หมอโบเชื่อว่า สาว ๆ อย่างเราแทบจะทุกคนล้วนอยากมีหุ่นสวย สุขภาพดี กันอยู่แล้วใช่มั้ยคะ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เทรนด์ดูแลสุขภาพกำลังมาแรง ส่งผลให้ใคร ๆ หลายคนหันมาดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น แต่หากใครที่อยากหุ่นดีแต่อาจไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองจนมีพุงย้วยมากวนใจ วันนี้หมอโบได้รวมวิธีสลายไขมันหน้าท้องที่สาว ๆ ทุกคนต้องลองทำตามดูมาฝากกันค่ะ ว่าแต่มีวิธีไหนน่าสนใจและเห็นผลไวบ้าง มาอ่านกันค่ะ
ไขมันหน้าท้องเกิดจากอะไร
ไขมันหน้าท้อง หรือพุงย้วย เป็นภาวะที่ร่างกายสะสมไขมันไว้บริเวณหน้าท้องซึ่งเกิดจากร่างกายไม่สามารถเผาเผลาญออกได้หมด ส่งผลให้ไขมันเกาะตัวตามกล้ามเนื้อท้องและอวัยวะต่าง ๆ ที่อยู่ภายในช่องท้อง จนเกิดเป็นพุงกลม หากปล่อยไว้นานอาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้ เนื่องจากไขมันเหล่านี้จะอุดตันและขัดขวางทางเดินเลือดที่ส่งไปยังเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกายจนก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดพุงมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
- การรับประทานอาหารที่มีผลทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ทำให้เกิดพุงง่ายในปริมาณที่มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นไขมัน, คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
- ละเลยการออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้ไขมันในร่างกายไม่ได้ถูกกำจัดออกเท่าที่ควร
- นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ หากคุณนอนหลับน้อยกว่าปริมาณชั่วโมงที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน (ประมาณ 7-8 ชม./วัน) อาจทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่ดี ส่งผลให้อ้วนง่าย
- ภาวะความเครียด ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดไปรบกวนการทำงานของระบบเผาผลาญจนไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ จึงทำให้ร่างกายต้องการอาหารมากกว่าปกติ โดยเฉลี่ยแล้วสำหรับผู้ชายควรได้รับพลังงานประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี่/วัน และผู้หญิงควรได้รับพลังงานประมาณ 1,600 กิโลแคลอรี่/วัน
- กรรมพันธุ์ หากคุณได้รับยีน (Gene) เก็บสะสมไขมันง่ายมาจากคนในครอบครัว จึงมีโอกาสที่คุณจะมีโอกาสมีพุงย้วยง่ายขึ้น
- ฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ มักเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นหรือผู้หญิงที่มีภาวะวัยทองก่อนวัยอันควร ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลง
- ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือ PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) ส่งผลให้ผู้หญิงมีฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน (Testosterone) ฮอร์โมนเพศชายในปริมาณสูง ส่งผลให้อ้วนลงพุงง่าย
สลายไขมันหน้าท้องด้วยวิธีไหนได้บ้าง
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอย่างเหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นอาหารชนิดไหนก็ตาม ถ้าเรารับประทานมากเกินไปย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน ทางที่ดีหมอโบขอแนะนำให้ทานเลือกอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นไปที่สารอาหารจำพวกไฟเบอร์ ช่วยเพิ่มประสิทธภาพของระบบขับถ่าย, ไขมันดี ช่วยกำจัดไขมันเลวซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอ้วน, วิตามิน C ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญ, กรดอะซิติก กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน, สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยจัดการอนุมูลอิสระภายในร่างกาย และที่สำคัญอย่าลืมงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, งดทานอาหารจุกจิกระหว่างมื้อ, งดทานอาหารก่อนนอนอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้กระเพาะอาหารได้พักผ่อนและฟื้นหูประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่
2. ออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย
สำหรับการออกกำลังกายที่ช่วยลดไขมันได้ดี จะเน้นไปที่การทำคาร์ดิโอ (Cardio Exercise) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบหัวใจและปอด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากใช้ออกซิเจนในการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลส่วนเกินในร่างกาย สำหรับคาร์ดิโอที่หมอโบแนะนำจะเป็นการเดินเร็ว, ว่ายน้ำ, เต้นแอโรบิก, กระโดดเชือก ฯลฯ ควรออกอย่างน้อย 30 นาที/วัน ทั้งนี้ไม่ควรออกก่อนนอนอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันร่างกายไม่มีเกิดการเผาผลาญพลังงานและหลั่งฮอร์โมนสำหรับกระตุ้นประสาท อันเป็นสาเหตุของอาการนอนไม่หลับด้วยค่ะ
3. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการนอนหลับยาก
เพราะการนอนเป็นกระบวนการฟื้นฟูร่างกายตามธรรมชาติ หากคุณนอนพักผ่อนนอน ทั้งนอนไม่ตรงตามช่วงเวลาหรือนอนได้ชั่วโมงที่น้อยกว่าช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการ (วันละ 7 – 9 ชั่วโมง) หากร่างกายพักผ่อนน้อยเกินไป ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากจะระบบย่อยอาหารทำงานหนักจนกลายเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังแล้ว ยังส่งผลให้เครียดง่ายและทำงานร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลไปรบกวนระบบย่อยอาหารอีกด้วยค่ะ
ทำไมต้องสลายไขมันหน้าท้องด้วย MESOTHERAPY
เมโสเทอราปี (Mesotherapy) เป็นการฉีดตัวยสารสำคัญสำหรับบำรุงผิวเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อสลายไขมันส่วนเกินทั้งบริเวณเหนียง หน้าท้อง ต้นแขนและต้นขา ซึ่งเป็นส่วนที่พบไขมันได้ง่ายและบ่อยที่สุด และเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับผลการรักษาจะเห็นผลไวกว่าการออกกำลังกายลดน้ำหนักประมาณ 2-3 เท่า แต่คนไข้จะต้องเข้ารับการรักษาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละคน) โดยจะเริ่มเห็นผลหลังการรักษาในช่วงเข้ารับบริการครั้งที่ 3 ขึ้นไป ส่วนเข็มที่ใช้จะมีขนาดเล็กกว่าก้านดอกเข็ม ประมาณ 27-30 G จึงไม่ก่อให้เกิดอาการบวมช้ำ ทั้งนี้ต้องอยู่ที่การฉีดของคุณหมอแต่ละคนด้วยนะคะ หากเลือกคุณหมอที่ไม่ได้อยู่ในคลินิกหรือสถานพยาบาลชั้นนำ อาจเสี่ยงเจอหมอกระเป๋าหรือผู้ที่ไม่ได้มีความชำนาญในการฉีดเมโสโดยตรง หากพลาดขึ้นมาอาจเกิดปัญหาผิวระยะยาวได้ด้วยค่ะ
(อ่านเพิ่มเติม คลิก: หน้าโทรม ผิวแห้งกร้าน แก้ได้ง่าย ๆ ด้วยเทคนิค Mesotherapy)
สลายไขมันหน้าท้อง ที่ไหนดี
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
บทความที่น่าสนใจ
- อยากหน้าใสต้องฉีดอะไร ฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือ ทำเมโสดีกว่ากัน
- เคล็ดลับเพิ่มความฉ่ำให้ผิว สยบผิวแห้งกร้าน ให้เนียนชุ่มชื้น
- อันตรายจากการซื้อฉีดเมโสเอง ร้ายแรงกว่าที่คุณคิด