สำหรับช่วงหน้าร้อนแบบนี้ นอกจากจะทำให้ใครหลายคนรู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่ต้องออกไปเจอแดดแรง ๆ แล้ว หากคุณจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่นั้นนาน ๆ เนื่องจากการงานที่ทำหรือกิจกรรมที่คุณเลี่ยงไม่ได้ อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพผิวของคุณด้วยนะคะ โดยเฉพาะผิวหน้าไหม้แดดซึ่งเป็นปัญหายอดฮิตในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ วันนี้หมอโบเลยจะพามาทำความรู้จักกับปัญหาดังกล่าว รวมถึงวิธีดูแลตัวเองอย่างไรให้ปลอดภัยจากผิวไหม้แดด รับรองว่าทำตามแล้วผิวปัง ๆ ยังอยู่กับคุณได้อีกนานเลยค่ะ
หน้าไหม้แดดเกิดจากอะไร
เป็นภาวะอักเสบของผิวหนังโดยเกิดจากร่างกายได้รับรังสียูวี (Ultraviolet) หรือแม้แต่รังสี UV เทียมจากหลอดไฟ UV และตู้อบผิวแทนในปริมาณมากหรือได้รับเป็นเวลานานเกินไป จนรังสียูวีทำลายผิวหนังชั้นนอกและเกิดอาการผิวไหม้บริเวณใบหน้า โดยภาวะดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นหลังจากผิวโดนแดดประมาณ 2-6 ชั่วโมง โดยมากมักพบอาการแสบร้อนตามผิวหนัง ผิวเปลี่ยนสีเข้มขึ้นเป็นสีแดง หลังจากนั้นผิวไหม้แดดจะเริ่มก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหรืออาการอื่น ๆ ตามมา เช่น รู้สึกแสบบริเวณดวงตา มีหนองบริเวณรอบแผล มีอาการคลื่นไส้ หนาวสั่นคล้ายไข้หวัด ฯลฯ
ผิวไหม้แดดมีกี่ระดับ อะไรบ้าง
1. ผิวไหม้แดดไม่รุนแรง
จะมีอาการปวดและมีรอยแดงประมาณ 3-5 วัน อาจมีผิวลอก ซึ่งเป็นผลัดเซลล์ผิวในช่วงวันสุดท้ายเพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่ทดแทน
2. ผิวไหม้แดดระดับปานกลาง
จะมีอาการเจ็บปวดบริเวณผิวไหม้มากกว่าปกติ รู้สึกแสบร้อนเมื่อสัมผัสผิวไหม้ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในช่วงฟื้นฟูผิวให้กลับมาเป็นปกติ และผิวจะลอกหลังจากหายประมาณ 2-3 วัน
3. ผิวไหม้แดดรุนแรงมาก
จะมีอาการแดงมากและมีตุ่มน้ำบริเวณแผล ทั้งนี้อาจใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จนกว่าจะฟื้นฟูสภาพผิวจนกลับมาเป็นปกติ หากอยู่ในภาวะดังกล่าวแนะนำให้พบแพทย์โดยเร็วที่สุด
อันตรายจากหน้าไหม้แดด
- เมื่อได้รับรังสียูวีเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังในระยะยาว
- เมื่อผิวหนังถูกทำลายเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงต่อผิวหนังถูกทำลายและพัฒนากลายเป็นมะเร็งผิวหนัง
- เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ หากรุนแรงอาจถึงขั้นอ่อนเพลียรุนแรงหรือหมดสติ
- มีไข้ หนาวสั่น วิงเวียนศีรษะ
ใครบ้างที่เสี่ยงต่อหน้าไหม้แดด
- ผู้ที่มีผิวขาว
- ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- ผู้ที่เสี่ยงต่อการโดนแดดเป็นประจำและเป็นเวลานาน
- ผู้ที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเป็นเวลานาน
- ผู้ที่ใช้ยาที่มีคุณสมบัติไวต่อแสง
วิธีฟื้นฟูผิวหน้าจากภาวะไหม้แดด
1.ดื่มน้ำให้มากขึ้น
เมื่อร่างกายอยู่ในพื้นที่ที่มีแดดจัดซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง ร่างกายจึงต้องสร้างเหงื่อเพิ่มขึ้นเพื่อปรับอุณหภูมิร่างกายให้สมดุล ร่างกายจึงสูญเสียน้ำในร่างกายมากกว่าเดิม ดังนั้นการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ตามปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย เนื่องจากผิวต้องการความชุ่มชื้นเพื่อฟื้นฟูและเติมเต็มน้ำที่สูญเสียไป ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มบางประเภท เช่น กาแฟ โซดา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีฤทธิ์ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น
2. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการโดนแดด
โดยการแต่งกายมิดชิดเมื่อต้องออกแดด ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าหนา แดดส่องไม่ทะลุ, ไม่อยู่ในสถานที่ที่มีแดดเกิน 30 นาที, พกร่มกางทุกครั้งเมื่อโดนแดด
3. บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันรังสียูวีเอ (UVA) และยูวีบี (UVB) โดยทาครีมก่อนออกไปข้างนอกอย่างน้อย 30 นาที และทาอย่างสม่ำเสมอแม้แต่ในวันที่ไม่มีแดด
4. ฉีดเมโส
เมโส (Mesotheraphy) เป็นวิธีการรักษาโดยการฉีดสารบำรุงต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ซึ่งจะช่วยบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น ผิวมีสุขภาพดี ข้อดีของเมโสนั้นจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์เร็วกว่าครีมบำรุงผิวที่ใช้ระยะเวลาและความสม่ำเสมอ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองหรือละเลยการดูแลผิวเป็นเวลานาน
หน้าโทรม ผิวแห้งกร้าน แก้ได้ง่าย ๆ ด้วยเทคนิค Mesotherapy
ทำไมต้องดูแลผิวกับหมอโบ ที่ De Beau Clinic
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครมีปัญหาอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
บทความที่น่าสนใจ
- อยากหน้าใสต้องฉีดอะไร ฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือ ทำเมโสดีกว่ากัน
- เคล็ดลับเพิ่มความฉ่ำให้ผิว สยบผิวแห้งกร้าน ให้เนียนชุ่มชื้น
- อันตรายจากการซื้อฉีดเมโสเอง ร้ายแรงกว่าที่คุณคิด