ระวัง!! ปัญหาหลังเสริมคางจากการดูแลคางอย่างไม่ระมัดระวัง

ปัญหาหลังเสริมคางสามารถเกิดขึ้นได้จาก 3 ปัจจัยสำคัญที่นอกจากจะทำให้ใบหน้าดูผิดจากธรรมชาติแล้วอาจก่อให้เกิดปัญหาใบหน้าตามมาในระยะยาวได้อีกด้วย วันนี้หมอโบจะมาพูดถึงวิธีการดูแลที่ถูกต้องเพื่อให้ใบหน้าของคุณคงความสวย ดูเป็นธรรมชาติไปอีกนานค่ะ

ปัญหาหลังเสริมคาง

ปัญหาหลังเสริมคางเกิดจากอะไร

ปัญหาหลังเสริมคางจากที่หมอโบพบ มักเกิดขึ้นจาก 3 สาเหตุสำคัญ ได้แก่ การเสริมคางด้วยซิลิโคนปลอม, แพทย์ผู้ฉีดไม่เชี่ยวชาญมากพอ และการดูแลคางอย่างไม่ระมัดระวัง

1. ซิลิโคนปลอม

ซิลิโคน

ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติเติมเต็มส่วนที่หายตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย สามารถแก้ปัญหาได้หลากหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาร่องใต้ตาลึก, ขอบตาดำคล้ำ, แก้มตอบ, ขมับตอบ, คางสั้น, ร่องแก้มลึก ฯลฯ โดยฟิลเลอร์แท้ที่ใช้กันในคลินิกที่ได้มาตรฐานจะต้องเป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ทำมาจากสารที่ร่างกายไม่สามารถสลายได้เองและไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย แต่ในปัจจุบันมีคลินิกและหมอกระเป๋าจำนวนมากหันมาใช้ฟิลเลอร์ปลอมกันมากขึ้น แม้ฟิลเลอร์ปลอมจะช่วยเติมเต็มและเพิ่มความสวยได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีอันตรายสูงมาก เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมเป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ จึงเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นผิวบริเวณที่ฉีดผิดรูปไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ซิลิโคนทะลุ หากรุนแรงอาจถึงขั้นติดเชื้อได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ฟิลเลอร์ปลอมนั้นยังมีส่วนผสมของพาราฟิน (Paraffin), ไบโอพลาสติก (Bioplastic), โพลีอะคริลาไมด์ (Polyacrylamide) และไขมันเทียม 

วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ VS ฟิลเลอร์ปลอม วิธีสังเกตแบบเคลียร์ชัดว่าต่างกันอย่างไร

2. แพทย์ผู้ฉีดไม่เชี่ยวชาญมากพอ

การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นจุดที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากและอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นอย่างมากนะคะ เนื่องจากตำแหน่งคางจะมีกล้ามเนื้อมัด Mentalis ที่ทำหน้าที่ยกผิวหนังบริเวณคางและยื่นริมฝีปากล่าง หากแพทย์ไม่เชี่ยวชาญและไม่มีประสบการณ์มากพอ ฉีดไม่ถูกตำแหน่ง หรือฉีดลึกไม่พอ อาจทำให้กล้ามเนื้อมัดดังกล่าวดึงฟิลเลอร์มารวมกัน กลายเป็นก้อนแข็ง ส่งผลให้เวลายิ้มแล้วดูไม่สวยงาม คางดูผิดรูปจากเดิม โดยเฉพาะหมอกระเป๋าที่ไม่ใช่หมอที่จบมาเฉพาะทางด้านความงามโดยตรง แต่เป็นเพียงผู้ช่วยตามคลินิกเสริมความสวยทั่วไปหรือเป็นแพทย์ที่จบศาสตร์อื่นมา แต่รับฉีดฟิลเลอร์โดยอาศัยการจับจุดโครงหน้าของคนไข้เป็นเพียงอย่างเดียว แต่ไม่มีความรู้ใด ๆ เกี่ยวกับการใช้ฟิลเลอร์ฉีดแก้ปัญหาใบหน้าแม้แต่น้อย นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาจากฟิลเลอร์แล้ว ยังตามตัวมารับผิดชอบยากด้วย

