ในปัจจุบันนี้ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจในการดูแลผิวหน้ามากขึ้น เพื่อให้รูปลักษณ์ของตัวเองออกมาดูดีมากที่สุด ยิ่งสมัยนี้มีโซเชียลมีเดียที่คอยให้เราอัปเดตแทบจะตลอดเวลา ก็ยิ่งทำให้เราต้องหันมาดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้ว หลายคนอาจเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดริ้วรอยก่อนวัยที่อาจทำให้เราสูญเสียความมั่นใจในตัวเองเมื่อต้องลงรูปสวย ๆ ในโซเชียลมีเดีย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์มาให้ดี อาจเสี่ยงต่อปัยหาตามมาได้ในระยะยาว วันนี้หมอโบมีคำเตือนหลังฉีดฟิลเลอร์มาฝากทุกคนกันค่ะ
รวมทุกคำเตือนหลังฉีดฟิลเลอร์ที่คนฉีดฟิลเลอร์ต้องระมัดระวัง
1. เลือกท่านอนให้เหมาะสม
สำหรับใครที่ฉีดฟิลเลอร์เป็นครั้งแรก อาจไม่เคยชินกับการดูแลใบหน้าสักเท่าไหร่นัก ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่เรานอนหลับด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งยากเลยล่ะค่ะ เพราะท่านอนบางท่าอาจมีผลต่อฟิลเลอร์ได้ด้วยนะคะ ได้แก่ ท่านอนคว่ำและท่านอนตะแคง ที่อาจทำให้ใบหน้าถูกกดทับและทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปได้ง่าย ทางที่ดีควรหนุนหมอน 2 ใบให้หัวสูงเลยระดับอกอย่างน้อย 3 วันหลังการฉีดเพื่อป้องกันการกดทับใบหน้านั่นเองค่ะ
2. งดรับประทานอาหารบางประเภทไว้ก่อน
ข้อนี้ถือว่าเป็นข้อที่ยากมากสำหรับคนรักอาหารบางประเภท อย่างอาหารหมักดอง อาหารรสจัด อาหารปิ้งย่าง และอาหารแปรรูป แต่หมอโบต้องขอให้งดทานไปก่อนนะคะ เพราะอาหารประเภทนี้มีกรรมวิธีที่ไม่สะอาด ไม่ได้ฆ่าเชื้อโรคได้แน่นอน 100% นอกจากความสะอาดที่น้อยแล้ว ยิ่งถ้าเป็นอาหารรสจัดด้วยแล้วล่ะก็ อาจทำให้เลือดสูบฉีดและกระตุ้นอาการปวดบวมบริเวณที่ฉีดมากยิ่งขึ้น ส่วนอาหารปิ้งย่างก็เสี่ยงต่อการที่ใบหน้าสัมผัสกับความร้อนเป็นเวลานานจนฟิลเลอร์เสียทรง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงอาหารรสหวานจัดด้วยนะคะ เพราะน้ำตาลมีฤทธิ์กระตุ้นให้เกิดการอักเสบง่าย ส่งผลให้แผลหายช้านั่นเองค่ะ
3. สัมผัสหน้าบ่อย ๆ ไม่ดีแน่
ทั้งในส่วนของการสัมผัสโดยตรงหรือแม้แต่การแสดงออกทางสีหน้าก็ตาม เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปหรือเกิดการอักเสบตามมาได้ หากคุณฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามา ก็ไม่ควรขยี้ใต้ตา , หากคุณฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมา ก็ไม่ควรเอามือก่ายหน้าผากหรือนวดคลึง, หากคุณฉีดฟิลเลอร์ขมับมา ก็ไม่ควรนวดขมับแรง ๆ, หากคุณฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมา ก็ไม่ควรนวดหรือถูร่องแก้ม และหากคุณฉีดฟิลเลอร์ปากมา ก็ไม่ควรนวดหรือแกะริมฝีปาก หากรู้สึกรำคาญบริเวณผิวหน้า แนะนำให้ทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อบริเวณรอยเข็มตามที่คุณหมอสั่งเพื่อบรรเทาอาการได้เลยค่ะ ทั้งนี้แนะนำให้งดสัมผัสหน้าอย่างน้อย 3 วันเพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตัวผิดตำแหน่งไปก่อนนะคะ เมื่อฟิลเลอร์เริ่มเข้าที่แล้วค่อยสัมผัสใบหน้าได้ตามปกติค่ะ
4. งดปาร์ตี้ไว้ก่อน
