การฉีดฟิลเลอร์ Filler กับ 7 ความเชื่อแบบผิดๆ ที่หลายคนยังไม่เข้าใจ
การฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร? ทำไมต้องฉีด บางคนฉีดแล้วหน้าพัง เสี่ยงเสียโฉม สาเหตุหลักคืออะไร? วันนี้หมอจะมาไขข้อสงสัยและข้อข้องใจแบบหมดเปลือก!! เพื่อประกอบการตัดสินใจและเพิ่มความมั่นใจสำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ค่ะ
ความเชื่อผิดที่ผิดเรื่อง การฉีดฟิลเลอร์
1. ฟิลเลอร์คือ ซิลิโคนเหลว
เป็นความเชื่อที่ผิดค่ะ เพราะ ฟิลเลอร์นั้นคือ สารเติมเต็มที่ใช้สำหรับลดริ้วรอย ร่องลึกบนใบหน้า ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ฯลฯ ซึ่งฟิลเลอร์บางชนิดนั้นจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายใต้ชั้นผิว เพื่อให้ผิวพรรณมีความอ่อนเยาว์ และดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติด้วย โดยฟิลเลอร์แท้ที่ใช้กันในคลินิกมาตรฐานจะสามารถสลายตัวไปเองได้ และไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย มีทั้งหมด 3 แบบด้วยกันคือ
- แบบชั่วคราว คือ สาร Hyaluronic Acid ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าบริเวณที่ต้องการ จะสามารถคงสภาพได้ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี (ขึ้นอยู่กับบุคคล) มีความปลอดภัยสูงและสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
- แบบกึ่งถาวร คือ เช่น สาร PMMA (Polymethyl-methacrylate) สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyakylimide) เป็นสารที่สังเคราะห์ที่สามารถเข้ากันได้กับเนื้อเราได้ ข้อดีคือ สามารถอยู่คงทนกว่าแบบแรก ซึ่งในบางรายอาจจะอยู่ได้นานถึง 2 ปี สามารถสลายเองได้ แต่ก็จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยระดับกลางในบางรายอาจจะมีอาการแพ้ได้
- แบบถาวร หรือก็คือ ซิลิโคนเหลว สารชนิดนี้จะเป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ไม่สามารถสลายออกเองได้ ปัจจุปันในคลินิกมาตรฐานจะไม่นำมาฉีดเเล้วค่ะ เพราะผลข้างเคียงสูง ทำให้เกิดการอักเสบ บางรายอาจจะทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดผิดรูปเสียโฉมไปเลย หากใครเผลอฉีดหรือไปฉีดในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานจะต้องขูดออกสถานเดียวเท่านั้น
(Update 2022) ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? เหมาะกับใช้ฉีดตรงไหน
ฟิลเลอร์ hyaluronic acid ทำไมฟิลเลอร์แท้ ถึงมีราคาแพง
2. วิธีดูฟิลเลอร์แท้ คือดูที่กล่อง?
อันนี้ถูกแค่ครึ่งเดียวค่ะ เพราะในปัจจุปันฟิลเลอร์ปลอมนั้นมีการลอกเลียนแบบที่แนบเนียนมาก ซึ่งภายนอกจะเลียนแบบกล่องบรรจุได้เหมือนของแท้เป๊ะๆ เลย แต่ก็มีจุดสังเกตอยู่เหมือนกันค่ะคือ
- ให้สังเกตุที่ฉลากภาษาไทยที่กล่อง เพราะฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อที่จะที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย จะมีฉลากภาษาไทยระบุรายละเอียดของสินค้าติดไว้ทั้งราคา วันหมดอายุอย่างชัดเจนที่ข้างกล่อง รวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับสารฟิลเลอร์นั้นๆ รวมถึงให้สังเกตตรามาตรฐานการรับรองความปลอดภัยจาก อ.ย. ด้วย โดยฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย ทั้งหมดจะมียี่ห้อดังนี้ คือ JUVEDERM , RESTYLANE, BELOTERO, PERFECTHA, NEURAMIS หากไม่มีทั้งตรา อย.และฉลากภาษาไทยให้สงสัยไปเลยค่ะ ว่าของปลอมแน่ๆ
- ราคา หากราคาถูกเกินไปก็ให้สงสัยไว้ก่อนเลยค่ะว่า ฟิลเลอร์อันนี้อาจจะเป็นของปลอม
- ความเชี่ยวชาญแพทย์ เนื่องจากเนื้อของฟิลเลอร์ในของแท้เเละของปลอมนั้นจะมีความแตกต่างกันอยู่ ซึ่งผู้ที่สามารถแยกออกได้ก็คือแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น ดังนั้นควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดให้จะดีที่สุดค่ะ
3.ซื้อฟิลเลอร์มาฉีดเองได้มั้ย?