6 อันตรายจาก หมอกระเป๋า เตือนภัยสวยไวราคาถูก หมอปลอมทำหน้าพัง

3. ดูแลคางอย่างไม่ระมัดระวัง

หากคุณเผลอหรือละเลยการดูแลคางหลังจากเสริมคางมาแล้ว และคิดว่าปัญหาต่าง ๆ จะหายไปเองตามธรรมชาติ หมอโบขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่ายากค่ะ เนื่องจากการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดจะช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และยังคงทำกิจวัตรเหล่านี้หลังจากเสริมคาง ก็อาจเกิดปัญหาหลังเสริมคางตามมาอย่างเช่นหน้าบวมจากการดื่มการสูบที่ทำให้เลือดสูบฉีดบริเวณใบหน้ามากเกินไป, การนอนคว่ำหน้าจนแผลที่คางถูกกดทับ มีเลือดคั่ง, รับประทานอาหารที่เหนียวหรือแข็งเกินไป ทำให้คางถูกใช้งานหนัก แผลจึงสมานตัวยากขึ้น เป็นต้น

ปัญหาหลังเสริมคางมีอะไรบ้าง

หากร่างกายได้รับฟิลเลอร์ปลอมเข้าไป อาจทำให้เกิดอาการแพ้ เป็นผื่นแดง รู้สึกคันบริเวณที่ฉีด บวมแดง มีรอยช้ำ บางรายอาจพบรอยเข็มที่ฉีด ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดใต้ผิวฉีกขาดอีกด้วย และอีกหนึ่งปัญหาที่หมอโบเจอบ่อยก็คือผิวบริเวณที่ฉีดขรุขระคล้ายเม็ดแข็ง ๆ ขนาดเล็กอยู่ด้านใน บางรายอาจพบฟิลเลอร์ไหลย้อน หรือเปลี่ยนตำแหน่งจากบริเวณที่ฉีด ยกตัวอย่างเช่น ฉีดใต้ตาแต่ไหลไปบริเวณจมูกหรือแก้ม นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากความไม่ชำนาญของแพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์ บางรายอาจร้ายแรงถึงขั้นเส้นเลือดบริเวณหลอดเลือดดำอุดตัน จนผิวบริเวณนั้นแดงหรือคล้ำดำไปจากเดิมและกลายเป็นหนองอักเสบ รวมถึงฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดส่วนต่าง ๆ แต่ที่น่ากลัวคือฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดที่ปลายประสาทตา ส่งผลให้ตาบอดได้ในที่สุด หรืออาจเกิดเนื้อเยื่อตายบริเวณใกล้เคียงที่ขาดเลือดไปเลี้ยง

แล้วควรดูแลตัวเองหลังเสริมคางอย่างไรดี

  • ประคบเย็นให้ทั่วทั้ง 4 จุดบนใบหน้า ได้แก่ คางด้านซ้ายและขวา คางด้านบนและล่าง ตำแหน่งละ 20 – 30 วินาที เป็นเวลา 48 – 72 ชั่วโมง จากนั้นประคบอุ่นบริเวณเดิม โดยทั่วไปอาการปวดบวมจะบรรเทาลงภายใน 2 สัปดาห์
  • ทำความสะอาดช่องปากด้วยการใช้น้ำสะอาดหรือน้ำเกลือบ้วนปากทุก ๆ 2 – 3 ชั่วโมง และบ้วนทุกครั้งหลังมื้ออาหาร
  • ขณะนอนหลับควรหนุนหมอนสูงและนอนหงายเพื่อบรรเทาอาการเลือดคั่งอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • งดกิจกรรมเสี่ยงที่ทำให้แผลได้รับการกระทบกระเทือน
  • งดรับประทานอาหารรสจัด ของหมักดอง ของดิบ และอาหารเหนียวหรือแข็งเกินไป
  • ดื่มน้ำปริมาณมาก หรือดื่มให้ตรงตามความต้องการของร่างกาย ทั้งนี้แนะนำให้ใช้หลอดดูดเพื่อลดการขยับคางให้มากที่สุด
  • งดกิจกรรมที่ทำให้ต้องขยับปากบ่อย ๆ เช่น พูดหรือแสดงสีหน้าตามอารมณ์
  • งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้เลือดสูบฉีดบริเวณใบหน้ามากเกินไปจนหน้าบวม

บทความที่น่าสนใจ

พาไปรู้จักการฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยให้คางเรียวได้จริงหรือไม่?

เหนียงยาน คางสองชั้น อยากยกกระชับเหนียงต้องทำไง

ฉีดฟิลเลอร์เสริมคาง หน้าเรียวอย่างปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด-พักฟื้น

ทำไมต้องเสริมคางกับหมอโบที่ De Beau Clinic

ฉีดฟิลเลอร์ หมอโบ เดอโบคลินิก (De Beau Clinic) ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์แท้

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”

สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ

นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

Line : @debeauclinic
☎️ : 097 426-6956 หรือ 097 429-5645