อยากมีผิวหน้าเด็ก อ่อนเยาว์อยู่เสมอต้องทำอย่างไร? วันนี้หมอโบจะมาแชร์เคล็ดลับหน้าใส ดูเด็กเด่นเด้งให้ฟังกันค่ะ รับรองว่าใครทำตามนี้ได้ครบทุกข้อ คำว่าป้าจะไม่มีมาเข้าหูให้ระคายเคืองใจอีกแน่นอน
เคล็ดลับหน้าเด็ก กู้ผิวใสเด้งใน 30 วัน!!
1.งดหรือกินของหวานให้น้อยลง
หากอยากหน้าเนียนใส เด่นเด้งเหมือนเด็กไปยาวนานหลาย ๆ ปี ควรงดหรือทานของหวานให้น้อยลง เนื่องจากน้ำตาลมีอินซูลินสูง เมื่อทานเข้าไปมาก ๆ ก็จะส่งผลให้ผิวหน้าขับน้ำมันออกมาเยอะขึ้น ทำให้หน้ามันง่ายและยังเป็นตัวการไปดูดน้ำ ดูดความชุ่มชื้นของผิวให้แห้งมากกว่าเดิม ซึ่งการที่ปล่อยให้ผิวแห้งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย และใต้ตาคล้ำค่ะ
อ่านต่อบทความ : กินของหวาน ทำให้หน้าแก่ ผิวเหี่ยว แก่ก่อนวัย จริงหรือไม่?
2.ดื่มน้ำเยอะ ๆ
น้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย ดังนั้นเราจึงต้องดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตร ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง สดใสด้วยค่ะ เนื่องจากคอลลาเจนธรรมชาติที่อยู่ในชั้นใต้ผิวหนังของเรานั้น มีลักษณะนุ่ม ๆ ยืดหยุ่น ยิ่งได้รับน้ำมากเท่าไร ผิวก็จะต้องยิ่งเนียนเด้งใสกิ๊งมากเท่านั้น ริ้วรอยต่าง ๆ ก็ถามหายากขึ้นด้วย
3.ล้างหน้าให้ถูกวิธี
หลายคนอาจจะคิดว่าการล้างหน้ายิ่งล้างเร็ว ๆ ถูแรง ๆ ก็จะยิ่งทำให้หน้าสะอาด แต่ความจริงแล้วการล้างหน้าเร็ว ๆ แรง ๆ นั้นยิ่งทำให้ริ้วรอยถามหา หน้าเหี่ยวเร็วกว่าเดิม ดังนั้นควรจะล้างหน้าแบบนวดเบา ๆ ถูไม่เกิน 30 วิเท่านั้นค่ะ ซึ่งรายละเอียดของการล้างหน้าให้ถูกวิธีนั้น หมอโบเคยเขียนไว้แล้ว สามารถเข้าไปอ่านต่อได้ตามนี้เลยนะคะ อ่านต่อบทความ รู้หรือไม่? การล้างหน้าไม่สะอาด ล้างไม่ถูกวิธี ทำหน้าเหี่ยว ผิวแก่ไว
4.นอนหลับให้เพียงพอ
การเข้านอนเร็ว ๆ ไม่นอนดึกหรืออดนอนบ่อย ๆ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยลดปัญหาริ้วรอย ใต้ตาคล้ำได้ดีในระดับหนึ่งเลยค่ะ เนื่องจากในเวลากลางคืนนั้นร่างกายเราจะมีการหลั่งฮอร์โมนออกมาเพื่อซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ที่สึกหรอในร่างกายรวมถึงผิวด้วย ซึ่งฮอร์โมนบางคนก็หลั่งตามเวลา หากเข้านอนเลยเวลาหลั่งของฮอร์โมนตัวนั้นไปแล้ว ร่างกายก็จะไม่ผลิตออกมาอีก ทำให้ร่างกายขาดการซ่อมแซม ดังนั้นหากอยากมีใบหน้าอ่อนเยาว์ไม่ควรเข้านอนดึกเกิน 22.00 น. ในแต่ละคืนนะคะ
5.ไม่ลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี
จริงอยู่ว่าการออกกำลังกายเป็นประจำจะทำให้สุขภาพกายและสุขภาพผิวดีขึ้นแถมหุ่นก็ดีขึ้นอีกด้วย แต่การออกกำลังกายแบบหักโหมก็ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายเลย ยิ่งบางคนมีการจัดตารางอาหารที่เข้มงวดเกินไป ขัดกับโภชนาการที่ดีและมีปริมาณที่น้อยเกินไป ยิ่งทำให้ร่างกายโทรม อ่อนเพลียง่าย ส่งผลให้ไขมันบริเวณหน้าสลายออกมากเกินไปจนซูบซีดใบหน้าตอบมากกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นควรออกกำลังกายเท่าที่พอดี ไม่ควรอดอาหาร และเน้นทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวันจะดีที่สุด
6.ทาครีมกันแดด
บางคนจะนึกถึงการทาครีมกันแดดเฉพาะเวลาที่ต้องออกไปเที่ยวเช่นการเดินป่า ปีนเขา หรือ ไปทะเลเท่านั้น แต่มักจะหลงลืมการทาครีมกันแดดในระหว่างวันเพราะคิดว่า อยู่แค่ในออฟฟิศหรือที่บ้านไม่ได้ตากแดดสักหน่อย ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมาก!!! เพราะรังสี UV จากแดดนั้นสามารถสะท้อนเข้ามาทางกระจกหน้าต่างได้ หรือแม้แต่แสงสีฟ้าในหลอดไฟบางชนิด จอคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ ต่างเป็นตัวการที่ทำให้เซลล์ที่ชั้นผิวเสื่อมเร็วกว่าเวลาอันควร และเมื่อเซลล์สลายตัวเร็วก็ส่งผลให้ผิวแก่ เหี่ยวย่นเร็ว ดังนั้นทางที่ดีควรทาครีมกันแดดทุกวันเป็นประจำนะคะ
7.ฉีดฟิลเลอร์-โบท็อกซ์
ในกรณีที่ต้องการกู้ผิวหน้าแบบเร่งด่วน ให้ลองเข้ามาปรึกษาหมอโบเกี่ยวกับปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ใต้ตาหมองคล้ำไม่กระจ่างใส ถ้าเป็นหมอโบจะแนะนำให้ลองฉีดฟิลเลอร์ค่ะ เพราะการฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดสารเติมเต็มที่ช่วยให้ผิวที่เหี่ยวย่นกลับมาเต่งตึง รอยหมองคล้ำกระจ่างใสขึ้นมาทันทีที่ฉีด แถมไม่ต้องรอพักฟื้นเหมือนการทำศัลยกรรมใบหน้า ตัวฟิลเลอร์มีส่วนประกอบของสารไฮยาลูโรนิคแอซิด (hyaluronic acid) ที่มีโครงสร้างโมเลกุลที่ใกล้เคียงกับคอลลาเจนใต้ชั้นผิวของเรา อีกทั้งยังมีสัมผัสที่ยืดหยุ่นสูง จึงทำให้เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะช่วยให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีความตึง กระชับ ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้นฉ่ำน้ำ ดูอ่อนเยาว์ขึ้นทันที *หากใช้ร่วมกับการทำโบท็อกซ์จะยิ่งเสริมให้ใบหน้ากระชับเด้งย้อนวัยมากกว่า 10 ปีเลยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
4 วิธีบอกลาใต้ตาแพนด้า ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก แบบถาวร!
อยากเติมฟิลเลอร์ ใต้ตา ร่องแก้ม คาง ต้องใช้กี่ CC ?
(อัปเดต2021) ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? เหมาะกับใช้ฉีดตรงไหน
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