ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมมาก เกิดจากอะไร ดูแลยังไงดีให้หายบวมไวขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมมาก อาจเรียกได้ว่าเป็นอาการที่หลาย ๆ คนกำลังเผชิญอยู่และอาจเป็นกังวลว่าอาการบวมที่เกิดขึ้นนี้อันตรายหรือไม่ และควรรับมือกับอาการบวมนี้อย่างไรดี ซึ่งต้องบอกก่อนค่ะว่าอาการบวมหลังจากฉีดฟิลเลอร์ที่ปากนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติค่ะ แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจจนเกินไปเพราะก็มีอาการบวมหลาย ๆ แบบที่มักเกิดขึ้นจากสาเหตุที่นำไปสู่ภาวะรุนแรงได้เช่นกัน ดังนั้น เมื่อมีอาการบวมเกิดขึ้นเราจึงควรศึกษาเกี่ยวกับภาวะอาการนี้ไว้เพราะจะได้แก้ไขได้ทันท่วงทีค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมมาก เกิดจากอะไร ดูแลยังไงดีให้หายบวมไวขึ้น

 

ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมมาก เกิดจากอะไร อันตรายไหม ทำยังไงถึงจะหายบวมเร็วขึ้น?

การฉีด ฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการเสริมความงามอีกรูปแบบหนึ่งที่สาวๆ นิยมเลือกใช้กันค่ะ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นริมฝีปากก็เริ่มมีริ้วรอย เวลาทาลิปสติกก็มักจะตกตามร่องปาก ทำให้ดูไม่สวยงาม หรือปัญหารูปปากที่บางเกินไป ดูแล้วไม่อวบอิ่มก็อาจจะทำลายความมั่นใจของสาวๆ หลายคนได้ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปทันที เพราะการฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถแก้ไขปัญหาในจุดนี้ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม การฉีดปากนั้น นอกจากผลลัพธ์ที่จะได้แล้ว อีกสิ่งที่ควรรู้คือ การฉีดปากอาจตามมาด้วยผลข้างเคียงบางประการค่ะ เช่น อาการบวม ที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากการเข้ารับหัตถการ จึงอาจทำให้หลาย ๆ คนเป็นกังวลว่าอาการบวมนี้คืออาการปกติหรือไม่ หากเกิดขึ้นแล้วควรดูแลยังไง ในบทความนี้หมอโบมีคำตอบมาฝากค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์แล้วปากบวม เกิดจากอะไร…

หลายคนที่เคยฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณอื่น ๆ มาก่อนอาจจะคุ้นชินกับการเติมฟิลเลอร์ปุ๊บ ก็สามารถออกงานโชว์ความสมบูรณ์แบบของใบหน้าได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น แต่เมื่อมาฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเกิดอาการบวมก็อาจจะรู้สึกเป็นกังวลว่า ตนมีอาการแพ้ฟิลเลอร์หรือเปล่า? …  อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์บริเวณปากนั้นถือว่าเป็นอาการ “ปกติ” ค่ะ เนื่องจากผิวบริเวณปากจะมีความนุ่มและบางมากกว่าส่วนอื่น ๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บริเวณปากเกิดรอยเข็ม และมีอาการบวมที่เห็นชัดกว่าส่วนอื่น ๆ ค่ะ แต่อาการบวมและรอยเข็มจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 3 – 4 วันค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม บวมกี่วัน ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเข้าที่?

ต้องบอกก่อนค่ะว่า หากเป็นอาการบวมเข็มตามปกติ ฉีดฟิลเลอร์จะบวมประมาณ 7-14 วัน โดยเกิดอาการบวมมากที่สุดในช่วง 2-3 วันแรก จากนั้นจะค่อย ๆ บวมน้อยลงและหายไปเอง โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาเพิ่มเติมค่ะ

วิธีลดอาการบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดูแลยังไงให้อาการบวมหายไวขึ้น

