ฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ เมโสลดไขมัน ร้อยไหม แตกต่างกันอย่างไร?

หากต้องการใบหน้าที่เรียว กระจ่างใส นอกจากจะหมั่นออกกำลังกายและเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ทั้งการฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ เมโสลดไขมัน ร้อยไหม ต่างก็เป็นวิธีการรักษาที่ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน แต่จากวิธีทั้งหมดนี้ เราควรจะเลือกยกกระชับใบหน้าให้เรียวขึ้นด้วยวิธีใด หากใครสงสัยแบบเดียวกันอยู่ ที่นี่มีคำตอบ!

ส่องเทคนิคกระชับหน้าเรียว รูปหน้าวี เสกได้ดั่งใจ

ปัจจุบัน คลินิกเสริมความงามต่าง ๆ มีการพัฒนาบริการที่ช่วยดูแลรูปทรงใบหน้าในฝันของสาว ๆ ให้เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหรือใช้เวลาพักฟื้นนาน ซึ่งเทคนิคที่ช่วยยกกระชับใบหน้าให้ได้รูปทรงที่สวยงามตามต้องการ พร้อมดูแลผิวให้กระจ่างใส ดูสุขภาพดีได้นั้น มีให้เลือกหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งหากสาวคนไหนที่สนใจทำ มารู้ถึงความแตกต่างของแต่ละเทคนิคได้ดังนี้

เทคนิคการฉีดโบท็อก

ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า รอยเหี่ยวย่นที่หน้าผาก หางตา สามารถดูแลและจัดการได้ด้วยการฉีดโบท็อก หรือสาร Botulinum toxin type A ซึ่งเป็นโปรตีนที่สกัดจากการสร้างของแบคทีเรีย มีประสิทธิภาพทำให้กล้ามเนื้อผิวบริเวณที่กำหนดลดการทำงานหรืออ่อนแรงลงชั่วคราว ช่วยทำให้กล้ามเนื้อผิวเกิดการคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ ตื้นขึ้น ช่วยยกกระชับผิวให้ตึงและมีกรอบใบหน้าชัดขึ้น แล้วฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล? โบท็อกจะเริ่มเห็นผลเต็มที่ประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังฉีด โดยกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะค่อย ๆ เล็กลงได้เอง

คำแนะนำ : เทคนิคการฉีดโบท็อก จะฉีดเข้าตรงบริเวณส่วนที่มีปัญหา ซึ่งจะออกฤทธิ์โดยตรงต่อกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ดังนั้นควรใช้บริการกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และเลือกใช้สารโบท็อกที่มีคุณภาพ เพื่อป้องกันอาการที่ไม่พึงประสงค์ เช่น หน้าเบี้ยว หรือผิวหย่อนคล้อยแบบผิดปกติ เป็นต้น

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์

ปัญหาริ้วรอยร่องลึกบริเวณต่างๆ ของใบหน้า หรือต้องการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้าให้ดูอิ่มฟู เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ จะเป็นอีกตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาผิวหน้าเหล่านี้ได้ ซึ่งสารฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ที่มีประสิทธิภาพในการเติมเต็มชั้นผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพและมีการยุบตัวลง ให้กลับมาเรียบเนียน เต่งตึง และสามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณนั้นดูอิ่มน้ำ ผิวฟูได้อย่างเป็นธรรมชาติ

คำแนะนำ : สำหรับคนที่เลือกใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ ควรศึกษาข้อมูลที่จำเป็น และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน รวมถึงหลังทำควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา และกดนวดในจุดที่ฉีด หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ความร้อนทุกชนิด และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม อาหารบางชนิด เพื่อรักษาประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน

เทคนิคการฉีดเมโสแฟต

สำหรับคนที่มีแก้มเยอะ เหนียงออก เทคนิคการเมโสแฟตจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ง่าย ๆ การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) จะเลือกใช้ตัวยาที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน พร้อมช่วยกระชับสัดส่วนเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัวเยอะ ซึ่งในปัจจุบันเมโสแฟตสามารถควบคู่กับการฉีดโบท็อกได้ จะช่วยลดขนาด กระชับผิวบริเวณที่ต้องการให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น

