ดูแลผิวหน้าวัย 40 ควรเลือกหัตถการอะไรดี? เป็นที่ทราบกันดีค่ะว่าเมื่อก้าวเข้าสู่วัย 40 การเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณของเรานั้นจะเริ่มชัดเจนขึ้น ทั้งริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และความหมองคล้ำที่สะสมตามวัยที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ดังนั้น การดูแลผิวจึงต้องอาศัยแนวทางที่ลึกซึ้งและตรงจุดมากขึ้น แต่หัตถการความงามแบบไหนที่ตอบโจทย์ผู้หญิงวัยนี้ได้ดีที่สุด? วันนี้ หมอโบ มีคำตอบ พร้อมแนะนำทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนสามารถเผยผิวสวยได้อย่างมั่นใจเมื่อก้าวเข้าสู่วัยเลข 4 ค่ะ
ดูแลผิวหน้าวัย 40 ดูแลยังไง ต้องเลือกหัตถการแบบไหนจึงจะแก้ไขปัญหาผิวในวัยเลข 4 ได้ตรงสาเหตุ?
จากที่หมอโบบอกไปค่ะว่า เมื่ออายุเข้าสู่เลข 4 ผิวหน้าก็เริ่มส่งสัญญาณแห่งวัยที่ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ความหย่อนคล้อย หรือปัญหาผิวที่ฟื้นตัวช้ากว่าเดิม การดูแลผิวในวัยนี้จึงต้องมีแนวทางที่ลึกซึ้งกว่าการบำรุงเพียงผิวเผิน เพราะเมื่อโครงสร้างผิวเริ่มเปลี่ยนไป คอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวลดลง ส่งผลให้ความยืดหยุ่นของผิวลดลงตามไปด้วย อีกทั้งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวทำงานช้าลง ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใสเหมือนเดิม ปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้สกินแคร์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการดูแลที่เข้มข้นขึ้น รวมถึงการเลือกหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
ซึ่งหัตถการความงามในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกหลากหลายทีเดียวค่ะ ตั้งแต่เทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิว ไปจนถึงการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน แต่หัตถการไหนล่ะที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของผู้หญิงวัย 40+ และให้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดที่สุด? มาหาคำตอบไปพร้อมกัน เพื่อให้ทุกคนดูแลผิวได้อย่างมั่นใจ และเผยผิวสวยสุขภาพดีได้ในทุกช่วงวัยค่ะ
มาดูกันก่อน ปัญหาผิวหน้าที่ผู้หญิงวัย 40 ต้องเจอ มีอะไรบ้าง?
สำหรับผู้หญิงวัย 40 นั้นมักเผชิญกับปัญหาผิวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างผิวตามวัยค่ะ ซึ่งสาเหตุนอกจากโครงสร้างผิวแล้วอาจรวมถึงปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ด้วย เช่น แสงแดด มลภาวะ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยปัญหาหลัก ๆ ที่พบบ่อย ได้แก่…
1. ริ้วรอยและร่องลึก
เมื่อคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวลดลง ผิวจะสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้เกิดริ้วรอยตื้นและร่องลึก โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก หางตา และร่องแก้ม
2. ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
เมื่อโครงสร้างผิวเริ่มอ่อนแอลง ไขมันใต้ผิวลดลง และแรงโน้มถ่วงทำให้ผิวหย่อนคล้อย เห็นได้ชัดบริเวณแก้ม แนวกรอบหน้า และหนังตาตก
3. ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
ต่อมไขมันผลิตน้ำมันลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นง่าย ผิวดูแห้งกร้าน ขาดน้ำ และบางครั้งอาจลอกเป็นขุย
4. สีผิวไม่สม่ำเสมอและจุดด่างดำเพิ่มขึ้น
เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งอาจเกิดจากแสงแดดหรือฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง
5. ผิวบางลงและไวต่อการระคายเคือง
