ฉีด sculptra กี่วันเห็นผล? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนต้องการทราบ โดยเฉพาะผู้ที่สนใจในเทคนิคฟื้นฟูผิวด้วยวิธีนี้ Sculptra ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะไม่ได้เพียงแค่เติมเต็มริ้วรอยหรือปรับผิวให้กระชับทันทีเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว เพื่อผลลัพธ์ที่ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ แต่คำถามสำคัญคือ หลังจากฉีดไปแล้ว ต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง? ผลลัพธ์จะมาเร็วหรือช้ากว่าเทคนิคอื่น ๆ? ถ้าทุกคนกำลังสงสัย หมอโบมีคำตอบมาฝากค่ะ
ฉีด sculptra กี่วันเห็นผล? ต้องรอนานไหม จะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในกี่วัน?
ปัญหาผิวหน้าเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรละเลย เพราะนอกจากจะลดความมั่นใจบนใบหน้าแล้ว ยังอาจเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาจนต้องมานั่งแก้ในภายหลังอีกด้วย ซึ่งจากที่บอกไปค่ะว่าปัญหาผิวนั้นมีหลายประการมาก ๆ ยิ่งโดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ช่วงอายุก้าวเข้าสู่วัย 30-40 ปีขึ้นไป มักจะพบปัญหาได้บ่อยกว่าช่วงวัยอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องความหย่อนย้อยและการเกิดริ้วรอย ทั้งนี้ยังรวมไปถึง ผิวอ่อนแอไม่ยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยทั้งบริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และตีนกา ผิวไม่กระชับและยืดหยุ่นเหมือนเดิม จึงจำเป็นต้องกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวให้ใบหน้ากลับมาเปล่งปลั่งตึงกระชับ ดูมีน้ำมีนวลด้วยนวัตกรรม Sculptra นั่นเองค่ะ
ทำความรู้จัก “Sculptra” เทคโนโลยีกระตุ้นคอลลาเจน สร้างความอ่อนเยาว์ให้ผิวให้กลับมาดูเด็กอีกครั้ง
Sculptra เป็นสารกำเนิดคอลลาเจนในรูปแบบฉีดที่ประกอบด้วยอนุภาคของ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เติมเต็ม และยกกระชับใบหน้า สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี โดยมุ่งเน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) ได้ดีมากเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นหนึ่งในชนิดของคอลลาเจนที่ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น ช่วยสมานแผล สามารถพบได้ทั้งในผิวหนัง เส้นผม กระดูก เนื้อเยื่อ และผนังหลอดเลือด เป็นต้น
สำหรับผลลัพธ์ภายใน 1-3 เดือนหลังการทำ Sculptra ผิวหน้าจะดูแน่น กระชับ ดูอ่อนเยาว์เด็กลงอย่างเห็นได้ชัด เห็นผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ผิวกระชับหลังจากได้รับการฟื้นฟูอย่างล้ำลึก และถึงแม้เวลาผ่านไป PLLA จะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติ แต่การสะสมของคอลลาเจนยังคงอยู่ Sculptra จึงสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างยาวนานค่ะ
หลักการและกลไกการทำงานของ Sculptra ที่ควรรู้ก่อนเข้ารับบริการ
Sculptra จะมีลักษณะเป็นผง จะต้องผสมด้วย Sterile water เขย่าให้เข้ากันเพื่อฉีดเข้าไปในผิวหนังชั้น Subcutaneous ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นไขมันชั้นลึกค่ะ โดยหลังจากการฉีด ตัวยาจะกระจายตัวไปทั่วชั้นผิว สาร PLLA จะไปเพิ่มปริมาณเซลล์ ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่เป็นตัวสร้างโปรตีนสองชนิด คือ คอลลาเจนและอิลาสติน ที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างผิวภายในให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ ยังคอยพยุงผิวหนังและผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและเนียนนุ่ม ไปกระตุ้นขบวนการสังเคราะห์เส้นใยคอลลาเจน ผ่านเม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นเม็ดเลือดขาวชนิดที่คอยขจัดสิ่งแปลกปลอมที่หลุดรอดเข้าไปในร่างกายมาช่วยในการทำงาน ส่งผลให้ PLLA ค่อย ๆ สลายไป แต่การสะสมของคอลลาเจนยังคงอยู่ จึงสามารถช่วยลบเลือนริ้วรอยให้ดูจางลง และรอยเหี่ยวย่นหรือหลุมลึกดูตื้นขึ้นนั่นเองค่ะ
sculptra เหมาะกับใคร บ้าง?
