หากคุณประสบปัญหาเสริมคางแล้วเป็นก้อน จนทำให้สูญเสียความมั่นใจบนใบหน้า ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ แล้วจะเป็นอันตรายต่อร่างกายในระยะยาวหรือไม่ มีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดภาวะดังกล่าวได้อย่างไร วันนี้หมอโบจะมาพูดถึงปัญหาดังกล่าว พร้อมวิธีรักษากันค่ะ
รวมปัญหาจากการเสริมคางแล้วเป็นก้อน
1. เป็นก้อน
ฟิลเลอร์จับตัวนับเป็นปัญหาที่หมอโบพบบ่อยที่สุดเลยล่ะค่ะ ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นได้จาก 3 สาเหตุหลัก ได้แก่
- เทคนิคและความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่น้อยเกินไป หากแพทย์ที่ฉีดมีประสบการณ์และมีความรู้เกี่ยวกับสรีระบนใบหน้าไม่เพียงพอ ดันไปฉีดให้คนไข้ผิดตำแหน่ง หรือคำนวณปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าชั้นผิวมากเกินไป อาจทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้ง่าย
- เลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด เช่น เลือกฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่มาฉีดบริเวณรอยเล็ก เมื่อคนไข้ขยับใบหน้าจะเห็นฟิลเลอร์นูนออกมาด้วย
- ฟิลเลอร์ปลอม หากฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นของปลอมที่ทำมาจากซิลิโคนเหลวที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ อีกทั้งไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยและไม่ได้รับการรับรองจาก อย.ไทย รับรองว่าปล่อยไว้นาน ๆ จะพบกับปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนแน่นอนค่ะ
2. ฟิลเลอร์ไหล
เกิดจากการเลือกฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด ทำให้ฟิลเลอร์ไหลลงมาบริเวณข้าง ๆ จนเห็นได้ชัด
3. ติดเชื้อ
เกิดจากการติดเชื้อหลังจากฉีดฟิลเลอร์และก่อให้เกิดการอักเสบ ฟิลเลอร์จึงเป็นก้อนนูน มีลักษณะเป็นสีแดง ส่งผลให้คนไข้รู้สึกปวดบวม ร้อน ๆ มีตุ่มขึ้นมา หรือมีก้อนหนองบริเวณที่ฉีด หากพบอาการที่กล่าวมาข้างต้น แนะนำให้รีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
4. หลอดเลือดอุดตัน
เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง เช่น ฉีดเข้าไปโดนบริเวณหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดอุดตันจนเนื้อบริเวณนั้นตาย เนื่องจากไม่มีเลือดมาเลี้ยง
5. ตาบอด
เกิดจากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันหลอดเลือดแดง (Supratrochlear and supraorbital artery) ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่ส่งตรงสู่ประสาทตา (Ophthalmic artery) ส่งผลให้เลือดไม่ไปเลี้ยงดวงตา จนตาบอดในที่สุด
วิธีแก้เสริมคางแล้วเป็นก้อน ต้องทำยังไง
ในกรณีที่เป็นฟิลเลอร์ปลอมซึ่งเป็นสารที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ สามารถแก้ปัญหาฟิลเลอร์เกาะเป็นก้อนได้ด้วยวิธีการรักษาทั้ง 2 แบบ ได้แก่
1. ฉีดสลายฟิลเลอร์
โดยแพทย์จะใช้สารเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) เป็นสารเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์สลายก้อนเนื้อที่ผิดปกติในร่างกาย ทั้งนี้แพทย์จะต้องคำนวณปริมาณยาที่จะฉีดด้วยว่าควรใช้กี่ CC เพื่อให้ได้ปริมาณยาที่เหมาะสม เมื่อฉีดเข้าไปแล้วฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ออกฤทธิ์ ทำให้ผิวที่เป็นก้อนค่อย ๆ ยุบตัวลงจนเรียบเนียน วิธีนี้เหมาะสำหรับฟิลเลอร์แท้เท่านั้น โดยทั่วไปจะเห็นผลหลังจากฉีดสลายภายใน 2 – 3 วัน และยุบลงถาวรภายใน 2 สัปดาห์นะคะ
2. ขูดฟิลเลอร์
แต่หากเป็นฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งทำมาจากซิลิโคนเหลว จำเป็นจะต้องผ่าตัดเพื่อขูดเอาฟิลเลอร์ออกเท่านั้น เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทั้งนี้การขูดฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน หากฟิลเลอร์เกาะกับผิวหนังจนเกิดพังผืดขึ้นมา อาจทำให้ขูดฟิลเลอร์ออกได้ไม่หมด เอาออกได้มากสุดประมาณ 60 – 70% เท่านั้น อีกทั้งเสี่ยงต่อระบบเส้นประสาทและเส้นเลือดสำคัญอีกด้วย ทั้งนี้ควรขอคำปรึกษาและเข้ารับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุดค่ะ
ดูแลตัวเองหลังจากฉีดหรือขูดฟิลเลอร์
- ประคบเย็นบริเวณที่ขูดออก ครั้งละ 20 – 30 วินาที เป็นเวลา 3 วัน จนกว่าอาการปวดจะบรรเทาลงภายใน 1 – 2 สัปดาห์
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ระบบฟื้นฟูในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้แผลหายเร็วขึ้น
- ควรหนุนหมอนสูงและนอนหงายเพื่อบรรเทาอาการเลือดคั่งอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ห้ามสัมผัสบริเวณที่เข้ารับการรักษา
- ทานยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่ง
- พบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง
- งดออกกำลังกายอย่างน้อย 1 เดือน เพราะอาจกระตุ้นอาการบวมมากขึ้น
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดสูบฉีดบริเวณใบหน้ามากเกินไปจนหน้าบวม
หากฉีดฟิลเลอร์คางไปแล้วอยากทำศัลยกรรม ต้องทำอย่างไร
หากคุณยังอยากเพิ่มความสวยด้วยการศัลยกรรม ก็สามารถทำได้ค่ะ เพียงแต่คุณควรรอให้ฟิลเลอร์สลายออกไปให้หมดก่อน โดยปกติแล้วฟิลเลอร์แท้จะสลายตัวไปเองภายใน 1 – 2 ปี (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละคน) หลังจากฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว หรือฉีดสลายฟิลเลอร์เสร็จแล้วสามารถเสริมสวยต่อได้เลยค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
รวมทุกอันตรายจากฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน
วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ VS ฟิลเลอร์ปลอม วิธีสังเกตแบบเคลียร์ชัดว่าต่างกันอย่างไร
6 อันตรายจาก หมอกระเป๋า เตือนภัยสวยไวราคาถูก หมอปลอมทำหน้าพัง
ทำไมต้องเสริมคางกับหมอโบที่ De Beau Clinic
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :