ฉีดแก้ม สลายไขมัน เพื่อ สลายไขมันส่วนเกิน ถือเป็นวิธีปรับโครงหน้าอีกแบบหนึ่งที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมากทีเดียวค่ะ เนื่องจากคนไข้ในหลาย ๆ เคสนั้นมักมีปัญหาโครงหน้าที่แตกต่างกันออกไป เช่น หน้าบาน แก้มใหญ่ มีเหนียง เป็นต้น ซึ่งการฉีดแก้มเพื่อสลายไขมันเช่นนี้เป็นหัตถการที่ถือว่าทำได้ง่าย ปลอดภัย และเห็นผลเร็ว จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมวิธีนี้จึงได้รับความนิยมกับคนไข้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาโครงหน้านั่นเองค่ะ
ฉีดแก้ม สลายไขมัน คืออะไร อันตรายหรือไม่ ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?
จริง ๆ แล้ว เมโสแฟตเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดสัดส่วนต่าง ๆ บนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ทำหน้าเรียว ฉีดลดแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก ไขมันในบางจุดที่ถึงแม้จะออกกำลังกาย คุมอาหารแล้วก็ยังลดยาก ลดไม่ค่อยลง ซึ่งเราสามารถใช้เมโสแฟตเป็นตัวช่วยเร่งลดสัดส่วนให้ไวขึ้นได้ หรือในบางคนที่ออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬา หรือยกน้ำหนัก อาจจะมีกล้ามเนื้อบางจุดที่ใหญ่ขึ้นแล้วไม่สวยเราไม่ชอบ ก็สามารถใช้โบท็อกช่วยลดได้ค่ะ
การฉีดเมโสแฟต คืออะไร
การฉีดเมโสแฟต คือการฉีดตัวยาชนิดหนึ่ง โดยฉีดเข้าภายในชั้นผิวหนัง ส่วนใหญ่ นิยมฉีดบริเวณใบหน้า ตรงแก้ม เหนียง มีคุณสมบัติช่วยสลายไขมัน โดยเมื่อฉีดเข้าไปแล้ว จะสลายไขมันโดยธรรมชาติ
เมโสแฟต ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง
การฉีดเมโสแฟต ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาไขมันใบหน้าเยอะ เช่นบริเวณแก้ม กรอบหน้า รวมไปถึงเหนียง ปรับสัดส่วนใบหน้าให้ดูดีขึ้นโดยวิธีการฉีด สลายไขมันโดยการขับออกมาเป็นของเหลว ทางเหงื่อ ปัสสาวะ เป็นต้น ไม่ต้องผ่าตัดหรือต้องพักฟื้น สวยได้ในเวลาอันรวดเร็ว เห็นผลชัดเจน หากฉีดสม่ำเสมอ
ฉีดสลายไขมัน สามารถฉีดเพื่อลดตำแหน่งใดได้บ้าง?
- ลดแก้ม ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น ลดไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า
- ลดเหนียง ลดคางสองชั้น สามารถทำโบท็อกลิฟหน้าร่วมด้วย จะทำให้ไขมันบริเวณเหนียงลดลง และกล้ามเนื้อกระชับมากขึ้น
- ลดต้นแขน ต้นขา ถ้าไขมันมีปริมาณมากแนะนำให้ดูดไขมัน หรือออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก
- ลดหน้าท้อง ลดพุง ลดสะโพก ถ้าไขมันมีปริมาณมากแนะนำให้ดูดไขมัน หรือออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก
- ลดไขมันข้างรักแร้
- ลดไขมันหลัง
ข้อดี VS ข้อเสีย ของการฉีด “เมโสแฟต”
สำหรับการฉีดสลายไขมันเช่นนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ค่ะ
ข้อดี
ของการฉีด Meso fat คือ ช่วยขจัดไขมันส่วนเกิน ทั้งบริเวณใบหน้าและอวัยวะอื่น ๆ ให้ได้สัดส่วนที่ต้องการอย่างรวดเร็ว เหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัดและไม่มีเวลาพักฟื้น
ข้อเสีย
ของการฉีด Meso fat คือ ไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเหมือนการดูดไขมันครับ ต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ของตัวยาที่ฉีดเข้าไป
เมโสแฟต กับฉีดโบท็อกซ์ ต่างกันอย่างไร
ต้องบอกเลยว่า บางทีคนไข้ ๆ อาจจะสับสนว่า ควรฉีดอะไร กับปัญหาที่เป็นอยู่ หรือทั้งสองอย่างนี้ ต่างกันยังไง ต้องบอกเลยว่า การทำงาน ของเมโสแฟต และโบท็อกซ์ นั้นต่างกัน สำหรับสาว ๆ ที่มีแก้มเยอะ เหนียงเยอะ ไขมันบริเวณหน้าเยอะ จะเป็นการฉีดเมโสแฟต เพื่อสลายไขมัน ใบหน้า เพื่อให้ใบหน้าเรียวเล็กลงได้
ส่วนการทำงานของโบท็อกซ์นั้น โบท็อกซ์ คือ Botulinum Toxin มีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ชั่วคราว นิยมฉีดกราม และส่วนของริ้วรอย บริเวณหน้าผาก หางตา เป็นต้น ดังนั้น การฉีดเมโสแฟต และการฉีดโบท็อกซ์ ต่างกัน แต่สามารถฉีดพร้อมกันได้ เพราะคนละบริเวณ
อาการหลังฉีดเมโสแฟต
หลังฉีดเมโสแฟตสลายไขมันจะมีอาการบวมจากปริมาณตัวยาที่ฉีดเข้าไป ซึ่งตัวยาจะซึมยุบไปเองประมาณ 3-4 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลไปนะคะ คนไข้จะไม่มีอาการปวด หรือ อักเสบ แต่อาจจะมีอาการบวมเข็มได้เล็กน้อยเป็นปกติค่ะ
ข้อปฏิบัติและข้อห้ามหลังฉีดเมโสแฟตแก้ม/เหนียง
- หลังทำแฟตแก้มไม่ควรกดหรือนวดในบริเวณที่ฉีด ตัวยาจะค่อย ๆซึมยุบไปเอง
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร การดื่มน้ำจะช่วยให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
- เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาอีก
- หลังทำแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน่า นวดหน้า หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลังจากทำแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
อย่างไรก็ดี การ ฉีดแก้ม สลายไขมัน แม้จะดูไม่มีอันตรายหรือผลข้างเคียงที่มากนัก แต่คนไข้นั้นก็ยังจำเป็นที่จะต้องพิจารณาในการเลือกทีมแพทย์และคลินิกเพื่อให้แน่ใจว่าจะปลอดภัยอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ควรเข้ารับคำปรึกษาและคำแนะนำจากแพทย์ว่าคนไข้นั้นเหมาะกับวิธีนี้หรือไม่ หากไม่ คนไข้จะสามารถใช้วิธีใดแก้ปัญหาได้บ้าง จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมขั้นตอนการ Consult จึงมีความสำคัญต่อตัวคนไข้ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ผลข้างเคียงจากฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง? ใครอยากฉีดก็ต้องรู้
อยากฉีดฟิลเลอร์ ต้องทำยังไง การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์
ยกกระชับหน้าด้วยฟิลเลอร์ สวยทันที ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