เมื่อชั้นผิวบางลง ผิวจะอ่อนแอ ไวต่อแสงแดดและมลภาวะ ทำให้เกิดการอักเสบและแพ้ง่ายขึ้น
6. การผลัดเซลล์ผิวช้าลง ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ
กระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่เคยทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อวัยหนุ่มสาว เริ่มช้าลง ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ ดูไม่สดใส และมีผิวสัมผัสที่ไม่เรียบเนียน
7. รูขุมขนกว้างขึ้น
ผิวสูญเสียความกระชับ ทำให้รูขุมขนดูใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะบริเวณแก้มและจมูก
8. ฟื้นฟูผิวได้ช้าลง
ไม่ว่าจะเป็นรอยสิว แผล หรือรอยแดงจากการระคายเคือง ผิววัย 40 ใช้เวลาฟื้นฟูนานขึ้นกว่าช่วงวัยหนุ่มสาวค่ะ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ด้วยการดูแลผิวที่เหมาะสม ทั้งการใช้สกินแคร์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน และเลือกหัตถการความงามที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูโครงสร้างผิว และทำให้ผิวกลับมาดูสุขภาพดีค่ะ
หัตถการจากหมอโบ ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาผิวในวัย 40+ มีอะไรบ้าง?
หัตถการที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าของผู้หญิงวัย 40 มีหลายประเภท โดยแต่ละเทคนิคจะช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงสภาพผิวให้ดีขึ้นตามปัญหาที่ต้องการแก้ไข เรามาดูกันว่าแต่ละตัวช่วยเรื่องอะไร และเหมาะกับใครบ้างค่ะ…
1. โบท็อกซ์ (Botox): ลดริ้วรอยและร่องลึก
- ช่วยเรื่อง: ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หางตา รอยขมวดคิ้ว และร่องลึกบางจุด
- ทำงานอย่างไร: ฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่เกิดริ้วรอย ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ เช่น ตีนกา หรือรอยย่นหน้าผาก
2. ฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid Filler): เติมเต็มร่องลึก และคืนความอิ่มฟูให้ผิว
- ช่วยเรื่อง: ร่องแก้ม ร่องใต้ตาลึก มุมปากตก ขมับตอบ และใบหน้าที่ดูโทรมจากไขมันใต้ผิวที่ลดลง
- ทำงานอย่างไร: ฉีดสารไฮยาลูโรนิก แอซิด (HA) เพื่อเติมเต็มผิวและช่วยให้ใบหน้าดูสดใส อิ่มน้ำ
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีร่องลึก ผิวขาดความอิ่มฟู หรืออยากปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
3. เทอร์มาจ (Thermage): กระชับผิวที่หย่อนคล้อย
- ช่วยเรื่อง: ผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด คิ้วตก หนังตาตก
- ทำงานอย่างไร: ใช้คลื่นวิทยุ (RF) กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวยกกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
- เหมาะกับ: ผู้ที่เริ่มมีความหย่อนคล้อยของผิว แต่ยังไม่ต้องการศัลยกรรม
4. อัลเทอร่า (Ultherapy): ยกกระชับผิวลึกถึงชั้น SMAS
- ช่วยเรื่อง: ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย เช่น กรอบหน้า คิ้วลู่ แก้มห้อย
- ทำงานอย่างไร: ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (HIFU) ลงลึกถึงชั้น SMAS (ชั้นที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด แต่ต้องการผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการทำศัลยกรรม
5. ไฮฟู (HIFU – High Intensity Focused Ultrasound): ยกกระชับผิวแบบไม่เจ็บ
- ช่วยเรื่อง: ผิวหน้าหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง และริ้วรอยเล็ก ๆ
- ทำงานอย่างไร: ใช้พลังงานอัลตราซาวด์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวแน่นและกระชับขึ้น
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าแบบไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น