ในกรณีที่คนไข้อยากจะลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วยการประคบเย็นบริเวณริมฝีปากก็ทำได้ค่ะ แต่ห้ามประคบร้อนเด็ดขาดนะคะ เพราะความร้อนอาจจะส่งผลให้ฟิลเลอร์ละลายผิดรูปได้ คนไข้ควรงดการจับ แตะ เกาบริเวณริมฝีปากและรอยเข็มด้วยเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการอักเสบซ้ำซ้อนได้ รวมไปถึงพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น ไม่ควรบีบนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ และ ไม่ควรประคบน้ำแข็งด้วยตนเอง เพราะนั่นอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดีค่ะ ทั้งนี้ ในส่วนของอาหาร คนไข้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีความร้อนจัดเช่น การทานก๋วยเตี๋ยว ชาบู หรือซดซุปร้อน ๆ โดยตรงนะคะ หากต้องการทานจริงควรทิ้งระยะให้อุ่นลงในช่วงแรก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเซ็ตตัวก่อนค่ะ

หากต้องการให้อาการบวมช้ำหายไว ๆ หมอแนะนำให้ทานอาหารที่มีส่วนผสมของฟักทอง สาหร่าย ใบบัวบก ถั่วดำ และดื่มน้ำตามเยอะ ๆ ค่ะ จะช่วยให้สวยเร็วขึ้น 

อาหารที่ห้ามทานในช่วงสัปดาห์แรก ( 7 วัน) ของการฉีดฟิลเลอร์

แม้จะเป็นแค่อาการบวมที่ดูไม่น่าอันตรายมากนัก แต่จริง ๆ แล้วก็ต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมเช่นกันโดยเฉพาะในเรื่องของอาหาร ซึ่งของที่ควรระมัดระวังในการรับประทานช่วงหลัง 7 วันจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก ประกอบด้วย…

  • ของหมักดอง ปลาร้า ปลาส้ม ปูเค็ม แหนม กิมจิ ไชเท้าดอง ผักกาดดอง
  • อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรือไม่ผ่านความร้อน
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงการทานยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของวิตามินอี, น้ำมันปลา, แปะก๊วย, Grape seed (สารสกัดเข้มข้นจากเมล็ดองุ่น)
  • อาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น ยำ ส้มตำ ปลาเค็ม เพื่อลดอาการบวมน้ำ

ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าการรับประทานอาหารถือเป็นอีกหนึ่งข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ที่สำคัญอีกข้อหนึ่ง ซึ่งควรงดอาหารบางประเภทดังกล่าวอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอาหารบางชนิดนอกจากจะทำให้อาการบวมแย่ลงแล้วก็ยังส่งผลต่อผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ได้ด้วยนั่นเองค่ะ

สรุปข้อควรรู้ อาการบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก

อย่างไรก็ตาม จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์นับเป็นอาการที่สามารถพบเจอได้ ซึ่งโดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์แล้วมีอาการบวมจะอยู่ประมาณ 7-14 วัน โดยบวมมากที่สุดในช่วง 2-3 วันแรก หลังจากนั้นอาการจะค่อย ๆ หายไปเอง หากเลย 14 วันแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อดำเนินการรักษาก่อนเกิดผลข้างเคียงรุนแรงเพราะอาจเป็นอาการบวมจากสาเหตุอื่น เช่น อาการบวมจากการติดเชื้อ, อาการบวมจากการแพ้ฟิลเลอร์ หรืออาการบวมเนื่องจากฟิลเลอร์จับตัวกันเป็นก้อน ดังนั้น การรีบเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุดจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นค่ะ

ทำไมต้อง หมอโบ เดอโบคลินิก?

ฉีดฟิลเลอร์ หมอโบ เดอโบคลินิก (De Beau Clinic) ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์แท้

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่ากว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”

สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรบแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฉีดฟิลเลอร์ทานปลาร้าได้มั้ย ส้มตำ ของหมักดอง อาหารทะเล ต้องงดกี่วัน?

จริงหรือมั่ว? หลังฉีดฟิลเลอร์ปากห้ามกินชาบู?

ฉีดฟิลเลอร์ กินทุเรียนได้หรือเปล่า? จะก่อให้เกิดอาการแพ้หรือไม่?