รู้หรือไม่? ปัญหาหน้าแก่ไม่ได้เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างเดียว แต่เกิดจากพฤติกรรมบางอย่างที่คุณอาจจะเผลอทำโดยไม่รู้ตัวจนติดเป็นนิสัย กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไป ริ้วรอยขึ้นเต็มหน้าแล้ว มุแง !! … วันนี้หมอโบมีเช็คลิสต์พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้หน้าแก่เกินวัย คุณมีทั้งหมดกี่ข้อ? มาเช็คไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

พฤติกรรมทำหน้าแก่เกินวัย คุณมีกี่ข้อ?

1.ตากแดดเป็นเวลานาน

การตากแดดเป็นเวลานาน ๆ ส่งผลเสียต่อผิวอย่างมากเลยค่ะ เนื่องจากแสงแดดเต็มไปด้วย UV ที่เป็นตัวการทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิวทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น เหี่ยวย่นเร็วก่อนวัย นอกจากนี้แสงแดดยังกระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินในผิวสีเข้มขึ้น เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วยค่ะ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการตากแดดจัด ๆ จะดีที่สุดค่ะ

อ่านบทความ : ฟิลเลอร์ละลาย จริงหรือไม่? ถ้าฉีดฟิลเลอร์ห้ามตากแดด

2.ไม่ทาครีมกันแดด

สารภาพมาซะดี ๆ ว่า สาว ๆ ทาครีมกันแดดทุกครั้งหรือไม่? หลายคนมักจะตอบว่าทาทุกครั้งก่อนออกจากบ้านนะคะคุณหมอ … จุดนี้เป็นจุดพลาดมาก ๆ ค่ะ เพราะครีมกันแดดนั้นจำเป็นที่จะต้อง “ทาทุกวันเป็นประจำ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ออกไปเริงร่ากลางแดด” ค่ะ เพราะว่า รังสี UV นั้นไม่ได้มีเฉพาะในแดดเท่านั้นแต่ว่ามันแฝงอยู่กับแทบทุกที่ เช่น จอคอมพิวเตอร์ จอทีวี หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ กระจกใสหรือแม้แต่กระจกสีทึบแสงที่ถึงแม้จะไม่ร้อนแต่แสงยูวีก็สามารถทะลุเข้ามาทำร้ายผิวได้ถึง 25 – 50% ดังนั้นอย่าละเลยการทาครีมกันแดดเป็นประจำจะดีที่สุดค่ะ

3.สูบบุหรี่

ใครที่เป็นสิงห์อมควันอาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีริ้วรอยก่อนวัยเพราะว่าบุหรี่ทำให้ผิวแห้ง เพิ่มจุดด่างดำให้แก่ใบหน้า และยังทำให้ริมฝีปากดำอีกด้วย บางคนอาจจะเลี่ยงไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทน แต่ความจริงแล้วก็ให้ผลลัพธ์ไม่ต่างกันเลยค่ะ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดควรลดปริมาณการสูบให้น้อยลง หรืองดไปเลยก็จะเป็นการดีต่อสุขภาพระยะยาวค่ะ

4.ดื่มแอลกอฮอล์หนัก

การดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ส่งผลร้ายแค่สุขภาพภายในเท่านั้น แต่ยังส่งผลร้ายต่อสุขภาพผิวของเราด้วย เพราะในแอลกอฮอล์มีสารบางอย่างที่เมื่อเข้าไปในร่างกายแล้วจะทำปฏิกิริยาภายในโดยการไปลดระดับสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ผิวดูแห้งกร้าน มีรอยหมองคล้ำ ทำให้ผิวดูแห้งคล้ายขาดน้ำ ดังนั้นควรลดการทานแอลกอฮอล์ให้น้อยลงจะดีที่สุดค่ะ

5.ไม่รักษาผิวหน้า

สาว ๆ หลายคนมักจะชอบการแต่งหน้าจัด ๆ แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านกลับละเลยการทำความสะอาดให้หมดจด รวมถึงพฤติกรรมการเช็ดหน้าแรง ๆ ทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะคราบเครื่องสำอางที่ตกค้างจะทำให้ผิวแก่ หน้าเหี่ยว เวลาทาครีมบำรุงลงไปก็มักจะเข้าไปบำรุงไม่เต็มที่ และการเช็ดหน้าแรงก็ไม่ต่างอะไรกับการดึงหน้าแรง ๆ ทำให้ผิวเป็นรอยง่าย