บอกเลยว่า ไม่ได้ค่ะ!! เพราะจุดหรือตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์นั้นมีความละเอียดอ่อนสูงมาก เช่นบริเวณใต้ตา ที่ผู้ฉีดนั้นจำเป็นต้องเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูงเท่านั้นถึงจะฉีดได้ เพราะหากฉีดผิดตำแหน่ง หรือ ฉีดเข้ากล้ามเนื้อผิดชั้น ก็สามารถทำให้เกิดการอักเสบได้ ดังนั้นไม่ควรซื้อมาฉีดเองหรือให้หมอกระเป๋าฉีดให้นะคะ
4.ฉีดครั้งเดียวอยู่ได้ตลอดชีวิต
ไม่จริงค่ะ เพราะอย่างที่หมอบอกนะคะ ฟิลเลอร์แท้นั้นจะมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี (ขึ้นอยู่กับบุคคล) ก็จะสลายออกไปตามธรรมชาติ ซึ่งหากสลายออกไป โครงสร้างใบหน้าก็จะกลับไปเป็นแบบเดิม ทำให้จะต้องกลับมาฉีดซ้ำค่ะ
5. ฉีดฟิลเลอร์มา แต่เป็นก้อนเป็นลำ ทำยังไงดี?
หากฟิลเลอร์ที่ฉีดมาเกิดปัญหาเป็นก้อนเป็นลำ ในกรณีที่เป็นฟิลเลอร์แท้จะสามารถฉีดย่อยสลายได้ค่ะ โดยหมอจะใช้สาร Hyaluronidase ซึ่งเป็นสารเอนไซม์ชนิดหนึ่ง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร แก้ยังไงดี?
6. จะเติมฟิลเลอร์ใหม่ เเต่ฟิลเลอร์อันเดิมยังเป็นก้อนอยู่ ไม่ฉีดสลายได้มั้ย?
ไม่ได้ค่ะ จำเป็นจะต้องทำการฉีดสลายฟิลเลอร์เดิมก่อน จากนั้นถึงจะเติมฟิลเลอร์ใหม่เข้าไปได้
สลายฟิลเลอร์ ใช้เวลานานมั้ย? ต้องรอกี่วัน สามารถฉีดซ้ำได้หรือไม่?
7.หลังฉีดฟิลเลอร์มา ห้ามตากแดด ทานชาบู/หมูกระทะจริงหรือเปล่า?
อันนี้หมอก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน เพราะมีคนไข้หลายคนถามหมอว่า หลังฉีดสามารถออกแดด หรือทานชาบู/หมูกระทะไม่ได้ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ละลาย อันนี้มีบางส่วนที่จริงและไม่จริงค่ะ เพราะคุณสามารถทานได้ปกติเลย ยกเว้นฟิลเลอร์ปาก ที่อาจจะต้องงดไปก่อน 7 วัน สำหรับส่วนอื่นๆ ก็สามารถทานได้ปกติ เเต่ช่วง 7-10 วันแรก อาจจะต้องเลี่ยงการนั่งใกล้ๆ เตาหรือจุดที่ไอร้อนปะทะใบหน้า นอกจากนั้นยังมีกฎที่ต้องทำอย่างเคร่งครัดเพิ่มเติมอีก เช่น ..
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น การจับ การแตะ การเกา การกด โดยเฉพาะจุดที่มีรอยช้ำ เพราะอาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 7 วัน หากไม่ดีขึ้นต้องกลับมาพบแพทย์ค่ะ
- อยู่ให้ห่างกับความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ 7 วัน
- งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารแสลงหรืออาหารดิบ เช่น ปูเค็ม ปลาร้า แหนม ปลาดิบ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดนวดหน้า ทรีตเม้นท์ และเลเซอร์ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
- ดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตร จะช่วยให้ฟิลเลอร์สวยเด้ง ฉ่ำวาวมากขึ้น
อ่านบทความที่น่าสนใจได้ที่นี่
ฟิลเลอร์คาง ปรับรูปหน้า คางสวย หน้ามีมิติ ไม่ต้องผ่าตัด ฉีดคางอย่างปลอดภัย
ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ตาคล้ำ ดวงตาลึกโหล่ ดูไม่สดใส ร่องใต้ตาลึก
เทคนิค ลดริ้วรอย ไม่ต้องผ่าตัด มีหน้าเรียวสวยปรับรูปหน้า ลดกรามไม่ต้องพักฟื้น
ทำไมต้อง หมอโบ เดอโบคลินิก?
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่ากว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” ( de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรบแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