หากคุณมีปัญหาขมับตอบ กระดูกยุบ ต้องการปรับใบหน้าให้ดูเข้ารูปหรืออยากปรับรูปหน้าเสริมโหงวเฮ้งก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์ขมับถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะเห็นผลชัดเจนแล้ว ยังเกิดผลข้างเคียงยากมาก ไม่ต้องพักฟื้นนาน แถมยังมีข้อจำกัดในการรักษาน้อยอีกด้วย ว่าแต่มีข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างไรบ้าง อันตรายไหม ดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังการรักษาอย่างไรบ้าง วันนี้หมอโบจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ขมับตอบคืออะไร
เป็นภาวะที่ใบหน้ามีโหนกแก้มเด่นนูนคล้ายแอ่งลึกอันเนื่องมาจากกระดูกยุบตัวและไขมันบริเวณขมับฝ่อลง สังเกตได้จากโหนกคิ้วและโหนกแก้มที่ดูเด่นชัด โดยสาเหตุของขมับตอบมีทั้งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้แก่ โครงสร้างกะโหลกศีรษะไม่สมดุลกับผิวด้านนอกหรือกล้ามเนื้อด้านในฝ่อกว่าปกติ, อายุมากขึ้น, การลดน้ำหนักแบบกระทันหันที่ทำให้ไขมันบนใบหน้ายุบลงด้วย หรืออาจเกิดจากการรักษาบางประเภทที่ส่งผลต่อใบหน้าอย่างการจัดฟัน ทำให้กล้ามเนื้อกรามและกล้ามเนื้อเทมโพราลิส (Temporalis muscle) แบนลง แม้ว่าจะพบในผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป แต่สามารถพบได้ในผู้ที่มีอายุน้อยกว่านั้นได้เช่นกัน
การฉีดฟิลเลอร์ขมับคืออะไร
เป็นการฉีดสารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ทำขึ้นมาเลียนแบบสารที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อให้สารดังกล่าวแทรกตัวตามส่วนขมับและดูดซึมน้ำบริเวณนั้นเพื่อให้ผิวขยายตัวและเต่งตึงมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยเติมเส้นใยคอลลาเจน ผิวจึงดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำและลดริ้วรอยให้น้อยลง ส่งผลให้ผิวดูสุขภาพดีและดูอ่อนกว่าวัย ทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น ส่วนร่องลึกก็ดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูอิ่มเอิบ ดูสดใส
แต่เนื่องจากลักษณะโครงสร้างของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นแพทย์จึงต้องวินิจฉัยเพื่อหาปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับโครงหน้าของแต่ละคนมากที่สุด โดยทั่วไปจะฉีดเพียงข้างละ 0.5-2 cc แต่หากแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ไม่มีประสบการณ์มากพอ ไม่มีความรู้เรื่องกายวิภาค, ตำแหน่งของเส้นเลือด, เส้นประสาท และโครงสร้างใบหน้า อาจเลือกฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับใบหน้า อาจก่อให้เกิดอันตรายจนเกิดผลข้างเคียงอย่างฟิลเลอร์เป็นก้อน ดูผิดรูป รวมถึงปัญหาใบหน้าอื่น ๆ ตามมาในระยะยาว
ฉีดฟิลเลอร์ ทำไมต้องเลือก หมอโบ เดอโบคลินิก
ฉีดฟิลเลอร์ขมับอันตรายไหม?
เนื่องจากขมับเป็นจุดรวมเส้นประสาทสำคัญ จึงทำให้ไวต่อความรู้สึก ดังนั้นอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้เล็กน้อย แต่ไม่เป็นอันตรายต่อคนไข้แต่อย่างใด อาการที่พบส่วนมากจะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีด ซึ่งเกิดจากอาการบวมเข็มและเนื้อฟิลเลอร์ อาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ หรืออาจปวดหัวเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน ทั้งนี้สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามปกติ
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- เห็นผลทันทีหลังจากฉีด
- แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
- ปรับสัดส่วนโครงหน้าให้เข้ารูปตามแผนการรักษา
- ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ไม่ทิ้งสารตกค้างใต้ผิวเนื่องจากฟิลเลอร์แท้จะสลายไปเองตามกลไกธรรมชาติ
ใครบ้างที่ควรฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- ผู้ที่มีขมับตอบ ยุบลึก
- ผู้ที่มีปัญหากระดูกยุบ ต้องปรับใบหน้าให้สมดุล
- ผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าให้สมส่วน
- ผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าเพื่อเสริมโหงวเฮ้ง
- ผู้ที่ลดน้ำหนักกระทันหันจนใบหน้าดูตอบลง
แล้วใครบ้างที่ไม่ควรฉีด
- ผู้ที่แพ้สาร Hyaluronic Acid
- ผู้ที่แพ้ยาชา Lidocaine
- ผู้ป่วยโรคเลือดออกง่ายหยุดยาก (Hemophilia)
- คุณแม่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่เป็นแผลคีลอยด์ (Keloid) ง่าย
ดูแลตัวเองอย่างไรก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- งดทานวิตามินบางชนิดที่มีผลต่อการสูบฉีดของเลือดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น St. John’s Wort, ginkgo biloba, วิตามิน E
- งดดึงขน, สครับผิว หรือแว็กซ์ขนในบริเวณที่จะฉีดอย่างน้อย 3 วัน
- งดนวดหน้าหรือเลเซอร์หน้าอย่างน้อย 3 วัน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชม.
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดอย่างน้อย 24 ชม.
แนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดหรือมีรอยฟกช้ำ รอจนกว่ารอยดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 7 วัน
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีความร้อนอย่างน้อย 2 วัน
- งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชม.
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชม.
- งดอาหารหมักดองและอาหารดิบอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดนวดหน้า, ทรีตเมนต์ และเลเซอร์ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ขมับตอบ โหนกแก้มสูง แก้ไขอย่างไร
ฉีดขมับ ปวดหัว อาการนี้คืออะไร อันตรายหรือไม่?
ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ขมับตอบ เติมขมับ ลดโหนกแก้ม คืนความอ่อนวัย
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :