รวมทุกอันตรายจากฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อดูแลใบหน้าให้เยาว์วัย นอกจากจะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกเสริมความงามที่เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะแล้ว ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลงานของแพทย์ที่ทำการฉีดให้ รวมถึงอันตรายจากการฉีดร่องแก้มด้วยฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานอีกด้วยนะคะ วันนี้หมอโบจะมาพูดถึงอันตรายจากฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐานว่าสามารถทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าของเราได้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและระมัดระวังในการเลือกฉีดฟิลเลอร์ให้มากขึ้นนั่นเองค่ะ

ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐานคืออะไร

ฟิลเลอร์ปลอมเป็นฟิลเลอร์ที่ทำเลียนแบบสาร HA (Hyaluronic Acid) โดยนำสารต่าง ๆ อย่างซิลิโคนเหลว, ไบโอพลาสติก และพาราฟิน ซึ่งเป็นสารที่ทำมาจากพลาสติกที่ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต หากฉีดเข้าไป ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมและไม่สลายไปเองตามธรรมชาติ แม้จะยังไม่เห็นผลข้างเคียงในช่วงแรก แต่หากปล่อยทิ้งไว้นาน ร่างกายจะตอบสนองต่อฟิลเลอร์ปลอมซึ่งถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ทำให้ฟิลเลอร์ปลอมเริ่มจับตัวเป็นก้อน ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบหรือบวมแดง หากรุนแรงอาจทำให้ใบหน้าเสียรูปได้อีกด้วย

อันตรายจากฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน

แม้ว่าหลังจากฉีดในช่วงแรกจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นตามที่ตั้งใจไว้ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี เอฟเฟกต์จากฟิลเลอร์ปลอมซึ่งไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติจะค่อย ๆ แสดงออกมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฟิลเลอร์ขึ้นนูนเป็นก้อน, ฟิลเลอร์ไหลย้อยลงมาอย่างเห็นได้ชัด, เนื้อตายและเกิดพังผืดตามมา, ผิวหนังบริเวณที่ฉีดมีลักษณะผิดรูปไปจากเดิม, เกิดการบวมแดงหรือติดเชื้อบริเวณที่ฉีด และวิธีการเอาฟิลเลอร์ปลอมออกจะต้องผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น ไม่สามารถฉีดยาสลายฟิลเลอร์ปลอมออกเองได้

1. เกิดอาการแพ้

บางรายอาจจะเกิดอาการแพ้สารที่ฉีดเข้าไป ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็นอาการคัน, ผื่นแดง, รอยช้ำ หรือมีรอยเข็มที่ฉีดร่วมด้วย ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดบริเวณใต้ผิวฉีกขาด

2. ผิวขรุขระ เป็นก้อน

เกิดจากสารที่ฉีดเข้าไปไม่ได้ย่อยสลายเองตามธรรมชาติและจับตัวเป็นก้อน ส่งผลให้ผิวขรุขระคล้ายเม็ดแข็งอยู่ด้านใน บางรายอาจเจอฟิลเลอร์ไหลย้อนกลับ หรือเปลี่ยนตำแหน่งของสารเติมเต็ม ยกตัวอย่างเช่น ฉีดใต้ตาแต่ดันไหลไปที่จมูกหรือแก้ม

3. ติดเชื้อ

หากรุนแรงอาจทำให้หลอดเส้นเลือดดำอุดตัน จนผิวบริเวณที่ฉีดมีรอยแดงหรือมีสีเข้มกลายเป็นสีดำคล้ำ หรืออาจเป็นหนองอักเสบตามมา

4. ตาบอด

เมื่อฟิลเลอร์ปลอมอุดอยู่ในเส้นเลือด จะทำให้เลือดไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงส่วนนั้น ๆ หากฉีดฟิลเลอร์เข้าไปยังเส้นเลือดที่ไหลไปเลี้ยงปลายประสาทตา ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงตาและทำให้การตาบอดตามมา หากรุนแรงอาจทำให้เนื้อเยื่อตายในบริเวณใกล้เคียงที่ขาดเลือดไปเลี้ยงได้อีกด้วยนะคะ

ดังนั้นหมอโบจึงขอแนะนำให้สละเวลาตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนฉีดกับทางคลินิกสักนิดหนึ่ง เพื่อป้องกันอันตรายจากฟิลเลอร์ในเบื้องต้น เพียงสแกน QR Code หรือดูจากจุดสังเกตของแต่ละแบรนด์ทุกครั้งก่อนเข้ารับการรักษานะคะ