สำหรับใครที่เป็นสายปาร์ตี้แล้วล่ะก็ อาจต้องอดใจรอสักนิดนึงนะคะ เพราะถ้าหากคุณร่วมวงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วล่ะก็ อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์เสื่อมไวขึ้นได้ด้วยนะคะ เนื่องจากแอลกอฮอล์ออกฤทธิ์กระตุ้นการสูบฉีดเลือดให้มากขึ้น ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวและทำให้ใบหน้าที่ปวดบวมจากการฉีดฟิลเลอร์อยู่แล้ว ปวดบวมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หากเราเมาจนไม่ได้สติ ก็อาจเสี่ยงต่อการสัมผัสหรือเกิดอุบัติเหตุบริเวณใบหน้าง่ายขึ้น ทางที่ดีควรงดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ค่ะ
5. อยู่ในที่ร้อน ๆ นานไปไม่ดีแน่
แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วฟิลเลอร์ไม่ได้ไวต่อความร้อนเท่าไหร่นัก แต่หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่ร้อนเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงต่อปัญหาฟิลเลอร์ผิดรูปได้ และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเป็นพริตตี้, MC ตามงานอีเวนต์, เล่นกีฬากลางแจ้ง เช่น ปั่นจักรยาน วิ่งทางไกล ฟุตบอล, ทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย ๆ อย่างการกางเต็นท์, ท่องเที่ยวต่างจังหวัดบ่อย ๆ หรือแม้แต่กิจกรรมเล็ก ๆ อย่างการซาวน่าหรือการรับประทานอาหารที่ร้อนจัด (โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก) หมอโบขอแนะนำให้อยู่แต่ในพื้นที่ที่มีอากาศกำลังดี ไม่ร้อนจนเกินไป รวมถึงงดทานอาหารที่ร้อนจัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ จะดีกว่าค่ะ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์ผิดรูปและต้องมาฉีดซ้ำอีกรอบค่ะ
6. หมั่นสังเกตความผิดปกติหลังการฉีด
การฉีดฟิลเลอร์อาจมีผลข้างเคียงอยู่บ้าง เช่น มีผื่น มีรอยแดงบริเวณที่ฉีด หรือมีอาการปวดหลังฉีด แต่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 2 – 3 วัน ทั้งนี้ถ้าอยากหายไว ๆ หมอโบแนะนำให้รับประทานยาแก้ปวดตามคำแนะนำของคุณหมอได้เลยค่ะ แต่หากอาการปวดหรือรอยแดงยังไม่ทุเลาลงแม้ว่าจะผ่านมานานถึง 2 สัปดาห์แล้วก็ตาม นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของฟิลเลอร์อักเสบ ซึ่งเป็นอาการแพ้ฟิลเลอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก เพราะถ้าคุณฉีดฟิลเลอร์แท้ซึ่งผลิตจากกรดไฮยาลูโรนิก หรือ HA (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีความใกล้เคียงกับสารในร่างกาย แต่ดันเกิดอาการแพ้ ก็สามารถให้คุณหมอฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันทีค่ะ เมื่อดีขึ้นแล้วค่อยกลับมาฉีดใหม่อีกที แต่หากฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเป็นของปลอมแล้วล่ะก็ นอกจากจะเสี่ยงต่อฟิลเลอร์ผิดรูปจนเป็นจุดด่างพร้อยบนใบหน้าแล้ว ยังเสี่ยงต่อภาวะอันตรายที่เกิดจากฟิลเลอร์ปลอมได้อีกด้วยนะคะ หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษาอาจเสี่ยงเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ด้วยค่ะ ทางที่ดีที่สุดหากเกิดความผิดปกติใด ๆ ก็ตาม แนะนำให้รีบพบคุณหมอโดยเร็วที่สุดค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
: 097 426-6956 หรือ 097 429-5645บทความที่น่าสนใจ
- รวมทุกคำตอบที่คุณควรรู้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- อาการหลังฉีดฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง รักษาอย่างไรให้หายไวที่สุด
- ฟิลเลอร์สลายไม่หมดเกิดจากอะไร ป้องกันได้ด้วยวิธีไหนบ้าง