6. เลเซอร์ลดจุดด่างดำและกระชับรูขุมขน
- ช่วยเรื่อง: ฝ้า กระ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และรูขุมขนกว้าง
- ทำงานอย่างไร: เลเซอร์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาผิวที่เกิดขึ้นในวัย 40 โดยเฉพาะเรื่อง ฝ้า กระ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และรูขุมขนกว้าง ซึ่งสามารถเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับปัญหาผิวแต่ละประเภท เช่น Pico Laser , Fractional CO2 Laser และ IPL (Intense Pulsed Light) เป็นต้น
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีจุดด่างดำ ฝ้า กระ หรือผิวดูหมองคล้ำ
7. เมโสหน้าใส (Meso Therapy) – บำรุงลึกถึงชั้นผิว
- ช่วยเรื่อง: ผิวแห้ง ขาดน้ำ หมองคล้ำ และฟื้นฟูผิวจากภายใน
- ทำงานอย่างไร: ฉีดสารอาหารผิว เช่น วิตามิน แอนติออกซิแดนท์ และไฮยาลูรอนิค แอซิด ลงสู่ผิวโดยตรง เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีผิวโทรม ต้องการความชุ่มชื้น และผิวกระจ่างใสแบบเร่งด่วน
8. Sculptra: ฟื้นฟูคอลลาเจน เติมเต็มใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่วยเรื่อง: ผิวขาดความกระชับ ร่องลึก ผิวบางลง และใบหน้าที่ดูตอบหรือโทรม
- ทำงานอย่างไร: Sculptra เป็นสารโพลีแอลแลคติกแอซิด (Poly-L-Lactic Acid – PLLA) ที่ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ให้ผลลัพธ์แบบเติมเต็มทันทีเหมือนฟิลเลอร์ แต่จะช่วยให้ผิวฟูขึ้นเรื่อย ๆ และดูอ่อนเยาว์ขึ้นในระยะยาว
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ใช้สารเติมเต็มอย่างไฮยาลูรอนิค ฟิลเลอร์ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหา ใบหน้าตอบ ร่องลึก หรือผิวที่เริ่มสูญเสียความแน่นและยืดหยุ่น นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ส่งผลให้ผิวค่อย ๆ ดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ขึ้นในระยะยาว
ท้ายที่สุด หมอโบขอเน้นย้ำอีกครั้งค่ะว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ปัญหาต่าง ๆ เช่น ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ผิวบางลง สีผิวไม่สม่ำเสมอ และความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองที่ลดลง ล้วนเป็นเรื่องที่สาว ๆ วัย 40+ ต้องเผชิญ การดูแลผิวในวัยนี้จึงต้องลึกซึ้งกว่าการใช้สกินแคร์เพียงอย่างเดียว
ซึ่งหัตถการที่เหมาะสมสามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็น Thermage และ Ulthera สำหรับยกกระชับผิว Sculptra และ ฟิลเลอร์ สำหรับเติมเต็มโครงสร้างผิว Pico Laser และ IPL สำหรับลดเม็ดสีผิดปกติ รวมถึง Botox และ Meso Fat ที่ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสและสมดุลมากขึ้น แต่ละเทคนิคมีข้อดีที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและผลลัพธ์ที่ต้องการ
สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีดูแลผิวที่เหมาะกับตัวเอง การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คือกุญแจสำคัญ เพื่อให้สามารถเลือกหัตถการที่ตอบโจทย์และปลอดภัยที่สุด ให้ผิวของสาว ๆ ดูอ่อนเยาว์ กระชับ และมีสุขภาพดีในทุกช่วงวัยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สูตรมาร์คหน้า DIY ทำได้เองที่บ้าน ทำทุกวันสวยทุกวัน
ฟิลเลอร์ละลาย จริงหรือไม่? ถ้าฉีดฟิลเลอร์ห้ามตากแดด
ฉีดฟิลเลอร์ 7 ส่วนใบหน้าเสริมดวง รับทรัพย์ แก้ชง เสริมดวงชะตา
นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
: 097 426-6956 หรือ 097 429-5645
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”
สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