6.ดื่มน้ำน้อย

โดยปกติแล้วร่างกายของเรานั้นจำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 7 – 8 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ เพราะว่าเนื้อเยื่อและผิวหนังต้องการน้ำเพื่อรักษาความยืดหยุ่นของผิว หากดื่มน้ำน้อยจะทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรืออาจเกิดสารก่อนิ่วมากกว่าปกติและอาจจะเกิดโรคนิ่วในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ เช่น นิ่วในถุงน้ำดีค่ะ

7.ทานของหวาน

น้ำตาลเป็นตัวการสำคัญที่เข้าไปเป็นตัวทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ขาดความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยมากขึ้น ส่งผลให้หน้ามันง่ายก่อให้เกิดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบ เพราะปริมาณน้ำตาลในร่างกายที่ขึ้นสูงขึ้น ทำให้ผิวแห้งขาดน้ำ และก่อให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา

8.ความเครียดสะสม

หนุ่ม ๆ สาว ๆ ในวัยทำงานที่มักจะทำงานหามรุ่งหามค่ำ เครียดสะสมอยู่เป็นประจำจะต้องระวังนะคะ เพราะว่า ความเครียดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้หน้าแก่ก่อนวัย ทำให้หน้ามีริ้วรอยมากขึ้น ซึ่งมีผลวิจัยรองรับด้วยค่ะว่า ความเครียดนั้นมีผลต่อสุขภาพจิตใจ ทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพได้ง่าย ดังนั้นทางที่ดีควรจะทำงานอย่างพอดี ไม่หักโหมจนเกินไป และอย่าลืมหาเวลาว่างไปเที่ยว หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายบ้างนะคะ

9.นอนดึก

เนื่องจากเวลากลางคืนที่เป็นช่วงเวลาที่เรานอนหลับนั้น ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ออกมาเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ดังนั้นหากนอนดึกบ่อย ๆ ก็จะทำให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนที่หลั่งออกมาได้ไม่เต็มที่และไม่สม่ำเสมอ จึงส่งผลให้หน้าแก่ ริ้วรอยถามหาทั้งริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยร่องแก้ม รอยย่นต่าง ๆ ดังนั้นไม่ควรนอนดึกเกิน 23.00 น. นะคะ

เคล็ดลับกู้ผิว ป้องกันหน้าแก่เกินวัย

สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยถามหา มีใบหน้าที่ดูมีอายุเกินวัย หรือ ใต้ตาคล้ำเสีย ทาครีมก็ไม่หายสักที บางทีคุณอาจจะต้องทำการรักษาที่ล้ำลึกกว่านั้นนะคะ เพราะการทาครีมนั้นสามารถช่วยฟื้นบำรุงผิวได้เพียงชั้นผิวภายนอกเท่านั้น แต่ถ้าหากต้องการรักษาพร้อมฟื้นบำรุงถึงภายในแล้วล่ะก็.. หมอโบแนะนำให้ลองฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบของสารไฮยาลูโรนิคแอซิด (hyaluronic acid) ดูค่ะ เพราะว่าสาร HA นั้นมีโมเลกุลที่คล้ายกับคอลลาเจนใต้ผิวของเรา ซึ่งมีความชุ่มชื้น ช่วยเติมเต็มริ้วรอยส่วนต่าง ๆ ได้ทั้งริ้วรอยลึกและตื้นให้ดูดี ผิวเรียบเนียน มีความเด้งดึ่ง เต่งตึง หน้าเด็กทันทีภายใน 30 นาที แถมไม่ต้องพักฟื้นด้วยค่ะ สำหรับฟิลเลอร์ที่หมอใช้ก็เป็นฟิลเลอร์จากยุโรปแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยเท่านั้น รวมถึงประสบการณ์ของหมอเองที่ #ยืนหนึ่ง ในวงการฟิลเลอร์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะ “สวยมากเสี่ยงน้อย” หากใครอยากปรึกษาเรื่องฟิลเลอร์หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ

หรืออีกวิธีหรึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ก็คือการฉีดโบท็อกซ์ หรือการฉีดสาร Botulinum Toxin A ซึ่งเป็นสารสกัดที่ได้จากแบคทีเรียชนิดหนึ่งโดยความพิเศษของเจ้าแบคทีเรียชนิดนี้คือ จะช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยกระชับผิว ไปจนถึงการปรับรูบหน้าให้ออกมาสวยงามตามที่ต้องการได้ ซึ่งสามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ไม่เจ็บตัวเหมือนการผ่าตัด  ซึ่งหากใช้ร่วมกับกับการฉีดฟิลเลอร์ด้วยแล้วก็ยิ่งเพิ่มความสวยขึ้นอย่างมั่นใจเลยค่ะ

นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

: 097 426-6956 หรือ 097 429-5645

หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และเมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” (de beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามา รีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!”