คำแนะนำ : เทคนิคการฉีดเมโสแฟตจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังทำ รวมถึงอาจต้องเข้ามาทำซ้ำประมาณ 4-5 ครั้ง จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้มากยิ่งขึ้น

เทคนิคการร้อยไหม

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ปัญหาผิวต่าง ๆ ก็ตามมา ไม่ว่าจะเป็นความหย่อนคล้อยบนใบหน้า หรือริ้วรอยต่าง ๆ เริ่มปรากฏให้เห็น ซึ่งเทคนิคการร้อยไหม คือการใช้ไหมละลายจำนวนมากมาร้อยเรียงเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณต่าง ๆ ทำให้ผิวเกิดการกระตุ้นเซลล์สร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่สำหรับซ่อมแซม และช่วยให้ผิวมีความเต่งตึงขึ้นได้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ช่วยยกกระชับผิวหน้าที่ดี เห็นผลนาน โดยไม่ต้องผ่าตัด

คำแนะนำ : หากไม่อยากเจอกับปัญหาหลังร้อยไหม เช่น เนื้อเยื่ออักเสบ ไหมทะลุ หรือไหมขาด ก่อนตัดสินใจทำ ควรเลือกใช้บริการกับคลินิกที่มีมาตรฐานไว้ใจได้ รวมถึงเลือกใช้ไหมที่ปลอดภัยสำหรับผิว

ควรเลือกใช้เทคนิคยกกระชับผิวให้หน้าเรียวแบบไหนดี?

• พิจารณาจากระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะคงอยู่

เทคนิคที่ยกกระชับใบหน้าแต่ละวิธี ต่างให้ระยะเวลาผลลัพธ์ที่คงอยู่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลตัวเอง ให้ประสิทธิภาพของสารยังคงอยู่ได้ยาวนานมากขึ้น ซึ่งการฉีดโบท็อกอยู่ได้นาน 3-4 เดือน ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน เมโสแฟตอยู่ได้นาน 2-3 เดือน และการร้อยไหมอยู่ได้นาน 4-6 เดือน

• งบประมาณที่ตั้งไว้

งบประมาณ เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเลือกใช้บริการแบบไหน ซึ่งการฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ และเมโส จะมีราคาเริ่มต้นที่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไขของแต่ละคน แต่สำหรับการร้อยไหม จะเริ่มต้นที่หลักพันปลาย ๆ ไปจนถึงหลักหมื่น เนื่องจากเป็นการยกกระชับใบหน้าทั้งหมด ดังนั้น ลองตัดสินจากจุดที่ต้องการแก้ไข แล้วนำไปปรึกษาแพทย์ เพื่อเลือกใช้บริการที่เหมาะสมกับงบที่มีได้

• ผลลัพธ์ที่ได้ และการใช้ชีวิตประจำวัน

การดูแลตัวเองที่ดีหลังเข้ารับบริการฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ เมโส หรือร้อยไหม จะส่งผลถึงประสิทธิภาพสารเหล่านี้ให้อยู่ได้คงทนและยาวนานมากขึ้น รวมถึงไม่ให้เกิดปัญหาผิวอักเสบตามได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีการดูแลที่ไม่แตกต่างกันมากนัก เช่น หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความร้อนหรืออบอ้าว หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเข้ารับบริการการแล้วควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด รวมถึงข้อระวังพิเศษของแต่ละบริการจากแพทย์เพิ่มเติมอีกด้วย

หากใครยังไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกรักษาปรับรูปหน้าด้วยวิธีไหน ลองมาปรึกษากับหมอโบเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดที่ DE BEAU CLINIC หรือทักไลน์มาเพื่อปรึกษากับหมอโบฟรี!

นัดหมาย หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
inbox : m.me/debeauclinic
Line : @debeauclinic
Call : 097 426-6956 หรือ 097 429-5645
website : www.debeauclinic.com