เดือนเเรกเราขอแนะนำให้นวดปากเพื่อป้องกันโอกาสปากคลายตัวค่ะ
วิธีดูแลปากกระจับหลังฉีดฟิลเลอร์
- ดื่มน้ำวันละ 2 – 3 ลิตร (อย่างน้อย 8 แก้ว) เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ฟิลเลอร์อิ่มน้ำและเซตตัวเร็วขึ้น
- งดสัมผัสริมฝีปาก โดยเฉพาะบริเวณรอยเข็ม เพราะอาจจะทำให้อักเสบติดเชื้อ
- งดเลียริมฝีปาก เพราะจะทำให้ริมฝีปากแห้ง
- งดดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 3 วัน
- งดออกกำลังกายอย่างหนัก หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะ อย่างน้อย 3 วัน
- หลีกเลี่ยงการทานของร้อนจัดและรสจัด อย่างน้อย 3 วัน ป้องกันปากเสียรูปทรง
ทำไมต้องทำอัลเทอร่ากับหมอโบที่ De Beau Clinic
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
บทความที่น่าสนใจ
ทำอัลเทอร่า Ulthera หน้าบวม ถือเป็นอาการผิดปกติหรือไม่?
Ulthera นวัตกรรมแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อน ช่วยผ่อนเหนียง
Ulthera กับ Thermage ต่างกันยังไง แบบไหนเหมาะกับเรา?