วิธีสังเกตฟิลเลอร์ปลอมได้ด้วยตัวคุณเอง

• ราคา หากพบว่าราคาถูกมากเกินไป ให้สงสัยไว้ก่อนเลยค่ะว่าเป็นของปลอม
• ฉลากภาษาไทย ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อจะผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (อย.) โดยมีฉลากระบุรายละเอียดของสินค้าทั้งราคา, วันหมดอายุ และข้อมูลเกี่ยวกับสารฟิลเลอร์นั้น ๆ หากฟิลเลอร์ชนิดไหนไม่มีฉลากภาษาไทยระบุอยู่ แสดงว่าเป็นของปลอมค่ะ
• มาตรฐานความปลอดภัย ฉลากของฟิลเลอร์ของแท้จะต้องระบุมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยจาก อย. โดยฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย ได้แก่ Juvederm, Restylane, Belotero, Perfectha และ Neuramis
• ฟิลเลอร์ตามอินเทอร์เน็ต เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นยาควบคุม ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาหรือร้านค้าทั่วไป และต้องเป็นแพทย์เท่านั้นที่สามารถสั่งซื้อได้และแพทย์จะต้องยื่นหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม, ใบอนุญาตเปิดสถานพยาบาล ฯลฯ ดังนั้นฟิลเลอร์ที่ขายในอินเทอร์เน็ตจึงเป็นฟิลเลอร์ของปลอมแน่นอน
• ผู้แอบอ้างเป็นแพทย์ หรือหมอกระเป๋า (หมอปลอม) นอกจากจะเสี่ยงต่อการเจอการใช้ฟิลเลอร์ปลอมแล้ว ยังน่าห่วงเรื่องเทคนิคเฉพาะทางที่ต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่ฉีดได้ เพราะการฉีดฟิลเลอร์จะต้องอาศัยความละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะรอบดวงตา หากฉีดผิดจุดอาจจะทำให้ผิวไม่เรียบเนียน หรืออาจเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้ออีกด้วย
• แกะกล่องให้เห็นหรือไม่? สำหรับสถานประกอบการหรือหมอกระเป๋าบางรายอาจจะใช้ฟิลเลอร์แท้ในการให้บริการ แต่จะใช้วิธีแบ่งใช้ นั่นก็คือฟิลเลอร์ 1 กล่องอาจจะแบ่งใช้ให้แก่ลูกค้า 2-3 คน ซึ่งการแกะกล่องเปิดใช้ฟิลเลอร์นั้นไม่ควรเก็บไว้ใช้อีก เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง เนื่องจากฟิลเลอร์ที่ดีจะต้องสดใหม่ เปิดแล้วควรทิ้งทันที หรือแม้แต่การไม่แกะกล่องให้เห็นต่อหน้าอาจจะเป็นไปได้ว่า สถานประกอบการหรือผู้ฉีดอาจใช้ฟิลเลอร์ปลอมมาย้อมแมวขายก็ได้

แล้วหมอโบใช้ฟิลเลอร์ตัวไหนบ้าง

เนื่องจากหมอโบต้องการให้คนไข้ทุกคนได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ดังนั้นฟิลเลอร์ที่หมอใช้จะเป็นฟิลเลอร์มาตรฐานดี สามารถตรวจสอบที่มาและหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากอินเทอร์เน็ต ได้แก่

1. Juvederm

ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกาที่ได้รับความนิยมในวงการความงามมายาวนาน การันตีคุณภาพด้วยการผลิตมากว่า 36 ปี ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานทุกประเภท อีกทั้งได้รับการรับรองและนำเข้าอย่างถูกต้องจากองค์กรอาหารและยาของไทย (อย.) จึงมั่นใจได้เลยว่าจะฉีดเท่าไหร่ก็ไม่เสี่ยงต่อปัญหาใบหน้าแน่นอนค่ะ ในปัจจุบันมีให้เลือกใช้งานมากถึง 7 รุ่น ได้แก่

• Juvederm Ultra XC และ Ultra Plus XC : ฟิลเลอร์เนื้อเจลถูกพัฒนาให้มีการเกาะกันอย่างแน่นหนาขึ้น ไม่ไหล ฟูได้ดี ขึ้นรูปง่าย เหมาะสำหรับฉีดปรับรูปหน้า ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
• Juvederm Volux : ฟิลเลอร์เนื้อเจลที่แข็งที่สุดในกลุ่ม Juvederm เหมาะสำหรับสร้างกรอบหน้าให้คมชัด ปรับรูปคางสั้นให้ดูดีขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน
• Juvederm Voluma : ลักษณะเนื้อเจลแน่นและคงตัวได้ดี เรียบเนียน ไม่ไหล โมลด์ขึ้นรูปง่าย เหมาะสำหรับฉีดขมับและคาง ช่วยยกกระชับใบหน้าได้ดีที่สุด ช่วยปรับรูปหน้าให้สวย ดูเป็นธรรมชาติ ไม่บวมช้ำ เห็นผลทันทีหลังการฉีด ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
• Juvederm Volift : ฟิลเลอร์เนื้อเจลนิ่มระดับปานกลาง เรียบเนียน ไม่ไหลง่าย เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ และฉีดปากเพื่อให้รูปปากสวยตามต้องการ ไม่บวมช้ำ และเห็นผลทันทีหลังฉีด ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
• Juvederm Volbella : ฟิลเลอร์เนื้อเจลนิ่มที่สุด ให้ความเรียบเนียน เหมาะสำหรับการฉีดผิวหนังบาง ๆ อย่างใต้ตาหรือริ้วรอยบาง ๆ เห็นผลทันทีหลังการฉีด ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
• Juvederm Volite : ฟิลเลอร์เนื้อเจลบางเบาที่สุด เหมาะสำหรับฉีดเข้าไปยังชั้นหนังแท้ (dermis) ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี ส่วนผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน

2. Restylane

เป็นสารเติมเต็มจากประเทศสวีเดน ถือเป็นกลุ่มไฮยารูลอนิคแอซิดแบรนด์แรกของโลก นำเข้าโดยบริษัท Galderma ซึ่งได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลกและผ่านการรับรองจาก FDA ไทย และ FDA หลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น, อเมริกา, ยุโรป และเกาหลี จึงมีความปลอดภัยและเหมาะสมต่อการใช้เสริมความงาม Restylane โดดเด่นในเรื่องของการปรับรูปหน้า อีกทั้งมีให้เลือกใช้งานหลากหลายแบบ ทั้งขนาดโมเลกุล, เทคโนโลยีเฉพาะตัว, รูปแบบเจลเฟิร์มและเจลนิ่มที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนไข้ ปัจจุบันมีให้เลือกใช้ทั้งหมด 8 รุ่น ได้แก่

• Restylane classic เป็นเนื้อเฟิร์มเจล เหมาะกับการเก็บงานริ้วรอยตื้น เติมร่องแก้มและร่องน้ำหมาก
• Restylane defyne เป็นเนื้อเจลนิ่ม ปานกลาง ยืดหยุ่นปานกลาง เหมาะกับการปรับโครงสร้างใบหน้า เสริมแก้มและคาง สวยละมุนเป็นธรรมชาติ
• Restylane kysse เป็นเนื้อเจลนิ่มที่ถูกออกแบบมาสำหรับปากโดยเฉพาะ เหมาะกับการเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม และปรับทรงปากให้สวยเป็นธรรมชาติ
• Restylane lyft เป็นเนื้อเฟิร์มเจล มีความคงตัวและมีแรงยกผิวสูง คงรูปได้ดี เหมาะกับการยกกระชับหรือปรับรูปหน้าให้สวยคมชัด อีกทั้งเติมแก้ม คาง และสร้างกรอบหน้าด้วย
• Restylane refyne เป็นเนื้อเจลนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับผู้ที่มีผิวบาง ใช้เติมเต็มร่องริ้วรอย, ร่องแก้ม หรือร่องน้ำหมากให้เรียบเนียน
• Restylane vital light เป็นเนื้อเฟิร์มเจลโมเลกุลละเอียด เหมาะกับงานผิวชั้นตื้น ช่วยเพิ่มให้ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส หรืองานเก็บรายละเอียดเฉพาะจุด อย่างเติมร่องใต้ตาและลดรอยคล้ำใต้ตา
• Restylane vital เป็นเนื้อเฟิร์มเจลขนาดเล็ก เหมาะกับหลุมสิว เติมเต็มหน้าผากและหลังมือให้อ่อนเยาว์
• Restylane volyme เป็นเนื้อเจลนิ่ม มีโมเลกุลใหญ่ เหมาะกับปัญหาแก้มตอบ เติมขมับ สามารถให้ความอิ่มฟูขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ป้องกันอันตรายจากฟิลเลอร์ได้ด้วย DE BEAU CLINIC

อยากสวยไม่เสี่ยง แต่ไม่รู้จะไปฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี แวะมาที่ DE BEAU CLINIC ได้เลยค่ะ เพราะที่นี่หมอโบเป็นคนให้คำปรึกษาและดูแลคนไข้ด้วยตัวเองทุกขั้นตอน พร้อมการันตีผลลัพธ์ความสวยแบบปลอดภัย ด้วยรางวัล Top Clinc กว่า 7 ปีซ้อน ภายใต้ความเชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมผิวหนัง และประสบการณ์ดูแลใบหน้ายาวนานกว่า 15 ปี จะฉีดกี่ที่ ปรับสวยกี่จุดก็มั่นใจหายห่วงค่ะ!!

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ตอบวิธีเลือกฉีดถุงใต้ตา ใช้ฟิลเลอร์ตัวไหน ฉีดที่ไหนดี?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม เลือกฉีดอย่างไร กูรูตอบให้แล้ว

สาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตากลายเป็นก้อน ไม่อยากโป๊ะต้องดู!

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”

สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ

นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

: 097 426-6956 หรือ 097 429-5645