ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย แบบไม่ต้องผ่าตัด
ใครที่กำลังมองหาเคล็ดลับการลดริ้วรอยด้วยวิธีง่าย ๆ ไม่เจ็บตัวและไม่ต้องพักฟื้นนาน “เทคนิคการลดริ้วรอยแบบไม่ต้องผ่าตัดหรือการฉีดโบท็อก” ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเลยค่ะ เพราะเทคนิคนี้ไม่ได้มีประโยชน์แค่ช่วยลดเลือนริ้วรอยเท่านั้น แต่ยังช่วยเรื่องของการปรับรูปให้ใบหน้าเรียวเล็ก สวยงาม ลดกรามได้ด้วย ทำให้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่สาว ๆ ยุคปัจจุบัน
โดยวิธีการรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและปรับรูปหน้านั้น คุณหมอจะใช้โปรตีนที่สกัดจากแบคทีเรียซึ่งมีการออกฤทธิ์ที่ปลายประสาท ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว โดยจะฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพื่อลดริ้วรอยเหี่ยวย่นหรือในบางรายอาจจะฉีดเพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าและร่างกายให้เล็กเรียวดูสวยงามขึ้น สำหรับใครที่มีคำถามว่าฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล? คำตอบก็คือหลังฉีดตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 3 – 7 วัน ออกฤทธิ์เต็มที่ประมาณ 2 สัปดาห์ และอยู่ได้นานประมาณ 3 – 4 เดือนขึ้นอยู่กับปริมาณและตำแหน่งที่ฉีด
สามารถฉีดจุดไหนได้บ้าง?
จุดที่นิยมฉีด ลดริ้วรอย หลายคนมักจะคิดว่าสามารถฉีดได้ที่ใบหน้าเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วไม่เสมอไปค่ะ เพราะสามารถนำมาฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน เช่น
- หน้าผาก ระหว่างคิ้ว – เป็นโบท็อกที่ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นและรอยขมวดคิ้ว
- หางตา – เป็นการฉีดโบท็อกตีนกาที่ช่วยลดรอยตีนกาได้ดี
- ปีกจมูก – ช่วยลดปีกจมูกให้เล็กลง
- ใบหน้า – ช่วยยกกระชับใบหน้า หลายคนเรียกว่าโบท็อกลิฟกรอบหน้าหรือโบท็อกหน้าเรียว
- คอ – ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น เหนียง และ รอยปล้องคอ
- รักแร้ – โบท็อกรักแร้จะช่วยลดเหงื่อ แก้ปัญหารักแร้เปียกและกลิ่นตัว
- ฝ่ามือ – ลดการทำงานของต่อมเหงื่อ เหงื่อออกน้อยลง
- น่องขา – ขาเรียวเล็ก
- ฝ่าเท้า – ลดต่อมเหงื่อ ลดกลิ่นเท้า
ใครที่ควรฉีด?
จริง ๆ การฉีดลดริ้วรอยนั้น ถึงแม้ว่าจะนิยมในหมู่สาว ๆ แต่ความเป็นจริงแล้วสามารถฉีดได้ทุกเพศค่ะ แต่มีข้อยกเว้นสำหรับผู้มีโรคประจำตัวที่มีภาวะเลือดออกง่าย ซึ่งหากมีภาวะนี้ควรจะหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาคุณหมอก่อน
และอีกหนึ่งกรณีที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือ ผู้ที่กำลังจัดฟันอยู่ หมอไม่แนะนำให้ฉีด เพราะในช่วงเวลาระหว่างจัดฟันนั้น จำเป็นต้องติดใช้เครื่องมือปรับโครงสร้างในช่องปากที่อาจจะส่งผลทำให้โครงหน้าเปลี่ยนไปอยู่เเล้ว หากฉีดตัวยาเข้าไปอีกอาจจะส่งผลให้กล้ามเนื้อลดลง ทำให้ส่งผลต่อเครื่องมือและแผนแนวการเคลื่อนของฟันที่หมอฟันวางไว้ ดังนั้นหากต้องการฉีดจริง ๆ แนะนำให้ปรึกษาหมอฟันก่อนค่ะ
คำแนะนำ “ก่อนฉีด”
- ในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างใบหน้าทุกครั้ง ควรทำการปรึกษาคุณหมอก่อน เพื่อให้คุณหมอได้ประเมินโครงสร้างให้เพื่อผลลัพธ์ใบหน้าที่สวยเป๊ะหลังฉีดค่ะ
- หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ก่อน
- ไม่ควรอยู่ในภาวะตั้งครรภ์และให้นมบุตร
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารเสริมบางประเภท เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา แปะก๊วยโสม และสมุนไพรที่ให้ความร้อนประมาณ 3 วันก่อนฉีด
- งดทานยาแก้อักเสบหรือแอสไพรินก่อนการฉีดยา 7 วัน หากจำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าวควรแจ้งและปรึกษาแพทย์ก่อน
คำแนะนำ “หลังฉีด”
- ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
- ควรงดการทานอาหารเสริมและวิตามินบางชนิดประมาณ 7 – 10 วัน หากเป็นตัวยาที่จำเป็นต้องทานเป็นประจำควรปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ไม่ควรนอนราบประมาณ 3 – 4 ชั่วโมงหลังฉีดเสร็จ
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม ซาวน่า หรือกิจกรรมที่ต้องใกล้ชิดความร้อนประมาณ 14 วัน
- หยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 7 วัน
- เว้นการนวดหน้าหรือทำเลเซอร์ เป็นเวลา 14 วัน
- งดการทานอาหารรสชาติเผ็ดจัด
- พยายามบริหารใบหน้าด้วยการยิ้มเยอะ ๆ ยักคิ้ว หรือการเคี้ยว เพื่อให้ในบริเวณที่ฉีดออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้น
- งดการก้มหัวลงต่ำ
- ไม่ควรประคบเย็น เพราะจะขัดขวางการดูดซึมของตัวยา
- งดสูบบุหรี่ 14 วัน
ราคาเท่าไร?
