ท่านอนตะแคงเป็นท่านอนยอดฮิตที่หลายคนชอบนอน รู้หรือไม่? ว่าเป็นท่านอนอันตรายที่สามารถทำให้หน้าเหี่ยวได้ วันนี้หมอโบมีคำแนะนำสำหรับท่านอนดีๆ มาฝากกันค่ะ
นอนตะแคง ท่านอนสุดอันตราย
หลายๆ คนอาจจะติดการนอนตะแคงเพราะช่วงให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น แต่ข้อเสียของการนอนตะแคงนั้นมักจะส่งผลให้หน้าเหี่ยว เพราะการนอนตะแคงจะทำให้ใบหน้าของเราเสียดสีกับหมอน และเกิดการกดทับบนใบหน้าเป็นเวลานาน จนทำให้เกินริ้วรอยตื้นและรอยลึก ซึ่งไม่ได้มาแค่นอนตะแคงเท่านั้น แต่ใครที่ติดนอนคว่ำก็อันตรายไม่แพ้กันค่ะ
นอนท่าไหนดีที่สุด
สำหรับท่านอนที่เหมาะสมและถนอมผิวของเราที่สุดก็คือท่านอนหงายค่ะ เพราะว่าเป็นท่านอนที่ใบหน้าไม่ต้องสัมผัสและเสียดสีกับหมอน แต่หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า แล้วเราจะนอนหงายตลอดได้ยังไง เพราะเวลาที่เรานอนก็ต้องมีบ้างที่เผลอตะแคง หมอโบแนะนำให้ก่อนนอนให้เริ่มต้นที่นอนท่านอนหงายไปเลย หรือจะเพิ่มทริคคือ ก่อนนอนให้ใช้หมอนเล็กๆ สอดไว้ใต้หัวเข่าจะช่วยลดการตะแคงตัวในเวลากลางคืนได้ หรือให้ใช้หมอนที่ออกแบบมาพิเศษที่จะช่วยทำให้สามารถนอนหงายได้จนเช้าเลยค่ะ

ปัจจัยที่จะช่วยนอนหลับสบายและใบหน้าเด้งใส ไม่เหี่ยว
- ทาครีมบำรุงก่อนนอนทุกคืน โดยครีมบำรุงผิวในช่วงกลางคืนนั้นควรเน้นสูตรที่เพิ่มและรักษาความชุ่มชื้นในใบหน้า
- หมอนที่ใช้นอนไม่ควรใช้หมอนที่สูงหรือเตี้ยเกินไป ปลอกหมอนก็ควรเลือกใช้หมอกหมอนที่ทำจากผ้าไหม เพื่อลดการกดทับบนใบหน้าเวลานอน
- อุณหภูมิที่เย็นมากๆ จากเครื่องปรับอากาศนั้นถึงจะมีข้อดีที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย สบายตัวเพราะไม่ร้อนจนเหงื่อออกเหนอะหนะ แต่ข้อเสียคือ อากาศที่แห้งและเย็นจะส่งผลต่อผิวให้แห้งง่าย ขาดความชุ่มชื้นจนแตกเป็นขุย ดังนั้นไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศที่เย็นเกินไป
- อย่านอนดึก เพราะในร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนที่มีช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมเนื้อเยื่อ แต่หากนอนดึกเกินไปจะทำให้ร่างกายรับฮอร์โมนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการฟื้นฟูเต็มที่ ดังนั้นหากอยากหน้าใส หน้าเด็กตลอดกาลเลยค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
สัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณควร “เติม Filler “โดยด่วน
ทาครีมไม่ถูกวิธี ก็ทำให้หน้าเหี่ยวเร็วได้!! วิธีทาครีมให้ถูกต้องควรทำอย่างไร?
ร่องแก้มลึก แก้ริ้วรอยร่องแก้ม แก้มหย่อนคล้อยด้วยฟิลเลอร์
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่ากว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