แม้จะดูเป็นเทคโนโลยีที่ง่าย ๆ ไม่ได้ดูซับซ้อน แต่ต้องบอกก่อนค่ะว่า Sculptra นั้นเหมาะกับผู้ที่ประสบปัญหาผิวหลายกลุ่มด้วยกัน ดังนี้…
- ที่ต้องการยกกระชับผิว ต้องการผิวแน่นอิ่มฟู
- ผู้ที่ริ้วรอยที่เห็นได้ชัด ริ้วรอยจากอายุที่มากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวโดยใช้สารสกัดจากธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการปรนนิบัติผิวให้เปล่งปลั่งกระจ่างใส
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์หลังทำหัตถการอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่สามารถรักษาสภาพผิวได้ยาวนาน (เนื่องจาก เพราะ Sculptra คงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 2 ปี)
ซึ่งนี่เป็นเพียงกลุ่มผู้เหมาะกับการฉีด Sculptra เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นค่ะ โดยหลัก ๆ จะเน้นไปที่ผู้ที่ประสบปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่าง ๆ ซึ่งก่อนเข้ารับบริการ ผู้สนใจสามารถเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เพิ่มเติมเพื่อทำการวิเคราะห์และวางแผนการให้บริการอย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ
sculptra ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
จากที่ทุกคนพอจะทราบแล้วค่ะว่า จุดประสงค์หลัก ๆ ของการฉีด Sculptra ก็คือการกระตุ้นคอลลาเจนและฟื้นฟูโครงสร้างผิวใหม่ ช่วยทำให้คอลลาเจนใต้ชั้นผิวมากขึ้น ดังนั้นจึงทำให้ Sculptra สามารถฉีดได้หลายบริเวณด้วยกันค่ะ เช่น ทั่วใบหน้า บริเวณลำคอ หลังมือ ขมับ หรือ บริเวณผิวที่เหี่ยวย่น เป็นต้น เพื่อลดเรือนริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า ลดเม็ดสีทำให้รอยดำรอยแดง ฝ้าจางลง ผิวดูอ่อนเยาวน์ ค่ะ
sculptra ฉีดกี่ครั้ง
การฉีด Sculptra ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและความต้องการของผู้เข้ารับบริการ โดยทั่วไปแล้วแพทย์มักแนะนำให้ฉีดประมาณ 2-4 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด ระยะห่างระหว่างการฉีดแต่ละครั้งมักอยู่ที่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวอย่างต่อเนื่อง และผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งนี้จำนวนครั้งที่เหมาะสมอาจขึ้นอยู่กับอายุ, สภาพผิว, ระดับความหย่อนคล้อย หรือปัญหาเฉพาะที่ต้องการแก้ไข แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล
sculptra ฉีดกี่ขวด
จำนวนขวดของ Sculptra ที่ต้องใช้ในการฉีดขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการรักษาและระดับความหย่อนคล้อยของผิว โดยทั่วไปแพทย์มักคำนวณจำนวนขวดตามอายุค่ะ เช่น…
- ผู้ที่อายุต่ำกว่า 40 ปี อาจใช้ประมาณ 2-4 ขวด
- ผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป อาจต้องใช้มากกว่านั้น เช่น 4-6 ขวดขึ้นไป
หากต้องการฟื้นฟูทั้งใบหน้าและเพิ่มความกระชับในหลายบริเวณ เช่น แก้ม ร่องแก้ม หรือกรอบหน้า อาจต้องใช้หลายขวดในครั้งเดียว หรือแบ่งฉีดในหลายครั้ง ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินจำนวนขวดที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของคุณ
sculptra ฉีดขวดเดียวได้ไหม
การฉีด Sculptra เพียงขวดเดียวสามารถทำได้ในกรณีที่ต้องการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด เช่น ร่องลึกบางจุดหรือผิวหย่อนเล็กน้อย แต่ในกรณีที่ต้องการผลลัพธ์แบบเต็มใบหน้า หรือการฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระยะยาว การฉีดขวดเดียวอาจไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม แม้จะใช้เพียงขวดเดียว แต่ Sculptra จะยังคงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวได้ เพียงแต่ผลลัพธ์อาจเห็นได้ชัดเจนเฉพาะบริเวณที่ได้รับการฉีด ดังนั้นหากต้องการผลลัพธ์ที่ครอบคลุม แพทย์อาจแนะนำให้ใช้มากกว่าหนึ่งขวดในครั้งเดียว หรือแบ่งเป็นหลายครั้งตามแผนการรักษาค่ะ
ไขข้อสงสัย Sculptra ฉีดกี่วันเห็นผล เห็นทันทีหรือต้องรอนานแค่ไหน มาดูคำตอบ!
Sculptra ไม่ใช่ฟิลเลอร์ที่ให้ผลลัพธ์ทันที แต่จะใช้เวลาในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว โดยปกติแล้วคุณจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงประมาณ 4-6 สัปดาห์ หลังการฉีดครั้งแรก และผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผ่านการฉีดครบตามแผนการรักษา
สำหรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มักใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน หลังจากการฉีดครั้งสุดท้าย ซึ่งผิวจะดูเต็มอิ่มและกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์นี้สามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและสภาพผิวของแต่ละคนค่ะ
ท้ายที่สุดหมอโบขอแนะนำค่ะว่า ก่อนการตัดสินใจฉีด Sculptra ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ตรงกับความคาดหวังนะคะ
ฉีด Sculptra ที่ไหนดี ทำไมต้อง De Beau Clinic
เนื่องจากการฉีด Sculptra นั้น แพทย์ผู้ฉีดต้องมีความชำนาญด้านการฉีดฟิลเลอร์อย่างมาก เพราะการฉีด Sculptra จะต้องฉีดใต้ชั้นผิวหนังอย่างถูกต้องด้วยเทคนิคเฉพาะ และเป็นต้องใช้เข็ม Canula เฉพาะในการฉีดเท่านั้น ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในการฉีด Sculptra จึงควรเลือกคลินิกหรือสถานประกอบการพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานปลอดภัย ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญ และใช้ผลิตภัณฑ์แท้ผ่านอย.ที่สามารถตรวจสอบได้
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์และหัตถการต่าง ๆ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
บทความที่น่าสนใจ
- ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน มีวิธีถนอมฟิลเลอร์อย่างไรบ้าง
- ฉีดฟิลเลอร์ หน้าเด็กจริงไหม ดูแลหลังฉีดอย่างไร หมอโบมีคำตอบ
- ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นตุ่มใสๆ อันตรายมั้ย ดูแลตัวเองอย่างไรดี