สำหรับราคานั้น ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขแน่นอนได้ค่ะ เพราะขึ้นอยู่กับปัญหาของใบหน้าของคนไข้แต่ละคน ดังนั้นควรเข้ามาพบหมอเพื่อประเมินใบหน้า และสภาพร่างกายว่ามีความพร้อมสำหรับเข้ารับการบริการได้หรือไม่ หากได้รับคำปรึกษาที่ถูกวิธีจะสามารถช่วยให้หมอสามารถช่วยออกแบบใบหน้าให้คุณได้สวยและเป๊ะที่สุดค่ะ
ต้องฉีดซ้ำหรือไม่?
หลายคนคงสงสัยว่าโบท็อกอยู่ได้กี่เดือน? โดยการฉีดโปรแกรมลดริ้วรอยนั้นไม่ใช่การศัลยกรรมถาวรค่ะ ดังนั้นทำให้ผลลัพธ์ไม่สามารถอยู่ได้อย่างถาวร ซึ่งระยะเวลาว่าจะอยู่นานหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมานตัวยาที่ฉีด ตำแหน่งที่ฉีด ความลึกของริ้วรอยและปริมาณกล้ามเนื้อด้วย ซึ่งหลังฉีดจะยังคงสภาพความสวยนั้นได้ประมาณ 4 – 6 เดือน จากนั้นจะย่อยสลายไปเองตามธรรมชาติ และหากต้องการให้สวยเป๊ะแบบเดิม ก็จำเป็นจะต้องมาฉีดซ้ำ
ทำไมต้อง หมอโบ เดอโบคลินิก?
ในการเลือกเข้ารับบริการกับสถานพยาบาลจะเป็นสิ่งที่สำคัญนะคะ ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์เฉพาะทางที่มีความรู้พื้นฐานทางกายวิภาคของกล้ามเนื้อแต่ละมัด รวมทั้งเทคนิคการรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งหมอโบก็มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก โดยคุณหมอจะทำการประเมินโครงสร้างของใบหน้าของผู้ที่มาใช้บริการอย่างละเอียดทุกครั้ง ซึ่งการประเมินอย่างละเอียดนี้นั้น จะมีส่วนช่วยในเรื่องของความ “เป๊ะ” และยังลดการเกิดปัญหาตามมาหลังการรักษา ทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์แห่งความอ่อนเยาว์ ไร้ริ้วรอย สวยอย่างเป็นธรรมชาติแบบไม่ต้องกังวลไปอีกนานเลยค่ะ
หมอโบ หรือ พญ.ปาริฉัตร ตัณชวนิชย์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์ดูแลคนไข้ด้านความงามมากกว่า 15 ปี ศึกษาจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ Boston University สหรัฐอเมริกา และกลับมาทำงานเป็นแพทย์ประจำแผนกผิวหนังและศูนย์ความงามที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เมื่อสะสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 9 ปี ก็มาเปิดคลินิกของตนเองภายใต้ชื่อ “เดอ โบ คลินิก” ( De beau clinic) ซึ่งหมอโบเองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีคนไข้แวะเวียนเข้ามาให้คุณหมอช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้าเสมอ พร้อมทั้งรีวิวบอกกันปากต่อปากถึงความละเอียดของหมอโบว่า “ละเอียด เนียน เป๊ะ!” ซึ่งหากใครมีปัญหาต้องการปรึกษาเรื่องฉีดโบลดกราม ฟิลเลอร์ หรืออยากปรับรูปหน้าสามารถปรึกษาหมอโบได้นะคะ หมอยินดีดูแลเองทุกเคสค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
Facial treatments เทคนิคการบำรุงล้ำลึกถึงชั้นผิว คืนความชุ่มชื้น เพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้า
Ulthera เทคนิคยกกระชับหน้าเรียวแบบพิเศษ ยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด